วันที่16 พฤษภาคม 2559 – บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่าง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ พาราไดซ์พาร์ค และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ ไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต ได้ประกาศว่า “สยามดิสคัฟเวอรี่” (SiamDiscovery) พร้อมแล้วที่จะเปิดประตูให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าสู่สนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกันในวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 นี้เป็นต้นไป โดยสยามดิสคัฟเวอรี่จะกลายเป็นไลฟ์สไตล์สเปเชี่ยลตี้สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ครั้งสำคัญของวงการค้าปลีก ด้วยเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท”
นายชาญชัย เชิดชูวงศ์ธนากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า “สยามดิสคัฟเวอรี่” (SiamDiscovery) โฉมใหม่นี้เป็นการเปิดตัวคอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย เป็นที่สุดของจุดหมายปลายทางในรูปแบบไฮบริดรีเทลแห่งแรกของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่นี้คาดว่า รายได้ต่อตารางเมตรของสยามดิสคัฟเวอรี่จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า พร้อมกับตอกย้ำชื่อเสียงของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยในวงการค้าปลีกของประเทศไทย เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการซึ่งแข่งขันได้กับจุดหมายปลายทางที่เป็นสุดยอดของโลก”
สยามดิสคัฟเวอรี่” (SiamDiscovery) – The Exploratorium จะเป็น The Biggest Arena of Lifestyle Experiments ที่เปรียบเสมือนสนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์สุดตื่นเต้นเร้าใจ เชิญชวนทุกคน “มาเล่นสนุกด้วยกัน” โดยมอบพลังการสร้างสรรค์สไตล์ของตัวเองให้กับผู้มาเยือน เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาค้นหา ทดลองไอเดียใหม่ ๆ และผสมผสานสไตล์ที่มีอยู่อย่างหลากหลายในสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อให้ค้นพบตัวตนที่แท้จริง โดยทุกมิติของการนำเสนอนั้น เนรมิตให้ “เข้าถึงใจลูกค้า” มากที่สุด นำเสนอโดยผสมผสานหลากหลายกลุ่มสินค้า เพื่อความสะดวกสบายและความสนุกสนานในการค้นหา ให้ลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ ทดลอง ปรับแต่ง และสร้างสรรค์สินค้าที่ซื้อให้เป็นไปตามความต้องการและรสนิยมเฉพาะตัวได้ จากสินค้าที่มีอยู่มากกว่า 5,000 แบรนด์ ในทุกระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ทั้งแบรนด์ไทยและ แบรนด์ระดับโลก
พื้นที่ทั้งหมด 8 ชั้นของสยามดิสคัฟเวอรี่ แต่ละชั้นมีชื่อเรียกต่างกันไปตามสินค้าและบริการ อาทิ ชั้น G เรียกว่า Her Lab นำเสนอแฟชั่นล้ำ เทรนด์และบริการสุดพิเศษสำหรับสุภาพสตรี , ชั้น M เรียกว่า His Lab ตอบโจทย์ทุกความต้องการของสุภาพบุรุษ , ชั้น 1 เรียกว่า Street Lab นำเสนอสินค้าแนวสตรีทแฟชั่นคัดสรรมาอย่างดี , ชั้น 2 เรียกว่า Digital Lab นำเสนอสินค้าที่เข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล , ชั้น 3 เรียกว่า Creative Lab มอบแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบ และ ชั้น 4 เรียกว่า Play Lab นำเสนอมิติใหม่ของความสนุกสนานและเป็นสังคมของผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบเดียวกันมาแลกเปลี่ยน และแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน , ส่วนชั้น 5 และชั้น 6 พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็น Virgin Active Fitness
มีแบรนด์และร้านค้าที่เป็นไฮไลท์ในหมวดหมู่สินค้าประเภทต่างๆ 5 ประเภท ได้แก่
- สินค้าของใช้ในชีวิตประจำวัน (Everyday Products) อาทิ ร้าน O.D.S. (Object of Desire Store) มัลติแบรนด์โฮมเดคอเรทีฟสโตร์ที่รวบรวมสินค้าตกแต่งบ้านชื่อดัง , ร้านลอฟท์ (Loft) โฉมใหม่กับคอนเซ็ปท์การออกแบบใหม่ล่าสุด เปิดตัวครั้งแรกในโลก ออกแบบดีไซน์ตกแต่งร้านโดยเนนโดะดีไซเนอร์ชื่อดังของโลก , Nike คอนเซ็ปท์สโตร์ใหม่ล่าสุดแห่งแรกแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ
- สินค้านำเทรนด์ที่ก้าวล้ำทุกกระแสโลก (Trend Products) อาทิ แบรนด์ Issey Miyake เปิดคอนเซ็ปท์ World of Issey Miyake นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในโลก รวบรวมนำเสนอสินค้าแฟชั่น Issey Miyake ที่ครบไลน์มากที่สุด และจะมีสินค้า Issey Miyake สำหรับสุภาพบุรุษเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วย ฯลฯ
- สินค้าและบริการนวัตกรรมล่าสุด (Innovative Products & Services) อาทิ Alpha Runner สปอร์ตคอนเซ็ปท์สโตร์ที่นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่นักกีฬาตัวจริงพลาดไม่ได้ , Dressing Room นวัตกรรมใหม่ของการบริการในธุรกิจค้าปลีก มอบประสบการณ์สุดล้ำในแบบ Personalized ด้วยบริการพิเศษที่ครบครัน จัดเตรียมไว้ให้ในห้อง Dressing Room ส่วนตัว , DISCOVERY HUBBA ซึ่งเป็น Co-working Space ที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์ที่เคยมีมา นำเสนอนวัตกรรมทางความคิด และมอบพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนไอเดียและความฝันในการเริ่มต้นธุรกิจ ฯลฯ
- สินค้าที่ผลิตสร้างสรรค์จากแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Products) อาทิ tokyobike สวรรค์ของนักปั่นที่จะเป็นคอมมูนิตี้กลางเมืองแห่งใหม่ล่าสุดของคนรักการปั่นจักรยาน , สตาร์บัคส์คอฟฟี่ ที่พิเศษกว่าทุกสาขาที่เคยมีมาในประเทศไทย , Veda Salon โดยแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออร์แกนิกคุณภาพระดับโลก สร้างสรรค์ขึ้นเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก พร้อมเพิ่มบริการ Head Spa เป็นบริการพิเศษที่เป็นซิกเนเจอร์และมีเฉพาะสาขาสยามดิฟคัฟเวอรี่แห่งแรกและแห่งเดียวเท่านั้น
- สินค้าในรูปแบบคอลลาโบเรชั่น และสินค้าแอ๊ปโซลูทสยาม (Collaboration and Absolute Siam Products) ” เป็นสินค้า Absolute Siam มีจำหน่ายเฉพาะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ที่เดียวเท่านั้น อาทิ Toys Station ที่จะเปลี่ยนสยามดิสคัฟเวอรี่ให้กลายเป็นบ้านหลังที่สองของคนรักของเล่นและดีไซน์ทอยส์มารวมตัวกัน , คาเฟ่ดีไซน์ล้ำ Café Now by Propaganda การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ Propaganda ผนึกกำลังกับเชฟ โบ – ดวงพร ทรงวิศวะ เสิร์ฟอาหารอร่อยภายใต้บรรยากาศที่ออกแบบให้สนุกสนานในทุกครั้งที่มา พร้อมสินค้า grocery ให้เลือกซื้อกลับบ้านได้ด้วย, ร้าน Must Love Mac คอมมูนิตี้สำหรับคนรัก Mac นำเสนอสินค้าครบครันพร้อมอุปกรณ์และแอคเซสเซอรี่หลากหลาย , Adidas คอนเซ็ปท์สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แนวคิด Interactive Store Concept ที่มาพร้อม Exclusive Collection, สนีกเกอร์แบรนด์ดัง อย่าง Vans, Palladium, Converse และ Asics ขนรองเท้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดมานำเสนอเฉพาะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ก่อนใคร
พบทั้งหมดนี่ได้ใน “สยามดิสคัฟเวอรี่” (SiamDiscovery) – The Biggest Arena of Lifestyle Experiments 28 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป แต่ถ้าหากใครสนใจจะสัมผัสความยิ่งใหญ่นี้ก่อนใคร ทาง สยามดิสคัฟเวอรี่ จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์เหนือความคาดหมายโดยรับสมัครประชาชนผู้สนใจ 500 คนแรก ทาง www.siamdiscovery.co.th ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเชิญมาเยี่ยมชมภายในสยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่ก่อนใครในวันที่ 24 พฤษภาคม 2559 นอกจากนี้ จะมีกิจกรรมเดินสายโรดโชว์ของดิสคัฟเวอรี่แมน ขนาดยักษ์ สูงกว่า 5 เมตร ไปยังสถานที่สำคัญใจกลางกรุงเทพฯ อาทิ สวนจตุจักร สะพานลอยข้ามแยกสาทร – นราธิวาส สีลม และพาร์คพารากอน พร้อมกิจกรรมสนุกมากมายเพื่อเชิญผู้สนใจร่วมเป็น คนกลุ่มแรก ที่จะได้เข้ามาสัมผัสรูปโฉมใหม่ของสยามดิสคัฟเวอรี่ใน รอบเอ็กซ์คลูซีฟพรีวิว ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ก่อนเปิดให้บริการสำหรับบุคคลทั่วไปในวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 นี้”