กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของคณะที่ปรึกษาออกโรงเตือนรัฐบาลกลางอินเดียเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่กระจายอยู่ในประเทศตอนนี้ ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้รับทราบคำเตือนนี้แล้ว แต่กลับเพิกเฉยจนเกิดเป็นการระบาดระลอกใหม่ในอินเดีย ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 3 แสนรายต่อวัน
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จำนวน 5 คนที่เป็นส่วนหนึ่งของคณะที่ปรึกษาของรัฐบาล นามว่า Indian SARS-CoV-2 Genetics Consortium หรือ INSACOG กล่าวกับรอยเตอร์ว่าพวกเขาได้ส่งคำเตือนมากมายไปยังรัฐบาลกลางของอินเดีย แต่พวกเขากลับล้มเหลวในการกำหนดมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสอย่างสิ้นเชิง
ชาวอินเดียหลายล้านคนยังคงไปเข้าร่วมการชุมนุมทางศาสนา โดยไม่สวมใส่หน้ากากและไม่มีมาตรการใด ๆ ในการควบคุมโรคระบาด อีกทั้งยังมีการชุมนุมทางการเมืองและเหล่าเกษตรกรหลายหมื่นคนที่ยังคงออกมาประท้วงถึงนโยบายการเกษตรของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ด้วย
อินเดียนับเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อระลอกที่ 2 โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 300,000 คนต่อวันเป็นเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์และเพิ่งจะพุ่งสูงถึงเกือบ 400,000 รายในวันเสาร์ที่ผ่านมา นับเป็นเหตุการณ์การแพร่ระบาดที่เลวร้ายที่สุดในโลกนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าที่มีผู้ติดเชื้อมากมายขนาดนี้ ก็เพราะไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี่แหละที่เป็นตัวการ
กลุ่มที่ปรึกษา INSACOG ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเวทีของเหล่าที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่จะมาถกเถียงกันถึงเรื่องไวรัสโคโรนา โดยถูกจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพื่อตรวจหาสายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาที่อาจคุกคามสุขภาพของประชาชน
ซึ่งสมาชิกของ INSACOG บอกกับรอยเตอร์ว่าพวกเขาตรวจพบตัวแปรสำคัญของการแพร่ระบาดในอินเดียครั้งนี้เป็นครั้งแรกในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์แล้ว แต่เพิ่งออกคำเตือนอย่างเป็นทางการในต้นเดือนมีนาคม
ซึ่งรัฐบาลกลางอินเดียภายใต้การนำของนายกโมดี ก็ไม่ได้ตอบสนองใด ๆ ต่อคำร้องและคำเตือนเลย จนเกิดเหตุการณ์ลุกลามดังกล่าวขึ้นในประเทศ อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์บางคนกล่าวว่าการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ใหญ่กว่าที่คาดไว้มาก คงจะไม่สามารถตำหนิผู้นำทางการเมืองเพียงอย่างเดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส