สำนักงานอาหารสิงคโปร์ (SFA) กล่าวเมื่อวานนี้ว่าร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งในโกลเดน ไมล์ ทาวเวอร์ (Golden Mile Tower) ประเทศสิงคโปร์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบการขายและการมีไว้ในครอบครองเลือดหมูก้อนอย่างผิดกฎหมาย
หลังทางหน่วยงานได้เข้าไปตรวจสอบที่ร้านอาหารในโกลเดน ไมล์ ทาวเวอร์ (Golden Mile Tower) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบเลือดหมูก้อนในร้านอาหารดังกล่าว นอกจากนี้ ยังตรวจพบเลือดหมูที่บรรจุไว้ล่วงหน้าที่ยังไม่ได้ขายอีกด้วย
ทาง SFA กล่าวว่าผลิตภัณฑ์ดังอย่าง ‘เลือดหมู’ ไม่ว่าจะเป็นแบบก้อนหรือแบบไหนก็ตามถูกห้ามขายในสิงคโปร์อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเลือดสัตว์สามารถเป็นแหล่งแพร่พันธุ์และเป็นแหล่งเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและอาจก่อให้เกิดโรคได้
ส่วนขั้นตอนการทำเลือดหมูนั้น เชื่อว่าหลังจากฆ่าหมูและนำภาชนะมารองเลือดหมูแล้ว พอเลือดหมูได้สัมผัสกับอากาศเมื่อใด มันจะถูกปนเปื้อนด้วยเชื้อแบคทีเรียทันที ทำให้ทางสิงคโปร์เป็นกังวลเรื่องความสะอาดและขึ้นทะเบียนว่าเป็นอาหารผิดกฎหมาย
อีกทั้งยังมีการอธิบายอีกว่าเนื่องจากผลิตภัณฑ์อาหารที่นำเข้ามาอย่างผิดกฎหมายมีที่มาจากแหล่งที่ไม่รู้จัก จึงอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหารและการบริโภคโดยรวมได้อีก ซึ่งปกติแล้ว การจะนำเข้าอาหารในสิงคโปร์นั้น ผู้นำเข้าจะต้องได้รับอนุญาตในการนำเข้าก่อนเท่านั้นและการส่งมอบทุกครั้งจะต้องได้รับการประกาศและมีใบอนุญาตนำเข้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ทาง SFA แนะนำให้ประชาชนทั่วไปที่พบการขายผลิตภัณฑ์อาหารที่ผิดกฎหมายไม่ควรให้การสนับสนุนร้านอาหารเหล่านี้และให้แจ้งไปที่เว็บไซต์เอสเอฟเอ คอนแท็ก เซนเตอร์ (SFA Contact Center) หรือโทรไปแจ้งเบาะแสตามหมายเลขที่แจ้งไว้
เบื้องต้นผู้ที่นำเข้าและขายผลิตภัณฑ์จากเลือดหมูอย่างผิดกฎหมายอาจถูกปรับได้ถึง 50,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท และถูกจำคุกเป็นเวลาสูงสุด 2 ปีสำหรับการทำความผิดครั้งแรก แต่ถ้าหากมีครั้งต่อไปอาจถูกปรับมากถึง 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือราว 3.4 ล้านบาท และถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปี
กรมปศุสัตว์ ยืนยันเลือดหมูต้มสุกกินได้ ปลอดภัย ปลอดโรค
นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ย้ำว่า การผลิตอาหารของประเทศไทยมีมาตรฐานอาหารปลอดภัยในระดับสูง โดยเฉพาะการผลิตสุกรและผลิตภัณฑ์สุกร ที่ทุกกระบวนการต้องผ่านมาตรฐานต่างๆ ตามที่กรมปศุสัตว์กำหนด ตั้งแต่การเลี้ยงสุกรที่ต้องได้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร (Good Agricultural Practices : GAP) ส่วนโรงฆ่าสัตว์ต้องได้รับการรับรองการปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงฆ่าสัตว์ (Good Manufacturing Practice : GMP) จนถึงโรงงานแปรรูปก็ต้องปฏิบัติตามหลักสุขลักษณะที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Hygienic Practice : GHP) และการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (Hazard Analysis and Critical Control Point : HACCP) ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรที่ผลิตภายใต้มาตรฐานดังกล่าวนี้ มีความสะอาด ปลอดภัย ปลอดสาร เหมาะสำหรับการบริโภคอย่างแน่นอน
“มาตรฐานดังกล่าวเป็นมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตสุกร เพื่อให้ตลอดห่วงโซ่มีการกำกับทั้งกระบวนการ ทำให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้มีมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์เลือดหมูต้มสุก ถือว่ามีกระบวนการผลิตที่สะอาดมาก อย่างเช่นที่โรงฆ่าสุกรบางคล้าภายใต้กำกับของกรมปศุสัตว์นั้น ในการผลิตเลือดหมูต้ม หลังจากเชือดแล้ว เลือดจะถูกดึงจากตัวหมูด้วยมีด Vacuum ทำให้ไม่มีการสัมผัสพื้นตลอดการผลิต เลือดที่ได้จะถูกส่งเข้าถังเก็บโดยระบบท่อ จากนั้นบรรจุลงถาดและปิดผนึก ก่อนเข้ากระบวนการให้ความร้อนด้วยหม้อความดัน ที่อุณหภูมิ 90-95 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 110 นาที ซึ่งเป็นระดับที่ทำลายเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆได้ทั้งหมด
ที่สำคัญประเทศไทยไม่มีการส่งออกเลือดหมูเข้าสิงคโปร์ เพราะทราบดีถึงข้อกฎหมายดังกล่าว จึงขอเตือนประชาชนที่ประกอบการหรือจะเดินทางไปประเทศใดก็ตาม ให้การศึกษากฎหมายอย่างละเอียด และไม่ละเมิดกฎหมายของประเทศนั้นๆ” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ถูกลักลอบเข้าไปในประเทศสิงคโปร์นั้น จากการตรวจสอบพบว่า เป็นผลิตภัณฑ์เลือดหมูต้มที่ได้มาตรฐานการผลิตและมีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส