วันศุกร์ที่ 14 ม.ค. FSB สำนักงานข่าวกรองของรัสเซียได้เข้าตรวจค้นและจับสมาชิกกลุ่มแฮกเกอร์เรียกค่าไถ่ Ransomware ที่รู้จักกันในชื่อกลุ่ม REvil ตามการกล่าวหาของสหรัฐฯ ว่าได้พัฒนาซอฟต์แวร์เข้าบุกรุกข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยีชั้นสูงในต่างประเทศแล้วเข้ารหัสข้อมูลเรียกค่าไถ่ ขโมยถอนเงินจากบัญชีธนาคารของชาวต่างชาติ และการซื้อสินค้าราคาแพงบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งสหรัฐฯ ได้ตั้งค่าหัวไว้สูงถึง 10 ล้านเหรียญ (331 ล้านบาท) สำหรับเบาะแสในการจับกุม
FSB ประกาศว่าได้หยุดกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของ REvil จากการสืบสวนและเสาะหาจนได้เข้าจับกุมพร้อมยึดเงินของกลางที่อยู่ใน 25 แห่งตามที่อยู่ของสมาชิกในกลุ่ม 14 คนในเมืองมอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มอสโก เลนินกราด และลิเพตสค์ได้เงินมากกว่า 426 ล้านรูเบิล (185 ล้านบาท) รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล 600,000 เหรียญสหรัฐฯ (19 ล้านบาท) และ 500,000 ยูโร (18 ล้านบาท) อีกทั้งมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ กระเป๋าเงินดิจิทัล และรถหรู 20 คัน
หลายปีมานี้รัสเซียได้ถูกกล่าวหาว่าได้ปล่อยให้มีกลุ่มแฮกเกอร์ Ransomware อยู่ในประเทศอย่างปลอดภัยเพื่อโจมตีประเทศตะวันตก แต่รัสเซียก็ได้ปฏิเสธและดูเหมือนเรื่องนี้ก็ถูกปล่อยไป จน 16 มิ.ย. 2021 ในการประชุมสุดยอดเจนีวาระหว่างไบเดนและปูติน ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้พูดคุยกันถึงเรื่องการต่อสู้กับกลุ่ม Ransomware ด้วย และล่าสุดสถานการณ์ในยูเครนได้ทำให้สหรัฐฯ และรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่แย่ลง ดังนั้นไม่มีใครคาดคิดว่ารัสเซียจะตามรวบกลุ่ม REvil ตามคำขอของสหรัฐฯ
ที่มา : bbc และ fsb ภาพจาก : ยูทูบช่อง TASS
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส