เกาะบาลจีแนค (Baljenac Island) หรือที่รู้จักกันในนาม เกาะลายนิ้วมือ (fingerprint island) เป็นเกาะขนาดเล็ก อยู่แถบชายฝั่งดัลเมเชียน ในทะเลเอเดรียติก สาธารณรัฐโครเอเชีย ถึงแม้ว่าในโครเอเซียจะมีเกาะขนาดใหญ่อีก 75 เกาะ และเกาะเล็กเกาะน้อยอีกมากกว่า 500 เกาะ แต่ก็ต้องถือว่าเกาะบาลจีแนค เป็นเพียงเกาะเดียวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยลวดลายบนตัวเกาะที่เหมือนลายนิ้วมือ อันมีประวัติศาสตร์ที่มาอันน่าสนใจ

ผู้คนที่ได้มาเห็นหรือได้ทราบถึงลวดลายอันน่าอัศจรรย์บนเกาะนี้ต่างก็สงสัยว่าลายนิ้วมือนี้ว่าเป็นมาอย่างไร มนุษย์สร้างขึ้นหรือเกิดจากธรรมชาติ คำตอบที่แท้จริงคือเกิดจาก ‘ทั้งสองสาเหตุ’ ลวดลายดังกล่าวนั้นคือ ‘กำแพงหิน’ หรือ stone dry walls ภาษาโครเอเซียเรียกว่า suhozid ความยาวของกำแพงหินนี้น่าอัศจรรย์มาก เพราะถ้าวัดความยาวรวมแล้วจะยาวถึง 23 กิโลเมตร ทั้งที่เกาะบาลจีแนคนี้มีเนื้อที่เพียงแค่ 0.14 ตารางกิโลเมตรเท่านั้นเอง กำแพงเหล่านี้เรียงตัวเป็นคลื่นบ้าง บางช่วงก็ม้วนเป็นทรงกลม พอมองรวม ๆ แล้วก็ดูเหมือนลายเส้นบนนิ้วมือมนุษย์ บวกกับรูปทรงภายนอกของเกาะด้วยที่เป็นวงรียาว รวมกันแล้วก็ยิ่งทำให้ดูเหมือนรอยประทับของนิ้วมืออย่างมาก

ทิวทัศน์บนเกาะ

ชาวบ้านที่เคยอยู่บนเกาะบาลจีแนคนั้นมีอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เดิมทีนั้นพวกเขาช่วยกันถางบรรดาวัชพืชที่ไร้ประโยชน์ แล้วช่วยกันสร้างกำแพงหิน stone dry walls ซึ่งมีรูปแบบการสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น เพราะใช้ก้อนหินเรียงตัวกันขึ้นเป็นกำแพงแต่ละก้อนซ้อนกันได้แบบพอดีโดยไม่ต้องใช้ปูนใด ๆ ในการช่วยเกาะยึด และกำแพงทั้งหมดนี้ชาวบ้านสร้างกันด้วยมือเปล่าทั้งสิ้น จุดประสงค์เพื่อแบ่งเขตและปกป้องคลื่นลมในการเพาะปลูกพืชต่าง ๆ เช่นเถาองุ่น, มะกอก, ลูกฟิก และไม้ผลต่าง ๆ

กำแพงหิน stone dry walls

ด้วยวิทยาการโบราณที่ยากต่อการลอกเลียน กำแพงหินเหล่านี้จึงคงอยู่มาจนทุกวันนี้ ยังมีกำแพงแบบนี้ให้เห็นอีกตามชายฝั่งต่าง ๆ ในโครเอเซีย องค์การยูเนสโกเล็งเห็นคุณค่าของกำแพงเหล่านี้จึงทำการอนุรักษ์เป็นมรดกโลก เพราะเล็งเห็นที่คุณค่าทางวัฒนธรรมโบราณ ที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของในยุคก่อนที่ใช้เพียงมือเปล่าก็สร้างกำแพงที่มีความแข็งแรงทนทานมาได้จนทุกวันนี้ และยังสื่อให้เห็นองค์ความรู้ของคนโบราณที่หาวิธีเพาะปลูกพืชได้บนพื้นที่บนเกาะและชายฝั่ง แถมยังมีความสวยงามที่ควรค่าต่อการอนุรักษ์ไว้

อ้างอิง อ้างอิง