ในภาพยนตร์ ‘Top Gun: Maverick’ นอกจากที่จะดึงผู้ชมกลับไปยังบรรยากาศที่คุ้นเคยจากภาพยนตร์ต้นฉบับอย่าง ‘Top Gun’ ที่ออกฉายเมื่อปี 1986 ด้วยทีมนักแสดงต้นฉบับทั้ง ‘ทอม ครูซ’ (Tom Cruise) และ ‘วัล คิลเมอร์’ (Val Kilmer) แล้ว ในหนังก็มีนักแสดงทัพฟ้านาวีแห่งทีมท็อปกันรุ่นใหม่ ๆ มาเสริมทัพ รับการฝึกจากอาจารย์ปู่มาเวอริกด้วย
ไม่ว่าจะเป็น ทั้ง ‘ไมลส์ เทลเลอร์’ (Miles Teller) ในบท แบรดลีย์ “รูสเตอร์” แบรดชอว์ (Bradley “Rooster” Bradshaw) ลูกชายของกูส (Goose) ที่เสียชีวิตไปในภาคแรก ‘เกลน พาวเวลล์’ (Glen Powell) ในบท เจก “แฮงก์แมน” เซเรซิน (Jake “Hangman” Seresin) ‘โมนิกา บาร์บาโร’ (Monica Barbaro) ในบทนาตาชา “ฟีนิกซ์” เทรซ (Natasha “Phoenix” Trace) นักบินหญิงหนึ่งเดียวของทีม ‘เจย์ เอลลิส’ (Jay Ellis) รับบท รูเบน “เพย์แบ็ก” ฟิตซ์ (Reuben “Payback” Fitch) ‘แดนนี รามิเรซ’ (Danny Ramirez) รับบท มิกกี “แฟนบอย” การ์เซีย (Mickey “Fanboy” Garcia)
และ ‘โรเบิร์ต “บ็อบ” ฟลอยด์’ (Robert “Bob” Floyd) ทัพฟ้านาวีหนุ่มขี้อายแต่ฉลาดปราดเปรื่อง ผู้รับหน้าที่ผู้ช่วยนักบิน (Weapon Systems Officer-WSO) ของฟีนิกซ์ ที่รับบทโดยนักแสดงหนุ่มวัย 29 ปี นามว่า ‘ลูอิส พูลแมน’ (Lewis Pullman) ที่เคยมีผลงานภาพยนตร์ ‘Bad Times at the El Royale’ (2018) มาก่อนหน้านี้
แม้ว่าเขาเองจะยังเพิ่งเป็นหนุ่มหน้าใหม่ในวงการ และเพิ่งจะก้าวมารับบทในหนังบล็อกบัสเตอร์เป็นครั้งแรก แต่รู้กันหรือไม่ว่า เขาเองนั้นเป็นลูกชายคนสุดท้องจากพี่น้อง 3 คน ของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง ‘บิล พูลแมน’ (Bill Pullman) เจ้าของบทบาทประธานาธิบดี โธมัส วิตมอร์ (Thomas J. Whitmore) ในหนังเอเลียนถล่มโลก (+อวยสหรัฐอเมริกา) ในตำนานอย่าง ‘Independence Day’ (1996) มาก่อน
แล้วมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร ต้องเล่าเท้าความย้อนไปถึงเนื้อเรื่องในหนังเพื่อทบทวนความจำกันก่อนว่า บิลต้องรับบทเป็น โธมัส วิตมอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อดีตนักบินรบและทหารผ่านศึก โดยที่ตอนท้าย ๆ เรื่อง เขาได้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อปลุกใจให้แก่เหล่าทหารนักบินที่กำลังจะเข้าร่วมรบเพื่อถล่มจานบินเอเลียนที่กำลังจะบุกยึดโลก
ซึ่งฉากนี้แหละที่กลายมาเป็นฉากจำของเขา และเป็นฉากที่ทรงพลังชนิดที่คนดูเองต่อให้ไม่ใช่คนอเมริกันก็ยังรู้สึกฮึกเหิม และหลังจากนั้น เขาเองก็ขออาสาเป็นนักบินเครื่องบินรบ เข้าร่วมต่อสู้กับเอเลียนด้วยตัวเอง พร้อมกับกล่าวประโยคที่เป็นที่จดจำในหนังว่า “ผมเป็นเสืออากาศนะวิล ท้องฟ้าคือบ้านของผม” (I’m a combat pilot, Will. I belong in the air.)
ลูอิสได้ตอบคำถามเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่เป็นแรงบันดาลใจของเขา ในบทสัมภาษณ์ของ Entertainment Weekly ซึ่งเขาเองในฐานะของบุตรชายของนักแสดงที่เคยได้รับบทเป็นนักบินเครื่องบินรบมาก่อน ในภาพยนตร์ที่ออกฉายเมื่อ 26 ปีที่แล้ว เขาเองได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับพ่อของเขาว่า
“ผมโตมาโดยที่พ่อบังคับไม่ให้ผมดูทีวี มันก็ประหลาดมาก แต่ผมอนุญาตให้ผมดูหนังได้ 2 เรื่องต่อสัปดาห์ และพาผมไปที่ร้าน Blockbuster ด้วย ในบรรดาเทปวิดีโอ VHS ที่เรามี หนึ่งในนั้นคือหนังเรื่อง ‘Legend’ (1985) ที่ ทอม ครูซ แสดง ตอนนั้นเขายังเป็นหนุ่มน้อย และมันน่าเหลือเชื่อมาก มันเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แฟนตาซีที่เป็นตำนานอย่างแท้จริง ผมจำได้ว่าตื่นเต้นมาก ๆ ตอนที่ดู”
“แต่ถ้าถามว่าพ่อของผมเป็นแรงบันดาลใจด้วยไหม ไม่ต้องถามเลยครับ ผมชอบไปหาเขาพร้อมกับคำถามทุกเมื่อ ไม่มีใครสามารถเข้าใจและแก้ปัญหาแปลก ๆ ที่คุณเจอได้เหมือนกับเขาอีกแล้ว เพราะเขารู้จักผมดีกว่าใคร เขารู้จักวงการนี้ดีกว่าใคร ๆ “
ส่วนทาง The Hollywood Reporter ก็ได้สัมภาษณ์ลูอิส และได้ถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า พ่อของเขาได้มีโอกาสดูภาพยนตร์ Top Gun:Marverick แล้วหรือยัง และได้ขอคำแนะนำจากบิล พ่อของเขา ในฐานะที่เคยแสดงเป็นนักบินเครื่องบินรบมาก่อนบ้างไหม ลูอิสตอบว่า
“(หัวเราะ) เขาเองก็ยังไม่ได้ดูเลยครับ แต่ผมเองก็คงรอให้เขาไปดูไม่ได้ เพราะตอนนี้เขากำลังติดซ้อมเพื่อจะแสดงละครเวที ผมมักจะขอคำปรึกษาจากเขา แล้วผมก็มักจะได้คำแนะนำดี ๆ กลับมาเสมอ
“ตอนเขาถ่าย Independence Day พ่อบอกว่า เขาถ่ายทำกับกรีนสกรีน (Green Screen) เขาก็เลยแนะนำวิธีการเคลื่อนไหวร่างกายที่เหมาะสม เพื่อถ่ายทอดสภาวะของร่างกายในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
“หลัก ๆ เลยก็คือ เขาต้องการให้ผมมั่นใจว่า ผมจะสามารถซึมซับทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างที่นักบิน Top Gun ควรจะเป็น เพื่อที่ผมจะได้ถ่ายทอดในสิ่งที่พวกเขาเป็นออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา”
ที่มา: Entertainment Weekly, The Hollywood Reporter
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส