ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 กันยายน) ภาพยนตร์ ‘The Whale’ ของผู้กำกับ ดาร์เรน อาโรนอฟสกี (Darren Aronofsky) ได้ฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลภาพยนตร์เวนิส 2022 และเมื่อฉายจบผู้ชมในงานต่างก็ปรบมือให้กับเหล่านักแสดงและผู้กำกับกว่า 6 นาที จน เบรนแดน เฟรเซอร์ (Brendan Fraser) ที่เพิ่งกลับมารับบทนำเป็นครั้งแรก หลังหายไปเล่นบทตัวละครสมทบอยู่นานหลายปี ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
‘The Whale’ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครูสอนภาษาอังกฤษชื่อ ‘ชาร์ลี’ (แสดงโดยเฟรเซอร์) ที่หวังจะแก้ไขความสัมพันธ์ของเขากับลูกสาววัย 17 ปี หลังเขาเคยทิ้งครอบครัวเพื่อไปอยู่กับคนรักที่เป็นเกย์
เพื่อรับบทนำในเรื่องนี้เฟรเซอร์ต้องแปลงโฉมเป็นคนหนัก 272 กิโลกรัม ด้วยการใส่ชุดบอดี้สูทที่มีน้ำหนักกว่า 136 กิโลกรัม และต้องใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงในการแต่งตัว เพราะมันใส่ยากมากและไม่สบายตัวเท่าไหร่ ตามที่เฟรเซอร์เคยได้ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้
ภายในงานเฟรเซอร์ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า “ผมรู้สึกเวียนหัวมากตอนที่หมดวันแล้วได้ถอดอุปกรณ์พวกนั้นออกไป ความรู้สึกมันเหมือนการได้ก้าวออกจากท่าเรือไปยังเรือเวนิสที่โคลงเคลง มันทำให้ผมเข้าใจหัวอกคนที่มีรูปร่างคล้าย ๆ กัน (คนที่มีรูปร่างคล้ายกับตัวละครชาร์ลี) เพราะคุณต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งมากทั้งทางร่างกายและจิตใจเลยถึงจะอยู่ในรูปร่างนั้นได้”
ถึงแม้เมื่อก่อนเราจะได้เห็นเฟรเซอร์แสดงบทนำให้กับภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องมาแล้ว แต่หลังจากได้แสดงในแฟรนไชส์ ‘The Mummy’ เฟรเซอร์ก็ได้ห่างหายไปจากบทเด่น ๆ แล้วไปรับบทเป็นตัวละครบทบาทสมทบเล็ก ๆ น้อย ๆ แทน แม้เมื่อปีที่ผ่านมาเฟรเซอร์จะได้ไปรับบทตัวละครสมทบในภาพยนตร์ ‘No Sudden Move’ ของ สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก (Steven Soderbergh) แต่ผลงานล่าสุดอย่าง ‘The Whale’ ก็ถือเป็นการกลับมารับบทนำอย่างยิ่งใหญ่ของเขา
แม้จะยังไม่มีตัวอย่างออกมาให้เราได้ดู แต่แค่เพียงภาพตัวอย่างการแปลงโฉมและบทสัมภาษณ์ของเฟรเซอร์ก็ทำให้เราเห็นได้ถึงความทุ่มเทให้กับบทบาทที่ได้รับในครั้งนี้อย่างมาก และไม่แปลกใจเลยที่บทบาทนี้จะส่งให้เฟรเซอร์ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในอนาคต
ที่มา: Variety
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส