คณะนักวิจัยโปแลนด์เผยผลการตรวจสอบมัมมี่อียิปต์โบราณ พบเป็นมัมมี่ที่มีทารกค้างอยู่ในครรภ์ ถือเป็นการค้นพบมัมมี่แม่ลูกอ่อนครั้งแรกของโลก
เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าว AP รายงานว่า การค้นพบครั้งนี้เป็นผลจากการตรวจสอบ มัมมี่อียิปต์โบราณ ที่เดิมทีเชื่อว่าเป็นนักบวชชาย และเป็นหนึ่งในชุดสะสมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในกรุงวอร์ซอ เมืองหลวงของประเทศ
มาร์เซนา โอซาเร็ก-ซิลกี (Marzena Ozarek-Szilke) นักมานุษยวิทยาและนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยวอร์ซอ (University of Warsaw) อธิบายว่า มัมมี่อายุกว่า 2,000 ปีนี้เดินทางมาถึงวอร์ซอในปี 1826 และมีจารึกบนโลงศพระบุชื่อนักบวชชาย จึงเชื่อกันว่ามัมมี่นี้เป็นนักบวชชาย และไม่มีการตรวจสอบใด ๆ จนกระทั่งปี 2016 จึงมีการพิสูจน์เพศด้วยการฉายรังสีเอกซเรย์ และผลวิเคราะห์ภาพเอกซเรย์ล่าสุดชี้ให้เห็นทารกในครรภ์ของมัมมี่
“สิ่งแรกที่น่าประหลาดใจคือมัมมี่นี้ไม่มีอวัยวะเพศ แต่มีหน้าอกและผมยาวแทน ฉันและสตานิสลอว์ สามีของดิฉันที่เป็นนักอียิปต์วิทยา ดูภาพเอกซเรย์ครั้งสุดท้ายเพื่อเตรียมสรุปโครงการและตีพิมพ์บทความวิจัย แต่เราพบบางสิ่งที่ดูคล้าย ‘เท้าจิ๋ว’ ในท้องของมัมมี่หญิงรายนี้ ตอนที่เราเห็นเท้าเล็ก ๆ และมือเล็ก ๆ (ของทารกในครรภ์) เราตกใจมาก” ซิลกีกล่าว และระบุว่า สตรีผู้นี้ที่มีอายุระหว่าง 20-30 ปี และทารกในครรภ์มีอายุราว 26-28 สัปดาห์ หรือประมาณ 7 เดือน
วอจเชียค เอสมันด์ (Wojciech Ejsmond) จากสถาบันวัฒนธรรมตะวันออกและเมดิเตอร์เรเนียน สังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติโปแลนด์ (Polish Academy of Sciences)กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่พบมัมมี่ที่มีลักษณะคล้ายกัน นั่นหมายความว่านี่เป็นมัมมี่ร่างเดียวในโลกที่มีทารกค้างอยู่ในครรภ์
อย่างไรก็ตาม สาเหตุการเสียชีวิตของสตรีผู้นี้ยังคงเป็นปริศนา คณะนักวิจัยกล่าวว่าจะเดินหน้าวิเคราะห์องค์ประกอบเลือดและฉายรังสีเพิ่มเติม เพื่อค้นหาตัวบ่งชี้ความเจ็บป่วยหรือสารพิษที่อาจเป็นเหตุให้ว่าที่คุณแม่รายนี้เสียชีวิตต่อไป
คลิปแสดงให้เห็นภาพฉายรังสีของมัมมี่ดังกล่าว
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส