รูปปั้นของนักแสดง นักร้อง และคนดังทั่วโลกมีของใครและอยู่ที่ไหนบ้าง?

ความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของนักแสดงและศิลปินในแวดวงฮอลลีวูด นอกเหนือจากการได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากเวทีออสการ์ และลูกโลกทองคำแล้ว ก็คือการได้รับเกียรติให้มีชื่อประดับบนดวงดาวบนทางเท้าที่ถนน ฮอลลีวูด บูเลวาร์ด ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมเมืองฮอลลีวูด, ลอสแองเจลิส ที่วันนี้มีดวงดาวประดับชื่อมากกว่า 5,000 ดวงแล้ว แต่ถ้าให้ได้รับความภาคภูมิใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การที่ได้รับการยอมรับสรรเสริญจากผู้คนในหมู่กว้างไปจนถึงจุดที่องค์กรหรือหน่วยงานระดับท้องถิ่นในแต่ละประเทศได้ร่วมกันจัดสร้างรูปปั้นนักแสดงฮอลลีวูด หรือเหล่าคนดังขึ้นในท้องที่นั้น ๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลเหล่านั้น ซ้ำยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันมีรูปปั้นเหล่านี้อยู่ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก แต่บุคคลที่ได้มีรูปปั้นเป็นของตัวเองเช่นนี้ มีเพียงแค่ 10 กว่าคนเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็ยังมีชีวิตอยู่ มาดูกันซิว่ารูปปั้นเหล่านี้เป็นของใครและอยู่ที่ไหนบ้าง

1.รูปปั้น อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) ใน ออสเตรีย และ โอไฮโอ

อาร์โนลด์ คนเดียวมีผู้คนรักและศรัทธาในตัวเขาถึงกับสร้างรูปปั้นเพื่อให้เกียรติเขาถึง 2 แห่ง แห่งแรกถูกสร้างขึ้นในปี 2011 ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในเทือกเขาแอลไพน์ ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อาร์โนลด์เกิด อาร์โนลด์ได้ไปร่วมพิธีเฉลิมฉลองเปิดรูปปั้นนี้ และพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของเขาในวันที่ 7 ตุลาคม 2011 รูปปั้นนี้มีเนื้อวัสดุเป็นสัมฤทธิ์ เป็นภาพของอาร์โนลด์ในวัยหนุ่ม ที่กำลังแสดงท่าทีอวดมัดกล้ามในยุคที่เขายังเป็นนักเพาะกายชื่อดัง เข้าดูเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ได้ทางลิงก์นี้

อีกแห่งหนึ่งตั้งขึ้นในปี 2012 เป็นรูปปั้นสัมฤทธิ์เช่นกันสูง 8 ฟุต เป็นภาพของอาร์โนลด์ในวัยหนุ่มทำท่าทางเช่นเดียวกับรูปปั้นในออสเตรีย รูปปั้นนี้อยู่ที่เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ตั้งอยู่หน้าศูนย์การประชุมโคลัมบัส ที่มาตั้งอยู่ที่นี่ก็เพราะที่ศูนย์การประชุมแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานจัดงาน Arcold Classic เป็นงานโชว์และแข่งขันเพาะกายที่จัดเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา และผู้ที่ริเริ่มงานนี้ก็คือ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้นี้นี่เอง

2.บ็อบ มาร์เลย์ (Bob Marley) ในเซอร์เบีย

รูปปั้นของ บ็อบ มาร์เลย์ ตำนานศิลปินเร็กเก้ขาวจาไมกัน ถูกตั้งขึ้นใน Banatski Sokolac หมู่บ้านเล็ก ๆ ในเซอร์เบียน เมื่อปี 2008 เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลเพลงร็อก “Rock Village” ที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2008 รูปปั้นนี้จัดทำโดย ดาวอร์ ดูคิก (Davor Dukic) ศิลปินชาวโครเอเซีย เพื่อเรียกร้องความสงบสุขหลังจากต้องอดทนกันมาอย่างยาวนานจากสงครามกลางเมืองในประเทศ ที่ฐานของรูปปั้นมีข้อความจารึกไว้ว่า
“บ็อบ มาร์เลย์ นักสู้เพื่ออิสรภาพผู้มีอาวุธเป็นกีตาร์เพียงตัวเดียว”

3.บรู๊ซ ลี (Bruce Lee) ในบอสเนีย

รูปปั้น บรู๊ซ ลี เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2005 ในสวนสาธารณะ เมืองโมสตาร์ ประเทศบอสเนีย จัดสร้างขึ้นโดยประติมากรชื่อ Ivan Fijolić ตัวรูปปั้นมีขนาดเกือบเท่าตัวจริง มีความสูงอยู่ที่ 168 เซนติเมตร เตี้ยกว่าบรู๊ซ ลี ตัวจริงเล็กน้อย ซึ่งตัวจริงมีความสูงที่ 172 เซนติเมตร หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าทำไมชาวบอสเนียนถึงได้มีความนิยมและศรัทธาในตัวบรู๊ซ ลี ถึงกับจัดทำรูปปั้นขึ้นเป็นการสดุดีเช่นนี้ คำตอบก็คือ ประเทศบอสเนียเคยเกิดสงครามกลางเมืองในช่วงปี 1992 – 1995 เป็นสงครามความขัดแย้งชาติพันธุ์ระหว่างชาวโครแอต และชาวเซิร์บ ทางผู้จัดทำจึงเล็งเห็นว่าในตัวบรู๊ซ ลี นั้นเพียบพร้อมไปด้วยสัญลักษณ์ของ “ความจงรักภักดี ทักษะความสามารถ มิตรภาพ และความยุติธรรม”

บรู๊ซ ลี เป็นชาวอเมริกันโดยกำเนิดแต่มีเชื้อสายจีน เขาเป็นนักแสดงที่เชี่ยวชาญกังฟู และเขาคือสิ่งสำคัญที่จะสามารถเชื่อมโยงชาวเมืองโมสตาร์เข้าหากันได้ “สิ่งเดียวที่เราชอบเหมือน ๆ กันนั่นก็คือ บรู๊ซ ลี”

การเปิดรูปปั้น บรู๊ซ ลี ในบอสเนียนั้น เหมือนเป็นการเอาชนะแบบกลาย ๆ ต่อเมืองฮ่องกง เพราะบอสเนียทำพิธีเปิดรูปปั้นแซงหน้าฮ่องกงเพียงแค่วันเดียว ทำให้รูปปั้นบรู๊ซ ลี ในบอสเนียได้ตำแหน่งรูปปั้นบรู๊ซ ลี แห่งแรกของโลก และฮ่องกงตกเป็นแห่งที่ 2 แต่ก็ยังมีแห่งที่ 3 คือ ลอส แองเจลิส ที่ทำพิธีเปิดในปี 2013

4.เอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) ในเมมฟิส

เอลวิส เพรสลีย์ ราชาเพลงร็อกผู้นี้ น่าจะเป็นศิลปินที่มีรูปปั้น และอนุสาวรีย์มากที่สุดแล้ว เฉพาะแค่ในสหรัฐฯ ก็มีเป็นสิบแห่งแล้ว ถ้านับทั่วโลกก็คงนับไม่ถ้วน แต่เราจะขอเลือกพูดถึงรูปปั้นที่น่าจะเป็นแห่งรก นั่นก็คือรูปปั้นสัมฤทธิ์ขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะ elvis presley plaza ถนนบีล

รูปปั้นเอลวิส ตัวแรกนั้นถูกสร้างโดยศิลปินนามว่า อีริก พาร์ก (Eric Parks) นำมาตั้งในปี 1980 เพื่อเป็นการสดุดีว่าครั้งหนึ่งเอลวิสเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเม็มฟิสนี้ ปี 1994 รูปปั้นเอลวิสตัวนี้ถูกย้ายไปตั้งที่ ศูนย์ต้อนรับเมืองเม็มฟิส ทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้ก็ว่างเปล่าอยู่หลายปี จนกระทั่งในปี 1997 แอนเดรีย ลูการ์ นักประติมากรรม จึงเล็งเห็นว่าควรจะมีรูปปั้นเอลวิสตัวใหม่มาตั้งในสวนสาธารณะแห่งนี้ เขาจึงได้ลงมือปั้นรูปเอลวิส ในขนาดสูงถึง 2.8 เมตร และรอบนี้เป็นรูปปั้นที่มีความสมจริงมากขึ้น กับการลงรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ แม้กระทั่งเส้นผม และเป็นภาพของเอลวิสที่กำลังร้องเพลง โยกย้ายสะโพก และสนุกกับการเล่นกีตาร์ให้แฟนเพลงของเขา

5.ฌอง-คล็อด แวน แดมม์ (Jean-Claude Van Damme) ใน บรัสเซลล์

แม้ว่าในวันนี้ ชื่อเสียงของแวน แดมม์ แทบจะห่างหายไปจากวงการบันเทิง แต่สำหรับชาวเบลเยี่ยม ประเทศที่เขาถือกำเนิดขึ้นมานั้น เล็งเห็นว่า ฌอง-คล็อด แวน แดมม์ คือปูชนียบุคคลที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจของชาวเบลเยี่ยม ที่สามารถก้าวไปถึงตำแหน่งนักแสดงระดับโลก ในช่วง 80s – 90s ที่เป็นยุครุ่งเรืองของเขา แวน แดมม์ ก็เคยมีผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านหลัก 100 ล้านเหรียญมาแล้ว เพื่อเป็นการสดุดีนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ ชาวเมืองบรัสเซลล์จึงร่วมกันสร้างรูปปั้นขนาดเท่าตัวจริง มาตั้งไว้หน้าศูนย์การค้า บรัสเซลล์ เวสต์แลนด์ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2012 เนื่องในวันครบรอบ 40 ปี ของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ซึ่งตัวแวน แดมม์ ก็ไปร่วมพิธีเปิดด้วยตนเอง
“ประเทศเบลเยี่ยมอยากจะทำอะไรตอบแทนให้กับผม แต่ที่จริงแล้วผมมองว่านี่มันเป็นการตอบแทนให้กับ ‘ความฝัน’ มากกว่า เพราะเมื่อผู้คนมองเห็นรูปปั้นนี้ ผมไม่อยากให้มองเห็นว่านี่คือ ฌอง-คล็อด แวน แดมม์ แต่อยากให้มองว่านี่คือผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่เคยเดินอยู่บนถนนเส้นนี้แต่เขามีความเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ ผมอยากให้รูปปั้นสื่อถึงเรื่องนี้มากกว่า”

6.จอห์น เล็นนอน (John Lennon) ใน คิวบา

คนอื่น ๆ อาจจะมีแค่รูปปั้น แต่สำหรับ จอห์น เล็นนอน นักดนตรีระดับตำนานของโลกเรานี้ ได้มีสวนสาธารณะเป็นอนุสรณ์ของตัวเองเลย สวนสาธารณะนี้มีชื่อว่า John Lennon Park ตั้งอยู่ในเมืองฮาวานา ประเทศคิวบา และจุดสนใจหลักในสวนนี้ก็คือ รูปปั้นของ จอห์น เล็นนอน เอง ถูกนำมาจัดตั้งในวันที่ 8 ธันวาคม ปี 2000 ในวาระครบรอบ 20 ปี ที่เล็นนอนถูกฆาตกรรม ในงานนี้ ประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร ให้เกียรติมาทำพิธีเปิดด้วยตัวเองเลย

รูปปั้นเล็นนอน เป็นฝีมือของ โฮเซ วิลลา โซเบรอน ประติมากรชาวคิวบา เป็นภาพของเล็นนอนกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งยาวในท่วงท่าสบาย ๆ ที่ฐานของรูปปั้นมีป้ายหินอ่อนสลักถ้อยคำเป็นภาษาสเปน ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษก็คือ “You may say I’m a dreamer, but I’m not the only one” เนื้อร้องตอนหนึ่งจากเพลง Imagine นั่นเอง

จุดสังเกตอย่างหนึ่งของรูปปั้นนี้ก็คือ ‘ไม่มีแว่นทรงกลม’ อันเป็นเอกลักษณ์ของเล็นนอน ที่จริงแล้วรูปปั้นนี้มีแว่น แต่เป็นแว่นที่ถอดออกได้ พอถอดออกได้ ก็เลยโดนมือดีฉกไป ทางหน่วยงานก็นำแว่นกรอบใหม่มาสวมให้รูปปั้น แต่ก็หายอีกหลายต่อหลายครั้ง ถ้ากลุ่มผู้ดูแลสวนสาธารณะก็เลยแก้ปัญหาให้ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยผัดเปลี่ยนกันนั่งอยู่ใกล้ ๆ นั่น ไมได้นั่งเฝ้าแว่น แต่แว่นอยู่กับเจ้าหน้าที่ ถ้าใครอยากถ่ายภาพรูปปั้นให้ไปบอกเจ้าหน้าที่ เขาจะหยิบแว่นมาสวมให้รูปปั้น พอถ่ายเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็นำแว่นไปเก็บ

7.จอห์นนี่ เด็ปป์ (Johnny Depp) ในเซอร์เบีย

นับเป็นนักแสดงฮอลลีวูดคนที่ 2 ต่อจาก บรู๊ซ ลี ที่มีชาวเซอร์เบียทำรูปปั้นให้ แต่ของเด็ปป์นี้ต้องเรียกว่าประติมากรรมแกะสลัก เพราะเป็นงานแกะสลักไม้ท่าตัวจริงแล้วลงสี ติดตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเซอร์เบีย รูปปั้นของเด็ปป์ทำพิธีเปิดในเดือนมกราคม 2010 เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลภาพยนตร์ Kustendorf ครั้งที่ 3 เป็นเทศกาลที่ก่อตั้งขึ้นโดย อีเมียร์ คุสทูริกา (Emir Kusturica) ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเซอร์เบียร์ เขาทำภาพแกะสลักของเด็ปป์ขึ้นมาเพื่อให้เกียรติและระลึกถึงวันที่เขาเคยร่วมงานกับเด็ปป์ใน Arizona Dream (1992) คุสทูริกาเป็นผู้กำกับมากฝีมือ เขาเคยชนะรางวัลจากคานส์มาแล้ว 2 ครั้ง และมีแผนการจะร่วมงานกับเด็ปป์อีกครั้งในหนังชีวประวัติ พานโช วิลลา นักปฏิวัติชื่อดังชาวเม็กซิกัน

8.ไมเคิล แจ็กสัน (Michael Jackson) ในเวสต์ ลอนดอน

เป็นเรื่องที่น่าประหลาดสำหรับ King of Pop ผู้นี้ที่จากแฟน ๆ ไปนานถึง 12 ปีแล้วก็ตาม ก็ยังมีคนที่รักและระลึกถึงเขาอยู่มากมาย แต่ขณะเดียวกัน รูปปั้นของไมเคิล แจ็กสัน กลับเป็นงานประติมากรรมที่ถูกผู้คนหัวเราะเยาะและถากถางมากมาย

รูปปั้นของไมเคิล แจ็กสัน ตัวนี้ มีความสูงที่ 2.3 เมตร สร้างจากปูนพลาสเตอร์และเรซิน เป็นงานที่ดูหยาบและไม่มีคุณค่าทางศิลปะเอาเสียเลย รูปปั้นนี้ถูกสร้างโดยคำสั่งของ โมฮัมหมัด อัล ฟาเยด (Mohammed Al Fayed) นักธุรกิจชาวอียิปต์ ผู้อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนกับราชันย์เพลงป๊อปผู้นี้ หลังจากแจ็กสันเสียชีวิตไปในปี 2009 ฟาเยดได้ซื้อ Harrods ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในลอนดอน และวางแผนว่าจะสร้างรูปปั้นของแจ็กสัน แล้วไปตั้งไว้ในห้างแฮร์รอด แต่เขาก็ขายแฮร์รอดไปให้กับเจ้าของรายใหม่เสียก่อน จากนั้นฟาเยดก็มาซื้อสโมสรฟุตบอลฟูแลม เขาตั้งใจจะนำรูปปั้นไมเคิล แจ็กสัน มาตั้งไว้หน้าสนามฟุตบอล Craven Cottage ของสโมสรฟุลแลม เพื่อเป็นการระลึกถึงว่าในปี 1999 เขาและแจ็กสันเคยมาร่วมชมการแข่งขันระหว่างฟูแลมกับ วีแกน แอธเลติก ที่สนามแห่งนี้

ในวันที่ 3 เมษายน 2011 ฟาเยดก็ทำพิธีเปิดรูปปั้นไมเคิล แจ็กสัน อย่างเป็นทางการ ผู้คนที่มาสนาม Craven Cottage แล้วได้เห็นรูปปั้นของไมเคิล แจ็กสัน ต่างก็ให้ความเห็นในเชิงลบกันแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะแฟน ๆ ของทีมฟูแลมที่มองว่า ไมเคิล แจ็กสัน ไมได้เกี่ยวข้องอะไรกับวงการฟุตบอลเอาเสียเลย แล้วมันทำให้ภาพลักษณ์ของสโมสรดูโง่ ๆ ทำเอาฟาเยดหัวร้อน ด่ากลับบรรดาแฟน ๆ ของฟูแลมที่ไม่เห็นคุณค่าของรูปปั้นตัวนี้ว่า “ไปลงนรกให้หมดเลยพวกเอ็งน่ะ ถ้าไม่มีความซาบซึ้งต่อรูปปั้นที่เป็นอมตะของราชันย์แห่งป๊อปผู้นี้”

ปี 2013 ชาอิด ข่าน เจ้าของใหม่ที่เข้าซื้อสโมสรฟูแลมต่อจากอัล ฟาเยด ก็ประกาศกร้าวว่าเขาไม่ขอรับรูปปั้นไมเคิล แจ็กสัน ไว้ และทำการถอนรูปปั้นออกจากหน้าสนามในเดือนกันยายน 2013 เพื่อส่งกลับไปให้อัล ฟาเยด หลังถอนรูปปั้นออกจากหน้าสนาม Craven Cottage ฟูแลมก็ตกชั้นจากพรีเมียร์ ลีก หลังอยู่ในลีกมาได้ถึง 13 ฤดูกาล ฟาเยดได้ทีหัวเราะเยาะ ว่าการถอนรูปปั้นไมเคิล แจ็กสัน ออกจากสนามถือเป็นลางร้ายทำให้ทีมตกชั้น จากนั้นฟาเยดก็มอบรูปปั้นไมเคิล แจ็กสัน ไปให้กับพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติ ในแมนเชสเตอร์ต่อ ในเดือนพฤษภาคม 2014 ทางพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาไว้ถึงปี 2019 แล้วก็ย้ายรูปปั้นออกไป ทุกวันนี้รูปปั้นตัวนี้อยู่ไหนก็ไม่รู้

9.ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) ในเบลเกรด

น่าจะเรียกได้ว่าเป็นทั้งรูปปั้นของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และ ร็อกกี้ บัลโล คาแรกเตอร์อันโด่งดังของเขา รูปปั้นนี้ตั้งอยู่ใน Žitiste หมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ทางตอนเหนือของเบลเกรดไป 60 กิโลเมตร รูปปั้นเป็นผลงานของ บอริส สทาร์พาแร็ก (Boris Staparac) ประติมากรชาวโครเอเซีย ทำจากคอนกรีต มีความสูงรวมที่ 3 เมตร นำมาจัดตั้งเมื่อปี 2007 จุดประสงค์ในการตั้งรูปปั้นนี้มีอยู่ 2 ประการ อย่างแรกคือ รูปปั้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลดนตรีและบันเทิงที่จัดขึ้นในหมู่บ้าน และอย่างที่สอง Žitiste เป็นหมู่บ้านที่ยากจนอย่างมากทางภาคเหนือของเซอร์เบีย แถมยังโชคร้ายซ้ำซ้อน ประสบทั้งอุทกภัยและแผ่นดินถล่ม ทางหมู่บ้านเลยคิดกันว่า รูปปั้นของซิลเวสเตอร์ น่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่หมู่บ้าน เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้านได้อีกทางหนึ่ง แถมภาพลักษณ์ของร็อกกี้นั้นคือนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ น่าจะช่วยปลุกระดมจิตใจให้ชาวบ้านฮึดสู้กับความยากลำบากขึ้นมาได้

แต่ว่ารูปปั้น Rocky แห่งแรกนั้น อยู่ที่ทางเข้า พิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดเฟีย ปั้นโดยประติมากร เอ.โธมัส ชอมเบิร์ก (A. Thomas Schomberg) ตั้งขึ้นในปี 1982 เพื่อใช้ในฉากหนัง Rock III หลังถ่ายทำหนังเสร็จ สตอลโลนก็มอบรูปปั้นนี้ให้กับเทศบาลเมืองฟิลาเดเฟีย รูปปั้นนี้มีชื่อเล่นด้วยว่า ‘Rocky Steps’ เพราะตั้งอยู่บนลานบนสุด ที่ต้องก้าวขึ้นบันได 72 ขั้นขึ้นมาก่อน เหมือนฉากในหนังที่ร็อกกี้วิ่งขึ้นบันไดมาถึงขั้นบนสุดแล้วก็ชูมือ ท่าเดียวกับรูปปั้น ตั้งแต่นั้นรูปปั้นบรอนซ์ตัวนี้ก็กลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดี จนกระทั่งปี 2006 ทางเทศบาลเมืองได้ย้ายรูปปั้นนี้ลงมาอยู่ที่ขั้นบันไดล่างสุด แต่ก็ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่ขาดสาย ถ้าใครไปเยือนก็จะต้องต่อคิวเป็นแถวยาวเพื่อที่จะได้ถ่ายภาพกับรูปปั้น Rocky

10.โคลิน เฟิร์ธ (Colin Firth) ในลอนดอน

ในฐานะนักแสดงฮอลลีวูดแล้ว โคลิน เฟิร์ธ ยังไม่จัดได้ว่าเป็นนักแสดงแม่เหล็ก พอที่จะใช้ชื่อเรียกคนดูได้ เพราะเขาเป็นนักแสดงที่เน้นขายฝีมือ ผลงานส่วนใหญ่จึงเป็นแนวดราม่า มากกว่าแนวบล็อกบัสเตอร์เอาใจผู้ชม แม้ว่าครั้งหนึ่งเขาจะเคยคว้าออสการ์สาขานักแสดงนำยอดเยี่ยมมาแล้วจาก The King’s Speech (2010) แต่ในฐานะนักแสดงอังกฤษแล้ว เฟิร์ธคือความภาคภูมิใจของชาวอังกฤษ ในเดือนกรกฎาคม 2013 ก็มีเรื่องเซอร์ไพรส์ชาวลอนดอน เมื่ออยู่ดี ๆ ก็มีรูปป้้นไฟเบอร์กลาส เป็นรูปร่างหน้าตาเหมือน โคลิน เฟิร์ธ ขนาด 3.6 เมตร ผุดขึ้นกลางทะเลสาบเซอร์เพนไทน์ ในสวนสาธารณะ ไฮด์ พาร์ก กรุงลอนดอน

เมื่อสืบหาที่มาที่ไปของรูปปั้นนี้ ก็ได้ความว่าเป็นฝีมือของ UKTV โทรทัศน์ช่องใหม่ ที่ตั้งขึ้นเพื่อโปรโมตในวาระเปิดบริการของทีวีช่องนี้ และภาพลักษณ์ของโคลิน เฟิร์ธ ที่เป็นต้นแบบของรูปปั้นนี้ก็คือ มิสเตอร์.ดาร์ซี บทบาทของเฟิร์ธจาก Pride and Prejudice มินิซีรีส์เรื่องดัง 1995 เป็นฉากที่ดาร์ซีผุดขึ้นมาในสระน้ำ ในสภาพเปียกชุ่มไปทั้งร่าง เหตุที่เลือก ดาร์ซีในภาพลักษณ์นี้มาเป็นรูปปั้นก็เพราะมาจากผลโหวตของผู้ชมชาวอังกฤษที่เลือกให้ ฉากนี้เป็นฉากจากทีวีซีรีส์ที่อยู่ในความทรงจำมากที่สุด

11.เอมี่ ไวน์เฮาส์ (Amy Winehouse) ในลอนดอน

เอมี่ ไวน์เฮาส์ นักร้องและนักแต่งเพลงหญิงชาวอังกฤษ เสียชีวิตด้วยสาเหตุอัลกอฮอล์เป็นพิษเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2011 หลังจากเธอเสียชีวิตไปได้ 3 ปี สก็อตต์ อีทัน (Scott Eaton) ประติมากรชาวอังกฤษก็ได้สร้างผลงานรูปปั้นเสมือนจริงของ เอมี่ ไวน์เฮาส์ ขึ้นมา ในความสูงที่ 175 เซนติเมตร ด้วยความตั้งใจที่จะถ่ายทอดบุคลิกและภาพลักษณ์ของเอมี่ให้ออกมาเสมือนจริงมากที่สุด ตั้งแต่ทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ ท่วงท่าในการยืนที่คุ้นตา มือหนึ่งจับไปที่สะโพก อีกมือหนึ่งจับที่ขอบกระโปรง การวางเท้า อีทันบอกว่าเขาตั้งใจให้รูปปั้นนี้สื่อได้ถึง “กิริยาท่าทาง และความแข็งแกร่ง ของเอมี่ออกมา ในขณะเดียวกันก็ยังซุกซ่อนความรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ภายในลึก ๆ”

รูปปั้นนี้ทำพิธีเปิดผ้าคลุมเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2014 ซึ่งตรงกับวันเกิดครบ 31 ปีของเอมี่ ผู้ที่มาทำพิธีเปิดคือ บาร์บารา วินด์เซอร์ นักแสดงหญิงผู้ที่เป็นเพื่อนของเอมี่ ปัจจุบันรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่ สเทเบิล มาร์เก็ต เมืองแคมเด็น กรุงลอนดอน ในละแวกบ้านของเอมี่เอง

12.มาริลีน มอนโร (Marilyn Monroe) ใน ปาล์มสปริง

มาริลีน มอนโร นักแสดงสาวฮอลลีวุดชื่อดังในยุค 50s และยังคงอยู่ในความทรงจำผู้ชมมาจนทุกวันนี้ ปี 2011 ศิลปิน ซีวาร์ด จอห์นสัน (Seward Johnson) ได้ออกแบบรูปปั้นขนาดยักษ์ของมาริลีน มอนโร ขึ้นมา มีขนาดสูงถึง 7.9 เมตร น้ำหนักรวม 15,000 กิโลกรัม เพราะสร้างจากสเตนเลส สตีล และอะลูมิเนียม ลงสีเหมือนจริง มาริลีน มอนโร อยู่ในท่วงท่าอันโด่งดังของเธอที่หลายคนคุ้นตาจากภาพนิ่ง จากภาพยนตร์เรื่อง The Seven Year Itch (1955) เป็นฉากที่มาริลีน มอนโร อยู่ในชุดกระโปรงยาวสีขาว กำลังเริงระบำอยู่บนตะแกรงเหล็กที่มีลมเป่ามาจากล่องลมใต้ดิน รูปปั้นนี้มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า ‘Forever Marilyn’ นำมาตั้งแสดงครั้งแรกที่ ไพโอเนียร์ คอร์ต ในชิคาโก้ ก่อนจะย้ายไปที่ ปาล์ม แคนยอน ไดรฟ์ ในปาล์มสปริง แคลิฟอร์เนีย ในปี 2012 และจากนั้นก็ถูกย้ายไปหลายต่อหลายที่

ปี 2019 ถูกย้ายกลับมาที่ปาล์มสปริง นับเป็นความภาคภูมิใจของนายกเทศมนตรี โรเบิร์ต มูน ถึงกับออกแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กันยายน 2019 ว่า Forever Marilyn จะได้กลับมาอยู่ที่ปาล์มสปริงเป็นการถาวร และจะนำไปตั้งที่ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะปาล์มสปริง ในวันที่ 18 เมษายน 2021 แต่กลับได้รับเสียงต่อต้านจากชาวเมือง ที่ไม่เห็นชอบด้วยกับการนำ Forever Marilyn มาตั้งไว้ที่หน้าพิพิธภัณฑ์ ด้วยเหตุผลว่ารูปปั้นนี้เผยให้เห็นชุดชั้นในของเธอ สะท้อนถึงการเอาเปรียบทางเพศ พากันติดแฮชแท็ก #metoomarilyn จนถึงวันนี้ข้อพิพาทนี้ยังไม่มีข้อสรุป ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาในชั้นศาลแคลิฟอร์เนีย

13.เดวิด เบ็คแฮม ในสนาม LA Galaxy

แอลเอ กาแล็กซี่ สโมสรดังของเมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ เปิดตัวรูปปั้นของเดวิด เบ็คแฮมอดีตซูเปอร์สตาร์ ผู้พลิกโฉมหน้าฟุตบอลในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ เบ็คแฮมย้ายจากจากเรอัล มาดริด มาอยู่ แกแล็คซี่เมื่อปี 2007 และลงเล่นกับสโมสรถึงปี 2012 พาทีมคว้าแชมป์เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ คัพ 2 สมัยและซัพพอร์ทเตอร์ ชิลด์อีก 2 สมัย และทำให้โลกลูกหนังรู้จักเมเจอร์ ลีก ซอกเกอร์มากขึ้น โดยเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกรายแรกๆที่ย้ายมาเล่นในสหรัฐ

รูปปั้นนี้จัดตั้งอยู่ที่หน้าสนาม ดิกนิตี้ เฮลท์ สปอร์ต ปาร์ก เป็นภาพจำของเบ็กแฮม กับจังหวะเตะฟรีคิกอันเลื่องลือ พร้อมกับออกแบบให้แขน และ เท้า อยู่ในท่วงท่าที่เหมือนกับเคลื่อนไหวได้ แต่ไม่มีการเปิดเผยศิลปินผู้สร้างสรรค์รูปปั้นนี้แต่อย่างใด

เดวิด เบ็คแฮม และภรรยามาร่วมพิธีเปิดรูปปั้นนี้ด้วยตัวเองในวันที่ 3 มีนาคม 2019 แต่ทันทีที่มีการเผยแพร่ภาพรูปปั้นออกไปทางสื่อ ก็ได้เสียงวิจารณ์ในเชิงลบกลับมาทันที ว่าใบหน้าของรูปปั้นไม่ได้เหมือนเบ็คแฮมเลยแม้แต่น้อย แต่ดูแล้วเหมือน กอร์ดอน แรมซีย์ หรือ จอช โบรลิน ผู้รับบท ธานอส เสียมากกว่า

นอกเหนือจากรูปปั้น 13 แห่งที่กล่าวมานี้ ยังมีรูปปั้นคนดังอีกมากมาย อย่างเช่น เจฟฟ์ โกลด์บลูม, บริตนีย์ สเปียร์, คริสเตียโน โรนัลโด แต่ไม่ได้จัดตั้งเป็นการถาวร ผู้เขียนจึงไม่ขอลงรายละเอียดไว้ในรายชื่อนี้

อ้างอิง อ้างอิง