ในโลกแห่งเสียงดนตรีเมทัลจะมีสักกี่ครั้งที่เราได้เห็นวงดนตรีหญิงล้วนขึ้นมาสร้างท่วงทำนองของพวกเธอ และจะมีสักกี่ครั้งที่วงดนตรีหญิงล้วนนั้นจะเป็นมุสลิมทั้งวง ในโลกที่กำลังต้องการเสียงสะท้อนของความหลากหลาย วงดนตรีเมทัลหญิงล้วนที่สวมฮิญาบมาจับไมค์ โซโลกีตาร์ หวดเบส และรัวกลอง เพื่อร่ำร้องถึงประเด็นทางสังคมผ่านเสียงร้องและท่วงทำนองของหญิงสาวชาวมุสลิมจึงเป็น ‘เสียงที่ผู้คนบนโลกใบนี้อยากได้ยิน’
Voice of Baceprot (VOB) เป็นวงดนตรีสไตล์เมทัลหญิงล้วนจากเมืองการุต จังหวัดชวาตะวันตกประเทศอินโดนีเซีย ที่สวมฮิญาบวาดลวดลายบนเวทีด้วยดนตรีเมทัลสุดร้อนแรง พวกเธอเริ่มต้นหยิบเครื่องดนตรีในวัย 14 ผ่านการผลักดันของ อาบาห์ เอซร่า ซาเตีย (Abah Erza Satia) คุณครูผู้หลงใหลในบทเพลงเมทัล ผู้มีวิสัยทัศน์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเธอซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้จัดการวงและร่วมแต่งเพลงกับพวกเธอไปด้วย ในตอนแรกที่พวกเธอได้ยินบทเพลงเมทัลอันร้อนแรงที่ครูของพวกเธอเปิดให้ฟัง พวกเธอเกิดความสนใจและในไม่ช้าก็ตกหลุมรักมันในทันที ถ้าเป็นครูชาวมุสลิมคนอื่นคงกีดกันพวกเธอออกจากเสียงดนตรีที่เร่าร้อนรุนแรงเหล่านี้ แต่สำหรับเอซร่าแล้วเขากลับสนับสนุนความหลงใหลในดนตรีเมทัลของพวกเธอ และในไม่ช้าสาว ๆ ก็เปลี่ยนจากคนที่ไม่เคยเล่นเดนตรีมาก่อนและกลายเป็นผู้หลงใหลในดนตรีเมทัลและเริ่มต้นฝึกฝนทุกเวลานาทีที่พวกเธอมีเวลาว่าง
สามสาว VOB ฟีร์ดา มาร์สยา กูร์นียา (Firda Marsya Kurnia) [ร้องนำ, กีตาร์] อูย์ส ซิตตี ไอชะฮ์ (Euis Sitti Aisyah) [กลอง] และ วีดี ระฮ์มาวาตี (Widi Rahmawati) [กีตาร์เบส] เริ่มจับมือก่อตั้งวงกันในปี 2014 โดยคำว่า ‘baceprot’ ในชื่อวงนั้นเป็นภาษาซุนดาแปลว่า “เสียงดังโหวกเหวก” ซึ่งสื่อถึงรูปแบบการเล่นของวง VOB นั่นเอง สามสาวเริ่มต้นจากการคัฟเวอร์เพลงของวงดัง ๆ อย่าง ‘Red Hot Chili Peppers’ ‘Rage Against the Machine’, ‘System of a Down’, ‘Slipknot’ และ ‘Metallica’ ก่อนที่จะพัฒนามาทำงานเพลงของตัวเอง จนเข้าตาบรรดานักฟังเพลงและสื่อต่าง ๆ ทั้งในเกาะแก่งทั้งหลายในอินโดนีเซียและทั่วโลก จนได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตทั่วภูมิภาคต่าง ๆ ในอินโดนีเซียและทั่วยุโรป
งานดนตรีของ VOB นั้นโดดเด่นด้วยการผสมผสานดนตรีเมทัลอันร้อนแรงและกลิ่นอายของดนตรีชวาที่ทำให้งานเพลงของพวกเธอเป็นการฟิวชันที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ ชวนให้นึกไปถึงวงไอดอลสายเมทัลชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่าง Babymetal ที่ใช้ภาพลักษณ์ของเด็กสาวน่ารักในสไตล์ไอดอลมาร้องเพลงเมทัลอันดุเดือดเป็นการผสมผสานความต่างสุดขั้วที่กลับดูเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ แถมในงานดนตรียังเป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีตะวันออกกับตะวันตกที่กลมกล่อม ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันกับ VOB แต่จุดต่างหนึ่งที่สำคัญก็คือสมาชิก VOB แต่ละคนมีทักษะอันเอกอุและโดดเด่นในการเล่นเครื่องดนตรีของตนเอง ในขณะที่ Babymetal จะเน้นไปที่การร้องและการเต้น ส่วน VOB นั้นมีความเข้มข้นในแบบฉบับของชาวร็อกชาวเมทัล
ที่ผ่านมาเส้นทางของพวกเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย เพราะตั้งแต่ตั้งวงมาพวกเธอก็เจอกระแสต่อต้านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศาสนาหรือว่าฝีมือในการเล่นดนตรี หลายกระแสต่อต้านแสดงถึงความเกลียดชังและขู่ทำร้าย มีความพยายามที่จะขัดขวางการแสดงของพวกเธอหลายต่อหลายครั้ง มีการจ้องทำร้ายและขว้างก้อนหินใส่พวกเธอ แต่ไม่มีสิ่งใดที่หยุดยั้งหรือพรากพวกเธอออกจากเสียงดนตรีได้ พวกเธอไม่เห็นถึงความขัดแย้งหรือแตกต่างประการใดเลยระหว่างความเป็นมุสลิมและการสวมฮิญาบกับการเล่นดนตรีเมทัลบนเวที รวมไปถึงในมิติทางเพศของการเป็นผู้หญิง พวกเธอก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหาอะไรหากผู้หญิงจะลุกขึ้นมาหยิบเครื่องดนตรีและประกาศก้องออกไปในสิ่งที่พวกเธอคิดและรู้สึก เสียงดนตรีของ VOB จึงเป็นดั่งคำประกาศก้องของหญิงสาวมุสลิมให้ ‘กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง’ และดำเนินชีวิตอย่าง ‘สร้างสรรค์’
หากพูดถึงบริบททางด้านดนตรีในอินโดนีเซียก็ต้องนับว่าอินโดนีเซียเป็นหนึ่งประเทศในเอเชียที่มีวัฒนธรรมดนตรีเมทัลที่ค่อนข้างเข้มแข็ง และนั่นทำให้พวกเธอมีฐานแฟนเพลงที่เหนียวแน่นและให้การสนับสนุนพวกเธอ ดังนั้นในขณะที่มีคนที่ไม่เห็นด้วยกำลังต่อต้านพวกเธอ กลุ่มแฟนเพลงและผู้สนับสนุนก็เป็นกำลังใจสำคัญในการขับเคลื่อนพวกเธอไปด้วย อย่างในปี 2017 พวกเธอก็ได้รับเชิญให้ไปแสดงแก่เจ้าหน้าที่อาวุโส ผู้นำธุรกิจ และกลุ่มนักศึกษาจำนวน 2,000 คนในกรุงจาการ์ตา ในคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเพื่อฉลองวันครบรอบอิสรภาพของอินโดนีเซีย
บทเพลงของ VOB มีเนื้อร้องผสมกันทั้งภาษาอังกฤษและภาษาซุนดา เนื้อหาในเพลงของพวกเธอมักเกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น ภาวะโลกร้อน สันติภาพ ขันติธรรมทางศาสนา และความเท่าเทียมทางเพศ หากมะลาละห์ ยูซัฟซัย (Malala Yousafzai) คือเยาวชนนักเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนการศึกษาที่เท่าเทียมกัน VOB ก็คือเยาวชนนักเคลื่อนไหวผ่านเสียงดนตรีเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับโลกใบนี้
คิดว่าอีกไม่นานเราคงได้ฟังอัลบั้มแรกของ VOB แต่ในตอนนี้เราสามารถหาฟังเพลงของพวกเธอได้จากแหล่งต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ทั้งในเฟซบุ๊กของวง ยูทูบ หรือในสตรีมมิง VOB เปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยซิงเกิลเดบิวต์ “School Revolution” ในปี 2018 บทเพลงแห่งการปฏิวัติจากสามสาววัยเรียน ในท่วงทำนองของนู-เมทัลอันร้อนแรงที่ผสานการร้องในสไตล์แรป
ตามติดด้วย “God, Allow Me (Please) to Play Music” ในปี 2021 ที่สะท้อนทัศนะที่เธอมีต่อการเล่นดนตรีในสังคมมุสลิมเช่นนี้ว่ามันไม่ใช่อาชญากรรม พวกเธอจึงอยากขออนุญาตจากพระเจ้าและเชื่อว่าพระองค์จะเห็นด้วยในสิ่งที่พวกเธอทำ
“[NOT] PUBLIC PROPERTY” เสียงสะท้อนของเด็กสาวบนโลกที่เรือนร่างและชีวิตของพวกเธออาจตกอยู่ในอันตรายจากผู้ชายที่คิดร้ายทั้งหลาย “เรือนร่างของพวกเราไม่ใช่สมบัติสาธารณะ เราไม่มีที่ว่างสำหรับผู้มีจิตใจอันสกปรก !”
“Age Oriented” บทเพลงที่สะท้อนความคิดของคนรุ่นใหม่ ที่มักถูกต่อต้านจากผู้ใหญ่หรือคนรุ่นก่อนจนเกิดคำถามว่าต้องให้ฉันแก่กว่านี้หรือไงพวกคุณถึงจะรับฟังความคิดเห็นของฉัน เพลงนี้มาร์สยาร้องในสไตล์คลาสสิกของชวาให้สัมผัสที่แปลกใหม่และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ส่วนวีดีก็มาพร้อมการสแลปเบสที่น่าทึ่ง
“The Enemy of Earth is You” เป็นเพลงเพื่อสิ่งแวดล้อมที่แสดงให้เห็นถึงการหลอมรวมระหว่างเสียงร้องที่ไพเราะของชาวอินโดนีเซียและท่วงทำนองของดนตรีแทรช-เมทัล มาร์สยามาพร้อมการเล่นโซโลกีตาร์ที่ร้อนแรงและแสดงให้เห็นถึงฝีไม้ลายมืออันเฉียบคม และวีดีก็ได้โชว์ลีลาการหวดเบสของเธอทั้งการตบการดีดที่ลื่นไหลและรวดเร็วราวสายฟ้า ส่วนซิตตีก็หวดกลองได้อย่างหนักแน่นและเป็นกระดูกสันหลังสำคัญของเพลง
วันที่ 27 สิงหาคม 2565 นี้พวกเธอ ‘Voice of Baceprot’ กำลังจะมาแสดงฝีไม้ลายมือและขับขานบทเพลงแห่งการเปลี่ยนแปลงของพวกเธอที่ประเทศไทย หากใครอยากไปให้กำลังใจแบบใกล้ชิดก็อย่าพลาดกัน ไปซื้อบัตรกันได้เลยที่ Ticketmelon
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส