เมื่อวานนี้แฟน ๆ ซีรีส์ ‘House of the Dragon’ ซีรีส์สปินออฟจากจักรวาล ‘Game of Thrones’ น่าจะได้ยินข่าวดีกันแล้วว่า ทาง HBO ได้ประกาศสร้างซีซันที่ 2 ต่อเนื่องทันทีแม้เพิ่งจะฉายซีซันแรกไปได้แค่ตอนเดียวเท่านั้น ตัดภาพมาที่ Netflix เพราะมีข่าว Exclusive ที่รายงานโดยเว็บไซต์ Deadline รายงานว่า ทาง Netflix ได้ตัดสินใจยกเลิกการอนุมัติสร้างซีซันที่ 2 ของซีรีส์ ‘Resident Evil’ ที่ดัดแปลงมาจากเกมไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ตัวซีรีส์เพิ่งออกอากาศซีซันแรก จำนวน 8 ตอนไปเมื่อวันที่ 14 กรกฏาคมที่ผ่านมานี้เอง
แม้หลังฉาย ตัวซีรีส์ ‘Resident Evil’ เองจะสามารถทำยอดคนดูทั่วโลกจนสามารถขึ้นอันดับ 1 ในหลาย ๆ ประเทศ และติดอันดับ 2 ของซีรีส์ที่มีคนเข้าชมในสัปดาห์แรกมากที่สุด ด้วยยอด 72.7 ล้านชั่วโมง ซึ่งเป็นรองแค่เพียงซีรีส์ ‘Stranger Things’ จนกระทั่งในสัปดาห์ที่ 3 ยอดผู้ชมกลับตกลงมาเรื่อย ๆ ทำให้ซีรีส์ร่วงจาก Top 10 ไปในระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์ แถมยังทำคะแนนรีวิวของผู้ชมบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ได้เพียงแค่ 27% นับว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในบรรดาภาพยนตร์และซีรีส์ตระกูล ‘Resident Evil’ ตั้งแต่ที่เคยมีมา
แม้ตัวของซีรีส์เองจะมีความพยายามผลักดันทีมนักแสดงที่มีความหลากหลายและเต็มไปด้วยความสามารถเข้ามาร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ ทั้ง เพาลา นูเนซ (Paola Núñez) ที่รับบทเป็น เอเวอลิน มาร์คัส, เอลลา บาลินสกา (Ella Balinska) รับบทเป็น เจด เวสเกอร์, และ แลนซ์ ริดดิก Lance Reddick รับบทเป็น อัลเบิร์ต เวสเกอร์ แต่ด้วยเสียงตอบรับที่ไม่ค่อยจะดี และน่าจะไม่มีศักยภาพต่อไปอีกระยะยาว ทำให้ Netflix มองว่าอาจจะไม่คุ้มค่าเท่าไหร่หากจะลงทุนสร้างต่ออีกซีซัน
ซีรีส์ ‘Resident Evil’ เป็นออริจินัลซีรีส์ของ Netflix ความยาว 8 ตอน ว่าด้วยเรื่องราว 14 ปีให้หลังจากที่โลกล่มสลายเพราะเกิดการระบาด เจด เวสเกอร์ ลูกสาวของ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดจากซอมบี้กระหายเลือด และต่อสู้กับความทรงจำที่ปวดร้าวของเธอเองที่เกิดขึ้นในเมืองนิวแรคคูน (New Raccoon City) และความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของเธอกับอัมเบรลลา คอร์ปอเรชัน (Umbrella Coporation) ที่ชั่วร้าย
ที่มา : Deadline
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส