Release Date
16/06/2022
แนว
แอนิเมชัน, วิทยาศาสตร์, ผจญภัย
เรตผู้ชม
ทั่วไป
ความยาว
105
Our score
8.0[รีวิว] Lightyear – ตำนานบทใหม่ของวีรบุรุษจักรวาล
จุดเด่น
- หนังรวมเอาองค์ประกอบของหนังชั้นดีมาไว้มากมาย ผสมผสานออกมาได้อย่างลงตัว
- เล่นเรื่องราวไซไฟแบบสุดขอบจักรวาล ถูกใจคอหนังไซไฟ
- เจ้าเหมี่ยม Sox สุดน่ารักและแย่งซีน
จุดสังเกต
- มีความเป็นแพทเทิร์นเดิม ๆ ของหนัง Pixar จนเดาได้ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไร
-
ความสมบูรณ์ของบท
7.7
-
คุณภาพนักแสดง
8.0
-
การเล่าเรื่อง
7.2
-
โปรดักชัน-การถ่ายทำ
8.5
-
ความคุ้มค่าในการรับชมตามแนวหนัง
8.5
บัซ ไลท์เยียร์ (Buzz Lightyear) เป็นตัวละครที่เรารู้จักกันมาอย่างยาวนาน เขาปรากฏตัวครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Toy Story (1995)’ ในฐานะตุ๊กตา Space Ranger ของ แอนดี เดวิส (Andy Davis) หลังจากหนังฉาย บัซ ไลท์เยียร์ ก็เข้าไปครองใจผู้ชมจนกลายเป็นหนึ่งในไอคอนนิกของ Pixar ไปเรียบร้อย
เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่คนดูได้รู้จักกับ บัซ ไลท์เยียร์ ผ่านวันเวลาอันแสนสนุก ระทึกขวัญและเสียน้ำตา จนเขากลายมาเป็นหนึ่งในความทรงจำอันล้ำค่าของใครหลายคน และแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ Space Ranger ผู้นี้จะกลับมาโลดแล่นเพื่อสร้างตำนานใหม่อีกครั้ง
Lightyear คือภาพยนตร์ที่อยู่ในจักรวาล Toy Story โดยเจ้าตุ๊กตา บัซ ไลท์เยียร์ ของแอนดีก็เป็นของเล่น ที่สร้างมาจากหนังเรื่อง Lightyear นี้อีกที ดังนั้นแล้ว ก่อนจะไปดู Lightyear ก็ขอให้ทุกคนลืมทุกสิ่งที่คุณรู้จักเกี่ยวกับ บัซ ไลท์เยียร์ ไปซะและมาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งเรื่องราวนี้กัน
เรื่องย่อของ Lightyear เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักบินอวกาศ บัซ ไลท์เยียร์ ได้ทำภารกิจผิดพลาด จนทำให้เขาและทีมถูกปล่อยทิ้งไว้บนดาวเคราะห์รกร้าง ไลท์เยียร์นั้นรู้สึกว่าเป็นความผิดของเขาที่ทำให้ทุกคนต้องติดอยู่ที่นี่ เขารู้สึกว่าตนเองต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไลท์เยียร์จึงออกเสาะแสวงหาวิธีกลับบ้าน ด้วยวิธีการที่ไม่มีใครกล้าและบ้าเท่าเขาอีกแล้ว
ต้องบอกว่า Lightyear คือหนังที่มีความเป็นไซไฟสูงมาก ตลอดทั้งเรื่องอุดมไปด้วยกฎฟิสิกส์ การข้ามเวลา และพหุจักรวาลเต็มไปหมด แต่หนังก็ไม่ได้ใจร้ายกับคนดูขนาดนั้น เพราะมันยังมอบความบันเทิงให้คนดูได้สนุกกับการผจญภัยของเหล่า Space Ranger ในเรื่อง อีกทั้งหนังยังมี ‘หัวใจ’ อยู่เต็มเปี่ยม ที่ช่วยให้คนดูรู้สึกอิ่มเอมกับเรื่องราวนี้ไปจนจบ
แม้ผู้กำกับ แองกัส แมคเลน (Angus MacLane) จะเคยกำกับหนังสั้น Toy Story อยู่บ้าง แต่นี่ถือเป็นอีกครั้งที่เขาต้องมาจับตัวละครที่ Spin-Off ออกมาจาก Toy Story และการตีความ บัซ ไลท์เยียร์ ในฉบับนี้ก็ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายแมคเลนอย่างมาก เพราะเขาต้องพาตัวละครนี้ไปในทิศทางที่สดใหม่แต่ต้องไม่ทำลายความทรงจำเดิมของแฟน ๆ ด้วย
และก็ถือว่าแมคเลนสอบผ่าน! เพราะ บัซ ไลท์เยียร์ ในฉบับนี้ฉีกออกจากฉบับเดิมได้อย่างดีเยี่ยม แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของ Space Ranger ที่เรารักอยู่ ซึ่ง บัซ ไลท์เยียร์ ฉบับใหม่เท่ชนิดว่าหากเราเป็นเจ้าหนูแอนดีแล้ว ดูจบคงอยากได้ของเล่นชิ้นนี้อย่างแน่นอน
ในด้านของเนื้อเรื่องนั้น แอนิเมชันของ Pixar ยังคงเป็นหนังสูตรสำเร็จอยู่เช่นเดิม เพราะมีทั้งพาร์ตที่ตัวละครหลักต้องเจ็บปวด จนต้องเรียนรู้จากตัวละครอื่น มีซีนเรียกน้ำตาที่ดึงอารมณ์จากผู้ชม และการก้าวข้ามผ่านตัวตนของตัวเอกที่จะพาไปสู่ตอนจบที่งดงาม แต่แม้จะดูเป็นสูตรสำเร็จจ๋า หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้น่าเบื่อหรอกนะ เพราะ Lightyear ยังอัดแน่นไปด้วยความน่าตื่นตาของโลกไซไฟที่ผสมผสานการผจญภัย จนทำให้เรารู้สึกสนุกตามไปจนจบเลยล่ะ
หากใครดูในระบบเสียงต้นฉบับก็จะรู้ได้เลยว่าตัวละคร บัซ ไลท์เยียร์ ที่พากย์โดยพ่อกัปตันอเมริกาอย่าง คริส อีแวนส์ (Chris Evans) นั้นถือว่าเหมาะเอามาก ๆ เพราะด้วยกลิ่นอายความเป็นผู้ชายหลงยุคและทหารกล้า ก็ทำให้เราอดคิดถึงกัปตันอเมริกาที่เขาเคยเล่นไม่ได้ ซึ่งอีแวนส์ก็ตีความตัวละคร บัซ ไลท์เยียร์ ให้ออกมามีความรั่วและฮา ชนิดว่าถอดมาจากนิสัยของอีแวนส์ด้วยเลย
ด้านตัวละครสมทบอย่าง อิซซี, โม, ดาร์บี นั้นก็ช่วยเรียกเสียงฮาได้ดี พวกเขาเป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่ใช้ความกล้าเพื่อลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้จะมีบางช่วงที่รู้สึกว่าพวกเขาน่ารำคาญอยู่บ้าง แต่เหมือนหนังก็กลัวคนดูคิดแบบนั้นจึงไม่ให้แอร์ไทม์มากมาย และเน้นหนักไปที่ไลท์เยียร์และอีกหนึ่งตัวละครแย่งสุดแย่งซีนแทน
และใช่แล้วตัวละครสุดแย่งซีนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเจ้าเหมียว ซ็อกส์ (Sox) หุ่นยนต์แมวสุดฉลาด น่ารักน่าเอ็นดู ที่โผล่มาเพื่อช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของเนื้อหาอันหนักหน่วงให้เบาลง ซึ่งผู้เขียนก็เชื่อเหลือเกินว่า เมื่อดูจบคนดูจะหลงรักเจ้าซ็อกส์อย่างแน่นอน
แม้จะเขียนมาถึงขนาดนี้แล้ว แต่เอาเข้าจริงผู้เขียนยังไม่ได้พูดถึงเนื้อเรื่องหลักของหนังเลยนะ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นไม่กี่เรื่องที่พูดถึงเนื้อหาหลักไม่ได้มาก เพราะมันจะเป็นการสปอยล์จุดสำคัญไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามขอกระซิบว่าคอหนังไซไฟต้องชอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะมันมีทุกสิ่งที่คุณอยากเห็นเลยล่ะ
โดยรวมแล้ว Lightyear เป็นภาพยนตร์ป๊อปคอร์นชั้นดีที่อุดมไปด้วยแก่นของไซไฟและการผจญภัย หนังยังเปี่ยมไปด้วยหัวใจของแอนิเมชัน Pixar ที่ทำให้คนดูต้องหัวเราะ ร้องไห้ และหลงรักเรื่องนี้ไปตาม ๆ กัน มันคือตำนานบทใหม่ที่ไม่ทำลายภาพจำในวัยเด็กของเราและยังทำให้ ของบัซ ไลท์เยียร์ ที่เรารู้จักดูเท่ขึ้นไปอีก โดยหนังเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งคู่มือชั้นดีที่บอกเราว่า การทำหนัง Spin-Off ที่ดีและมีหัวจิตหัวใจต้องเป็นอย่างไร
“สู่ความเวิ้งว้าง อันไกลโพ้น”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรััส