Screenwriter & Director
Xu Ji Zhou
จำนวนตอน
45 ตอน / ตอนละ 45 นาที
วันเวลาออกอากาศ
ทุกวันศุกร์ 10.00 น. (อาทิตย์ละ 5 ตอน)
ช่องทางรับชม
MONOMAX
Our score
8.8[รีวิว]Glory of the Special Forces: ดุเดือด กินใจ คุ้มค่ากับการรอคอย
จุดเด่น
- เรียกว่าทุ่มทุนสร้างกับซีรีส์เรื่องนี้เลยละมั้ง เพราะฉากซ้อมรบดุเดือด สมจริง ปรบมือให้กับหยางหยางที่พลิกบทบาทจากนักวิจัยอวกาศมาดเท่ มาเป็นหน่วยรบพิเศษที่บ้าระห่ำขนาดนี้ได้
- บทกระจายความสำคัญของตัวละครอย่างไม่น้อยหน้าและไม่มีจุดน่าเบื่อเลยสักนิด เป็นการดำเนินเรื่องไปข้างหน้าแบบมีเป้าหมายใหญ่รออยู่อย่างน่าติดตาม
- โปรดักชันอลังการ ทุ่มทุนสร้างสุด ๆ มันจริง ๆ จ้ะ บอกแค่นี้
จุดสังเกต
- ขัดใจนิดเดียวที่ 'เจียง ลู่เสีย' ออกมาช้า โอ้โหกว่าจะมา ทำให้เรารอผู้หญิงเท่ ๆ คนนี้ตั้งนาน แล้วจบตอนซะงั้น ทำไมทำอย่างนี้
- การดำเนินเรื่องบางช่วงตั้งใจดึงอารมณ์คนดูให้เข้าไปในใจตัวแสดง แต่ ปูความรู้สึกมากไปนิด
-
บท
8.0
-
โปรดักชัน
8.0
-
การแสดง
9.0
-
ความสนุกตามแนวซีรีส์
9.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
10.0
ซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์ที่ผู้เขียนรอคอยให้ออกมาจาก youku สักทีเถอะ เพราะดำน้ำไม่ไหวแล้ว จนในที่สุดก็ได้ชมสมใจอยาก บอกเลยว่าเรื่องนี้ถึง ‘หยางหยาง’ จะมานั่งอยู่ในหัวใจนานแล้วก็ตาม แต่ตัวแสดงที่ผู้เขียนรอคอยอยากดูฝีมือของนางอีกคือ ‘เจี่ยง ลู่เสีย’ เจ้าของรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก ‘Operation Red Sea’ หนึ่งในภาพยนตร์จีนที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2018 และเธอยังเป็นอดีตแชมป์วูซูระดับประเทศอีกด้วย
‘Glory of the Special Forces’ หรือชื่อไทย ‘เกียรติยศหน่วยรบพิเศษ’ เล่าเรื่องราวของ ‘เยี่ยนโพเยว่’ (หยางหยาง) ชายหนุ่มผู้มีความมุ่นมั่น อยากพิสูจน์ความสามารถให้พ่อของเขาได้เห็นว่าเขาเป็นทหารที่แกร่งที่สุด เยี่ยนโพเยว่สมัครเข้าร่วมกองทัพหน่วยรบพิเศษและความสามารถของเขาก็โดดเด่นกว่าใคร ๆ จนน่าตกตะลึง เพราะพี่แกอึด ถึก ไม่หลับไม่นอน มุ่งหน้าซ้อม ๆ ๆ และเฝ้าแต่บอกตัวเองว่า ฉันต้องแกร่งที่สุด แต่ผู้บังคับบัญชา ‘หลี่เฉียง’ (อู๋เจี้ยน) ก็ยังไม่ยอมรับในตัวของเขาและส่งให้เยี่ยนโพเยว่ไปทำงานที่โรงครัว
เขาฝึก เขาซ้อม เขาบากบั่น จนในที่สุดก็ได้รับโอกาสให้กลับเข้าร่วมหน่วยรบและทำตามความฝันอีกครั้ง หลังจากผ่านสภาพแวดล้อมที่ลำบากและภารกิจที่หนักอึ้ง เขาต้องฝ่าด่านมากมายที่จะขัดเกลาให้เขาเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี ไม่ใช่เครื่องจักรสังหารอย่างที่เขากำลังจะทำให้ตัวเองเป็นแบบนั้น จนตระหนักถึงปัญหาของตัวเองที่ไม่ชอบทำงานเป็นทีม เขาได้เรียนรู้จากเพื่อนทหารจนในที่สุดก็เข้าใจความสำคัญของการเป็นทหาร และกลายเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ ‘ชีตาห์คอมมานโด’ ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของกองทัพ
“หน่วยของเราคือปืนแต่นายคือกระสุน นายก็แค่ต้องผ่านทิวทัศน์ไปสู่เป้าหมายให้ได้ฉันอยากให้นายได้ 10 แต้มทำได้ไหม” ผู้การหลี่เฉียงบอกกับเยี่ยนโพเยว่เอาไว้แบบนั้น
สมจริง
ขอมอบนิยามคำว่าสมจริงให้กับซีรีส์เรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่เคยเป็นทหารกับเขาหรอกค่ะ ในกองร้อยฝึกอย่างนี้รึเปล่า ในสนามรบน่ากลัวขนาดนี้ไหมเราไม่อาจทราบได้ แต่ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เห็นได้ว่า เป็นทหารไม่ใช่ใครจะเป็นก็ได้โดยเฉพาะทหารหน่วยรบพิเศษ และความสมจริงที่ว่าจะไม่สามารถใช้ได้เลยถ้าผู้สร้าง ผู้กำกับใส่ใจรายละเอียดไม่มากพอ และที่แน่ ๆ คือการทุ่มสุดตัวของนักแสดงที่เต็มเหนี่ยว เรื่องนี้หยางหยางใส่บทบาทของการเป็นทหารบ้าพลัง ดื้อดึง และถือดีมาอย่างสุดปรอท สำคัญคือหล่อมากทั้ง ๆ ที่ขี้ดินเต็มหน้าก็ไม่อาจกลบความหล่อไปได้ แต่ดูไปก็บ่นไปทำไมดื้อขนาดนี้ นี่ไม่คิดจะเชื่อผู้บังคับบัญชามั่งเหรอเนี่ยเยี่ยนโพเยว่ แถมคู่หูที่เข้ากองร้อยมาด้วยกันอย่าง ‘เซียวหยุนเจี๋ย’ (เมิ่งอาไซ่) ก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย บ้าบิ่นพอกันงานนี้ก็สนุกสิคะ
สองคนเป็นคู่หูที่เรียกได้ว่าเพื่อนตายเลยละ เคียงบ่าเคียงไหล่ รู้จิตรู้ใจกันดีเหลือเกิน แล้วก็แน่นอนว่าสองคนต้องผ่านบททดสอบที่มากมายโดยเฉพาะพระเอกของเราที่บททดสอบที่ว่า สาหัสกว่าชาวบ้านเขาเป็นไหน ๆ ด้วยนิสัยที่ผู้บังคับบัญชาทั้งรักทั้งห่วง เรียกดราม่าบีบจิตได้อยู่ลึก ๆ บทจะดำเนินไปเรื่อย ๆ ถึงเส้นทางกว่าจะเป็นหน่วยรบพิเศษของพวกเขา และสอดแทรกความหมายของการรู้หน้าที่อยู่เต็มไปหมด สลับวีรกรรมที่ทำเอาขำเบา ๆ และความเจ้าเล่ห์แหกกฎของเยี่ยนโพเยว่ ชอบเหลือเกินไอ้เรื่องดื้อดึง ที่กลมกล่อมจนทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ลื่นไหลไปในทุกตอนที่ออกอากาศ ไม่มีช่วงน่าเบื่ออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ฉากฝึกซ้อมนี่ยิงกระสุนกันแบบพ่อรวยเลยละจ้ะ ระบ่งระเบิดเขวี้ยงกันตูมตาม นี่ฝึกโหดกันขนาดนี้เลยเหรอถามจริง
อินจัด
ถึงแม้เราจะเห็น ‘หลี่อี้ถง’ ในบทบาทของ ‘อ้ายเชียนเสว่’ หรือผู้กองอ้ายก็ตาม แต่เธอก็เป็นตัวเอกตัวหนึ่งในบรรดาตัวเอกหลาย ๆ ตัวที่มารวมกันและนำทีมโดยหยางหยาง ซีรีส์ชูความสัมพันธ์ของมิตรภาพออกมาแบบโดดเด่น ตัวละครในเรื่องนี้สาดมิตรภาพใส่กันอย่างซาบซึ้ง ช่วยกันไปช่วยกันมา ส่งผ่านความรักท่ามกลางกระสุนปืนอย่างชื่นใจ เพราะมิตรภาพที่เจ้าหน้าที่อ้ายมอบให้เยี่ยนโพวเยว่มันไม่มีแววตาของชู้สาวเลยสักนิด แล้วอีตาทหารหน้าหล่อของเราก็หิวกระหายอยากจะเป็นหน่วยรบพิเศษใจจะขาด จนเราไม่กล้าจิ้นแต่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของมิตรภาพ และความมุ่งมั่นในหน้าที่ของแต่ละคน
ซีรีส์กระจายความสำคัญของตัวละครออกไปแบบไม่มีใครน้อยหน้าใคร แน่นอนว่าหยางหยางคือตัวชูโรง แต่เราจะสัมผัสได้ถึงความสำคัญของตัวละครอื่น ๆ ที่จะขาดตัวใดตัวหนึ่งไปไม่ได้เลย เหมือนกับความสำคัญของกองทัพที่ต้องทำงานกันเป็นทีม เฮ้ย…ทำไมเขียนบทดีอย่างงี้อ่ะ ขอบอกว่าเวลาดูอย่าคุยกับคนข้างๆ ค่ะ แล้วคุณจะเห็นอะไรดี ๆ ที่ไม่ได้ซ่อนอยู่ในเรื่องนี้มากมายเลยทีเดียว คือมันชัดมาก เขาบอกว่าทหารก็มีหัวใจ มีชีวิต มีครอบครัวแต่เมื่อก้าวมาเป็นทหารแล้ว สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นมันอยู่ข้างหลังประเทศชาติ
ในทุกซีนของทุกตัวละคร บทเขียนให้เราเห็นถึงหัวใจที่ปราถนาของเขาเลยแหละ บางคนเจียมตน บางคนรู้ตัวดีว่าเหมาะกับอะไรแค่ไหน บางคนเรารู้สึกได้ว่าแกมันบ้าไปแล้ว และบางคนที่ไม่ใช่ทหาร ใช้ความกล้าหาญจากความใฝ่ฝันทำให้เราดูถูกไม่ได้เลยทีเดียว
การรอคอยที่โอ้โห กว่าจะมา
บอกแล้วว่าผู้เขียนตั้งตารอ เจี่ยง ลู่เสีย แล้วแม่นางคนนี้ก็โผล่มาจนได้ แต่…กว่าจะมาก็ตอนที่ 15 เข้าไปแล้ว นี่นางเป็นตัวเอกอีกตัวเลยนะทำไมมาช้าจังล่ะ แต่การรอคอยครั้งนี้ก็ไม่ผิดหวังนะคะ เพราะนางมาแบบโซหลัวรุนแรงมาก อะไรจะเท่ขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เห็นหน้าสักนิดนึง มาถึงยิง ๆ ๆ แล้วก็เข้าทุกเป้า นี่ยังไม่ได้ออกสนามรบนะจ๊ะ แค่คัดเลือกสมาชิกเข้าหน่วยชีตาห์คอมมานโด ก็ยิงผู้ชายจนโดนคัดออกไประนาว สมฉายา Lone Wolf และแน่นอนว่ายังไม่มีสหายคนไหนรู้ว่าคนเก่งคนนี้เป็นผู้หญิงจ้ะ แข่ง ๆ กันอยู่ดี ๆ อ้าวจบ ทำไม MONOMAX ทำงี้อ่ะ นี่ต้องรอไปถึงศุกร์หน้าเลยเหรอ
แต่การรอคอยก็คุ้มค่าดีอยู่หรอก เพราะเดาเอาไว้ว่าอาทิตย์หน้าเราจะได้เห็นเจี่ยง ลู่เสียสู้กับหยางหยางกันเต็ม ๆ เพราะผู้เขียนแอบไปดูเบื้องหลังมาแล้ว บอกเลยว่าเป็นทหารนี่เขาไม่นับเพศกันหรอกนะ ผู้ชายอะไรเตะผู้หญิงป้าบ ๆ โหดร้ายอ่ะ แต่ผู้หญิงก็สู้กลับจนผู้ชายหงายทั้งยืนได้ด้วยจ้ะ และฉากบู๊แต่ละฉากในเรื่องนี้ก็ไม่ได้โอเวอร์จนทำให้ตัวแสดงเป็นมนุษย์เหนือมนุษย์ แต่เป็นเพียงทหารหน่วยรบพิเศษแกร่ง ๆ หน่วยหนึ่ง ที่ทำหน้าที่อย่างถวายชีวิตเพื่อมาตุภูมิ อึดได้ก็เจ็บได้และเฉียดตายเป็น และจะต้องมีใครสักคนตายไปแน่ ๆ ผู้เขียนเดาจากเพลงเปิดอ่ะนะ รอเสียน้ำตากันได้เลย ถึงแม้จะไม่ใช่พระเอกก็ตาม
เรื่องนี้มีอะไรที่สอนชีวิตเราได้เยอะมาก แต่ที่มากไปกว่านั้นคืออรรถรสที่กลมกล่อม ดุเดือด และชูมิตรภาพอย่างอบอุ่น ไม่เสียเวลาที่ได้ดูจริง ๆ ค่ะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส