กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับข่าวการฟ้องร้องระหว่าง จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) กับอดีตภรรยา แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) หลังนักแสดงวัย 58 ปี ยื่นฟ้องเฮิร์ดในข้อหาหมิ่นประมาทมูลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญ
แต่ก่อนจะรู้ถึงบทสรุปของเรื่องราว วันนี้เราขอพาทุกคนย้อนกลับไปตรงจุดเริ่มต้น ซึ่งเป็นเหตุที่ให้ทั้งคู่ต้องมาต่อสู้กันในชั้นศาลแบบนี้
ปี 2011 พบรักในกองถ่าย ‘The Rum Diary’
ทั้งคู่ได้พบรักในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ‘The Rum Diary’ ซึ่งเป็นภาพยนต์ชุดที่ดัดแปลงจากนวนิยายของเพื่อนเดปป์ นั่นก็คือ ฮันเตอร์ เอส. ธอมป์สัน (Hunter S. Thompson) ซึ่งหลังจากนั้นในปี 2012 ทั้งคู่ก็เริ่มออกเดตกันครั้งแรก
ปี 2015-2016 ‘แต่งงาน’ ก่อนจะ ‘เลิกรา‘
ในปี 2015 เดปป์และเฮิร์ดได้แต่งงานกันแบบส่วนตัวและจดทะเบียนสมรสกันที่ลอสแอนเจลิส แต่ชีวิตคู่รักของทั้งคู่ก็ต้องจบลงภายใน 15 เดือนเท่านั้น เพราะในปี 2016 เฮิร์ดได้ขอฟ้องหย่าเดปป์ และขอให้ศาลออกคำสั่งห้ามผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัวเข้าไปในที่พำนัก ซึ่งทำให้เดปป์ไม่สามารถเข้าใกล้หรือติดต่อกับเธอได้ โดยเฮิร์ดให้การในขณะนั้นว่า ตลอดที่ใช้ชีวิตร่วมกันเดปป์ได้ทำร้ายร่างกายเธอทั้งวาจาและร่างกายตลอดเวลา
นอกจากนี้เฮิร์ดยังเรียกค่าเลี้ยงดูจากเดปป์เป็นเงิน 7 ล้านเหรียญหรือราว ๆ 215 ล้านบาท ซึ่งทีแรกเธอกะว่าจะนำเงินที่ได้บางส่วนไปมอบให้กับองค์กรการกุศล แต่สุดท้ายเดปป์ก็ตัดสินใจจ่ายเงินจำนวน 7 ล้านเหรียญนั้นให้กับองค์กรการกุศลเอง โดยไม่ผ่านทางเฮิร์ด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เฮิร์ดไม่พอใจอย่างหนัก เพราะเธอมองว่าที่เดปป์ทำอย่างนี้ก็เพื่อจะนำเงินบริจาคไปลดหย่อนภาษี
ปี 2017 หย่ากันอย่างเป็นทางการ
ทั้งคู่ยุติบทบาทสามีภรรยาลงอย่างเป็นทางการในปี 2017 โดย ณ ขณะนั้นยังไม่มีการกล่าวถึงเรื่องการทำร้ายร่างกายของอีกฝ่าย
ปี 2018 เดปป์ถูกถอดจากหนัง ‘Fantastic Beasts’ หลังโดนกล่าวหาว่าเป็นพวกตีเมีย
ในปี 2018 เรื่องของทั้งคู่ที่ดูเงียบไปแล้ว ก็กลับประทุขึ้นมาอีกครั้ง หลังบรรณาธิการของ The Sun ได้ลงบทความออนไลน์โดยอ้างถึงเดปป์ว่า “เจ.เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling) จะมีความสุขจริง ๆ ใช่ไหม ถ้าจอห์นนี เดปป์ ผู้ชายที่ทำร้ายร่างกายภรรยาจะมารับบทในหนังของเธอ”
สุดท้ายเดปป์ก็ถูกถอดออกจากบท กิลเลิร์ต กรินเดอวัลด์ ในแฟรนไชส์หนัง ‘Fantastic Beasts’ ของค่ายหนังวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ด้วยเหตุผลที่ลือกันว่า เจ.เค. โรว์ลิง ผู้แต่ง ‘Fantastic Beasts’ ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงกับสตรี และมองว่าเดปป์ไม่เหมาะสมที่จะมารับบทในหนังเรื่องนี้อีกต่อไป
ปี 2018 เดปป์ฟ้อง The Sun ข้อหาหมิ่นประมาท
เดือนมิถุนายนปี 2018 เดปป์ยื่นฟ้อง The Sun ในข้อหาหมิ่นประมาท หลังสำนักข่าวฉายา ‘เดอะซุย’ ของอังกฤษพาดหัวบทความด้วยคำว่า “Wife-Beater” จนผู้อ่านตีความหมายว่าเขาเป็นพวกซ้อมตีภรรยาตัวเอง ซึ่งเดปป์ได้ยื่นหลักฐานต่อหน้า ศาลสูงกรุงลอนดอน โดยปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายภรรยาตัวเอง และขอให้ The Sun นำหลักฐานที่อ้างว่าเขาทำร้ายร่างกายเฮิร์ดมาแสดงให้ดู
ทาง The Sun จึงติดต่อหาเฮิร์ดเพื่อขอทราบรายละเอียดทั้งหมด เช่น เธอโดนเดปป์ตบหน้าเมื่อเธอแซวรอยสักที่แขนของเขา หรือเหตุการณ์ในวันเกิดของเฮิร์ดที่เดปป์ขว้างขวดแชมเปญใส่เธอแต่พลาด เขาจึงกระชากหัวเธอแทน
เมื่อเดปป์ทราบรายละเอียดที่ทางเฮิร์ดกล่าวมา เขาก็แย้งว่ามันไม่เป็นเรื่องจริงเลย เพราะสาเหตุที่ทั้งคู่แยกทางกันมาจากพฤติกรรมของเฮิร์ดที่เขาสุดจะทนแล้วต่างหาก โดยเฉพาะเรื่องที่ครั้งหนึ่งเฮิร์ดเคยอุจจาระลงบนเตียงเพราะไม่พอใจเดปป์
เดปป์ยังเล่าอีกว่า หลังแต่งงานกันได้หนึ่งเดือน เขาก็เรียกทนายมาคุยเรื่องสัญญาก่อนจดทะเบียนสมรส ซึ่งทำให้เฮิร์ดไม่พอใจอย่างมากและไม่ยอมเซ็นสัญญา เพราะเธอมองว่าการทำแบบนั้นหมายถึงว่า ถ้าทั้งคู่หย่ากันเธอจะไม่ได้รับสินทรัพย์ครึ่งหนึ่ง เหตุการณ์ในครั้งนั้นนอกจากเธอจะไม่เซ็นแล้ว ยังมีการขว้างขวดวอดก้าใส่เดปป์ จนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่นิ้ว ซึ่งเดปป์ก็ไม่เคยกล่าวโทษเฮิร์ดเลย เพราะอยากปกป้องภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน
ปี 2020 เดปป์แพ้คดีหมิ่นประมาทต่อ The Sun
คดีในครั้งนั้น ศาลกรุงลอนดอนไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินเรื่องการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด เพราะคดีนี้คือการตัดสินว่า The Sun สามารถใช้คำว่า “Wife-Beater” กับเดปป์ลงสื่อได้หรือไม่? ซึ่งสุดท้ายแล้ว The Sun ก็ชนะคดีไปและสามารถใช้คำว่า “Wife-Beater” ลงสื่อได้ เพราะพวกเขามีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าเดปป์ทำร้ายร่างกายเฮิร์ดจริงในขณะที่ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่
ปี 2020 เฮิร์ดฟ้องกลับ 100 ล้านเหรียญ
เมื่อแพ้คดีในประเทศอังกฤษ เดปป์จึงกลับมาต่อสู่กันในศาลอีกครั้งที่ศาลเมืองแฟร์แฟกซ์ รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครั้งนี้เดปป์ได้ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกับเฮิร์ดเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญ ด้านเฮิร์ดเองก็ฟ้องกลับอดีตสามีเป็นเงินมากกว่า 100 ล้านเหรียญเช่นกัน
ทางสำนักข่าว BBC ได้สันนิษฐานว่าสาเหตุที่เดปป์ยื่นฟ้องเฮิร์ดอีกครั้ง นั้นอาจมาจากที่เฮิร์ดเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ เกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวและอ้างว่าเธอคือเหยื่อของการกระทำนั้น ซึ่งการต่อสู้คดีในครั้งนี้เดปป์ก็ได้หิ้วหลักฐานและพยานที่แสดงให้เห็นว่าคนที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้นไม่ใช่เธอ แต่เป็นเขาต่างหาก
ทนายความของเดปป์ได้ออกมาเล่าว่าสิ่งที่เฮิร์ดกระทำลงไปส่งผลให้เดปป์ต้องเสียบท แจ็ก สแปร์โรว์ ในเรื่อง ‘Pirate of the Caribbean’ ซึ่งเป็นบทนำที่เดปป์เล่นให้มายาวนานถึง 15 ปี แต่ทางดิสนีย์ได้ออกมาชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ก่อนจะให้เหตุผลว่า ที่เดปป์ไม่ได้เล่นต่อก็เพราะค่าตัวนั้นสูงเกินไปต่างหาก
ในตอนแรกจะมีการพิจารณาคดีในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2021 แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ทำให้ต้องเลื่อนออกไปปี 2022 โดยคดีนี้กลับมาเริ่มไต่สวนกันอีกครั้งในวันที่ 11 เมษายน 2022 โดยทั้งเดปป์และเฮิร์ดต่างก็หาหลักฐานมาสู้กันมากมาย
2022 เดปป์ขึ้นให้การเป็นพยานครั้งแรก
หลังพยานแวดล้อมหลายคนขึ้นให้การต่อศาลไปแล้ว ก็ถึงคิวเดปป์ขึ้นให้การเป็นพยาน โดยนักแสดงวัย 58 ปี ให้การปฏิเสธว่า เขาไม่เคยทุบตีอดีตภรรยาอย่างที่เฮิร์ดกล่าวอ้าง
“ผมไม่เคยทุบตีคุณเฮิร์ดเลย และในชีวิตนี้ผมก็ไม่เคยตีผู้หญิงคนไหนด้วย ผมอยากเผยความจริง วันนี้คือโอกาสแรก ที่ผมจะได้พูดถึงมัน”
ส่วนประเด็นการใช้ยาเสพติด เดปป์ยอมรับว่าเขาเคยเสพโคเคน 1-2 ครั้ง กับ วิทนีย์ เฮิร์ด (Whitney Heard) น้องสาวของเฮิร์ด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ให้การว่า เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่อาจจะมีนอกลู่นอกทางบ้าง แต่เขาไม่ใช่พวกติดยาจนสามารถทำร้ายคนอื่นได้ อย่างที่เฮิร์ดกล่าวโจมตี “ผมไม่ใช่คนบ้าที่ต้องการจะเป็นคนสูงส่งหรือเป็นคนรวยตลอดเวลา” เดปป์กล่าว
เดปป์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สาเหตุที่ทำให้เขาต้องหันมาใช้ยาแก้ปวดเป็นประจำก็เนื่องมาจากที่เขาได้รับบาดเจ็บจากกองถ่าย ‘Pirates of the Caribbean 4’ อีกทั้งยังเสริมว่า เขาได้ใช้ยาประงับประสาทของแม่ตอนที่เขายังเด็กอยู่ แต่หลังจากที่เขาติดยาแก้ปวดเป็นระยะเวลานาน เขาก็ได้รับการดีท็อกซ์และกลับมามีความสุขอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้สัมผัสกับมันมานานหลายปี
เดปป์กล่าวว่า “ตามที่คุณเฮิร์ดได้เล่าเสริมแต่งเรื่องการใช้ยาเสพติดของผมนั้น ผมต้องขอโทษด้วยที่ต้องพูดเรื่องนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่กล่าวมานั้นไม่เป็นความจริงเลย ผมคิดว่ามันเป็นเป้าหมายที่ง่ายสำหรับเธอที่จะโจมตีผม”
นอกจากนี้เดปป์ยังเล่าถึงความสัมพันธ์ช่วงแรกของทั้งคู่ ซึ่งเขายอมรับว่ามันเป็นความรักที่หวานชื่น และเป็นความรักที่สวยงามเหมือนหลุดออกมาจากในหนังเลยทีเดียว และทุกวันนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเฮิร์ดถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น
“ผมไม่เคยได้สัมผัสประสบการณ์อะไรแบบนั้นเลย ในทุกวัน ๆ ที่ผมเกิดมา ผมไม่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนั้นด้วย ทุกอย่างมันดีเกินจนกว่าจะเป็นเรื่องจริง ทุกครั้งที่ผมกลับบ้านเธอมักจะมาถอดรองเท้าไปเก็บเข้าที่ให้ผม จากนั้นก็ยื่นแก้วไวน์ให้ผม และเธอทำแบบนี้ทุกวัน แต่แล้วก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น 18 เดือนต่อมา เธอเหมือนกลายเป็นอีกคนไปเลย มีอยู่คืนหนึ่งผมกลับมาที่บ้าน ผมเห็นเธอกำลังยุ่ง ๆ ผมเลยถอดรองเท้าเอง จากนั้นเธอก็เดินมาพูดว่า ‘นี่คุณกำลังทำอะไรเนี่ย’ ผมตอบ ‘ก็ผมเห็นคุณกำลังยุ่ง ผมเลยเก็บรองเท้าเอง’ ซึ่งเธอดูโมโหมากเวลาที่ผมทำอะไรต่างออกไปจากที่เธอคิดไว้ ความสัมพันธ์ช่วงแรกของเราดีมาก และหลังจากนั้นพอเวลาผ่านไปเป็นปี เธอก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง”
เมื่อวันพุธที่ 20 เมษายน 2021 เดปป์ ได้ขึ้นให้การเป็นครั้งที่ 2 โดยเดปป์อ้างว่า เฮิร์ดเป็นคนที่อารมณ์ร้ายมาก และเวลาที่เธอโมโห เขาก็มักจะขังตัวเองในห้องน้ำหรือห้องอื่น ๆ ที่เฮิร์ดไม่สามารถเข้ามาได้
“มันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากความโกรธกลายเป็นความบ้าคลั่ง และเธอมักก็เริ่มระบายอารมณ์ออกมาโดยการตี หรือไม่ก็ผลัก หรือบางครั้งก็เริ่มด้วยการขว้างรีโมตโทรทัศน์ใส่หัวผม หรือไม่ก็ขว้างแก้วไวน์ใส่หน้าของผม”
ฌอน เบ็ตต์ (Sean Bett) บอดี้การ์ดของเดปป์ ได้ขึ้นให้การในฐานะพยาน และเล่าว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นแผลที่หน้าของเดปป์และยังเปิดใจเล่าถึงความสัมพันธ์ของเดปป์และเฮิร์ดว่าทะเลาะกันบ่อยแค่ไหนด้วย เขายังเล่าเพิ่มอีกว่ามีครั้งหนึ่งที่เดปป์ขอให้เขาพาเฮิร์ดไปที่เพนต์เฮาส์แห่งหนึ่งเพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์
ยังมีอีกหลายประเด็นมาก ๆ ที่ถูกหยิบยกมาพูดต่อหน้าศาลจนกลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโซเชียล ทั้งเรื่องแบรนด์เครื่องสำอางที่ออกมาจับโป๊ะเฮิร์ด หลัง เบน รอตเทนบอร์น (Ben Rottenborn) ทนายของเฮิร์ดดันมาโชว์คอนชีลเลอร์ผิดปี นอกจากนี้เดปป์ยังพูดถึงเรื่องที่เฮิร์ดอึใส่เตียง รวมถึงคลิปเสียงที่บ่งบอกว่าเฮิร์ดทำร้ายเดปป์จริงอีกด้วย
ยังมีพยานแวดล้อมอีกหลายคน เตรียมขึ้นให้การเป็นพยานในคดีนี้ ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่าบทสรุปของมหากาพย์รักแต่งเลิกระหว่างเดปป์และเฮิร์ดจะจบลงเช่นไร
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส