สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมาว่า จีนได้นำรูปสลักนูน ‘ตี้โฮ่วหลี่โฝถู’ งานศิลป์สมบัติล้ำค่าของจีน มาชุบชีวิตใหม่ด้วยการใช้ ‘คนจริง’ เลียนแบบเสื้อผ้าหน้าผมและอากัปกริยา จนเกิดเป็นงานจำลองมีชีวิตที่ชวนตะลึง

ประติมากรรมดังกล่าวตั้งอยู่ในถ้ำกลางปินหยาง ในกลุ่มถ้ำหลงเหมิน เมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนานทางตอนกลางของจีน มีการแกะสลักไว้สองด้าน แบ่งเป็นภาพ ‘จักรพรรดิเซี่ยวเหวินแห่งราชวงศ์เว่ยเหนือ’ ผู้เคร่งขรึม ส่วนอีกด้านเป็นภาพของ ‘พระมเหสีเหวินเจา’ ผู้สง่างาม ท่ามกลางฉากหลังที่มีเหล่าบริวารถือธูปหอมและของสักการะห้อมล้อม 

ด้วยอายุเก่าแก่ย้อนไปถึงราชวงศ์เว่ยเมื่อ 1,500 ปีก่อน และความงามวิจิตร ทำให้งานศิลป์ชิ้นนี้เป็นผลงานศิลปะระดับสูง และสมบัติชาติจีนที่มีคุณค่าอย่างมหาศาล ทั้งด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

ทว่า ช่วงทศวรรษ 1930s ผลงานล้ำค่านี้ได้ถูกขโมยและขายไป ทั้งยังถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายส่วนกระจัดกระจายอยู่ในต่างแดน สร้างความเจ็บช้ำและเศร้าโศกแก่ชาวจีนเป็นอย่างยิ่ง

เกาตาน นักวิจัยจากสถาบันวิจัยถ้ำหลงเหมินกล่าวว่า จีนได้แสวงหาหลากหลายวิธีที่จะกู้คืนมรดกดังกล่าวให้กลับมาดังเดิม การจำลองงานศิลป์ชิ้นนี้โดยใช้ ‘คนจริง’ เป็นหนึ่งในวิธีการนั้น ซึ่งใช้เวลาเตรียมการนานเกือบ 3 ปี

คณะทำงานชาวจีนได้ค้นคว้าข้อมูลอย่างหนัก เพื่อเก็บรายละเอียดต่าง ๆ แล้วนำมาออกแบบเครื่องแต่งกายไปจนถึงอุปกรณ์ประกอบฉากให้เหมือนกับในภาพ ทั้งยังต้องคัดเลือกนักแสดงแต่ละคนให้เหมาะสม กำกับดูแลทรงผมและการแต่งหน้า รวมถึงกำหนดท่วงท่าการเคลื่อนไหวของแต่ละคนโดยอิงจากภาพประติมากรรมด้วย

และนี่คือผลพวงของความพยายามดังกล่าว ที่สร้างความตื่นตะลึงครั้งใหญ่แก่ชาวจีน และดูราวกับว่าได้นำพาเราย้อนยุคกลับไปสู่ราชวงศ์เว่ยเหนือเมื่อ 1,500 ปีที่แล้วเลยทีเดียว

อ้างอิง

Xinhuathai

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส