วันฉาย
22 / 8 /2022
แนว
แอ็กชัน, คอมเมดี, การเมือง
เวลา
114 นาที
ผู้กำกับ
ชินจิ ฮิกุจิ
เรตผู้ชม
ทั่วไป
OUR SCORE
7.7
Our score
7.7[รีวิว] Shin Ultraman – กำเนิดใหม่ของยักษ์แห่งแสง สุดแปลก แหวกกาแล็กซี
จุดเด่น
- ทีมนักแสดงที่เข้าขา รับส่งบท ต่อมุกกันแบบโบ๊ะบ๊ะ
- อุลตร้าแมนฉบับตีความใหม่ เนื้อหาเน้นหนักการเมืองและไม่ใช่หนังเด็ก
- ลายเซ็นต์อันโนะที่ชัดเจน ใครชอบหนังตระกูล 'ชิน' ต้องไม่พลาด
- บทคนค่อนข้างดี มนุษย์ไม่เป็นไม้ประดับเหมือนหนังไคจูเรื่องอื่น
จุดสังเกต
- CG บางซีนที่เหมือนทำไม่เสร็จ
- ไดนามิกของเรื่องเรื่องไม่ดี ทำให้ท้ายเรื่องค่อนข้างแผ่ว
- การวางสกอร์ช่วงต้นกับท้ายเรื่อง ที่เป็นคนละสไตล์จนรู้สึกโดด
-
คุณภาพด้านการแสดง
8.5
-
คุณภาพโปรดักชัน
7.5
-
คุณภาพของบท
7.0
-
คุณภาพของความบันเทิง
7.5
-
ความคุ้มเวลาในการชม
8.0
Ultraman เป็นภาพยนตร์ซีรีส์ประเภทเทคนิคพิเศษ (โทคุซัตสึ) ที่พวกเราต่างคุ้นเคยกันดี แม้ว่าซีรีส์ยักษ์แห่งแสงผู้นี้ จะมีอายุร่วม 50 กว่าปีเข้าไปแล้ว แต่ผู้สร้างอย่างบริษัท Tsuburaya Productions ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสร้างง่าย ๆ และขยันเสิร์ฟโปรเจกต์ใหม่มาเซอร์ไพรส์แฟนบอยอุลตร้าแมนทั่วโลกอยู่เสมอ ซึ่ง Shin Ultraman ก็เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ ‘Go Beyond Tsuburaya’ ที่พวกเขาหมายมั่นตั้งใจว่าจะพายักษ์แห่งแสงโลดแล่นไปไกลทั่วโลก
ฮิเดอากิ อันโนะ (Hideaki Anno) ผู้กำกับที่รักอุลตร้าแมนอย่างสุดหัวใจ ชายผู้สร้างปรากฏการณ์หนังตระกูล ‘Shin’ อย่าง Shin Evangelion และ Shin Godzilla ออกมา จนมีสตูดิโอหนังตามจีบให้มากุมบังเหียนแฟรนไชส์ชื่อดังมากมาย เพราะใคร ๆ ต่างก็อยากจะให้แฟรนไชส์หนังของตัวเองได้รับการปัดฝุ่นใหม่ในชื่อของ ‘Shin Project’ กันทั้งนั้น
หนึ่งในโปรเจกต์ที่อันโนะได้รับมอบหมายมา ก็คือภาพยนตร์ที่เขาอยากทำมาตลอดชีวิตอย่าง Ultraman นั่นเอง ซึ่งอันโนะก็รับเอาโปรเจกต์นี้ไปพัฒนาเป็นบทจนแล้วเสร็จในปี 2019 หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเขียนบท อันโนะก็ได้ส่งไม้ต่อการกำกับภาพยนตร์อุลตร้าแมนของเขา ให้กับ ชินจิ ฮิกุจิ (Shinji Higuchi) เนื่องจากเจ้าตัวติดภารกิจจากหนังเรื่องอื่น และฮิกุจิก็เป็นผู้กำกับที่ช่วยอันโนะสร้าง Shin Godzilla ออกมา ดังนั้นแล้วฮิกุจิจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งเดียวที่จะถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของอันโนะออกมาได้ดีที่สุด
Shin Ultraman เป็นการนำซีรีส์อุลตร้า Ultraman ฉบับปี 1966 มาสร้างในรูปแบบการตีความใหม่ (รีบูต) โดยครั้งนี้เป็นการปรับเนื้อหาดั้งเดิมของ Ultraman ให้มีความร่วมสมัยและซื่อตรงต่อเจตจำนงของผู้ออกแบบให้มากขึ้น
เรื่องราวของ Shin Ultraman เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ญี่ปุ่นโดนสัตว์ประหลาดยักษ์ไคจู เข้าโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงจัดตั้งทีมพิเศษที่เป็นหัวกะทิจากองค์กรต่าง ๆ มารวมกัน โดยใช้ชื่อทีมว่า SSSP (S-Class Species Suppression Protocol) หรือ ‘หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามไคจู’ ซึ่งทีมนี้จะเป็นด่านหน้าในการรับมือไคจูที่ขึ้นตรงกับรัฐบาล
วันหนึ่งในขณะที่มีไคจูออกอาละวาด อยู่ ๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวยักษ์สีเงินลงมาจากท้องฟ้า และจัดการไคจูตัวนั้นลง เหตุการณ์นี้ได้สร้างปรากฏการณ์ความโด่งดังไปทั่วโลก ในที่สุดมนุษย์ต่างดาวจนนั้นก็ถูกเรียกว่า ‘อุลตร้าแมน’
ทว่าหลังจากนั้น หน่วย SSSP ก็พบว่าสมาชิกของพวกเขา เจ้าหน้าที่ คามินากะ ชินจิ ได้ทำตัวแปลกไป หน่วย SSSP จึงต้องออกสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับชินจิกันแน่ ในขณะเดียวกันก็ต้องสืบหาเป้าหมายการมาที่โลกของอุลตร้าแมนไปพร้อมกันด้วย
Shin Ultraman เป็นหนังที่ตอบโจทย์แฟนเดนตายหนังไคจูเป็นอย่างมาก เพราะหนังเรื่องนี้ไม่มีกั๊กสัตว์ประหลาดหรืออุลตร้าแมนเลย ใส่ฉากแอ็กชันให้ดูกันยับ ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ แถมบทมนุษย์ในเรื่องก็ยังเขียนขึ้นมาอย่างลงตัว ไม่เป็นไม้ประดับเหมือนหนังสัตว์ประหลาดเรื่องอื่น โดยตัวพระเอกเอง ก็ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวจนเกินไป ทำให้สมาชิกของหน่วย SSSP แต่ละคนได้ปล่อยของอย่างเต็มที่ จนเราเผลอหลงรักทีมนี้ไปโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะ
สำหรับเนื้อหา ถือว่าคงคอนเซ็ปต์การเป็นภาพยนตร์ตระกูล Shin อยู่ครบถ้วน ซึ่ง Shin Ultraman นั้นถูกเขียนบทโดยฮิเดอากิ อันโนะ ทำให้หนังเรื่องนี้มีกลิ่นอายที่คล้ายคลึงกับ Shin Godzilla อยู่เช่นกัน ทั้งการเป็นภาพยนตร์ไคจูและเกมการเมือง ผสมการขับเคลื่อนเนื้อเรื่องที่ตัวละครพ่นบทพูดใส่กันทุกครึ่งนาที มันจึงเป็นรสชาติเฉพาะตัวที่ชวนให้คิดถึง Shin Godzilla เอามาก ๆ
แม้จะมีกลิ่นอายที่คล้ายกัน แต่โทนหนังของ Shin Ultraman นั้นมีความเบาบางกว่า แถมอุดมไปด้วยมุกตลก ซึ่งแตกต่างจาก Shin Godzilla ที่จริงจังและเน้นหนักในพาร์ตการเมือง ทำให้หนังเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้ชมหน้าใหม่เอามาก ๆ
ถึงแม้จะมีความเป็นมิตรและเข้าถึงง่ายตามแบบฉบับหนังฮีโร แต่ Shin Ultraman ก็ไม่ใช่หนังที่เหมาะกับทุกคนขนาดนั้น เพราะด้วยสไตล์ของอันโนะที่หนังอุดมไปด้วยใส่สัญญะ Shin Ultraman จึงมีความเป็นกึ่งหนังอาร์ตที่ต้องใช้การตีความอยู่พอสมควร
สำหรับผู้ที่ไม่เคยดูอุลตร้าแมนมาก่อน ก็สามารถรับชม Shin Ultraman ได้เลย เพราะอุลตร้าแมนฉบับนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอุลตร้าแมนภาคอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกจักรวาลหนึ่งก็ว่าได้ โดยเรื่องนี้อ้างอิงเนื้อหาจากซีรีส์ Ultraman ฉบับปี 1966 ซึ่งอันโนะก็ได้หยิบคอนเซ็ปต์ของตอนเก่า ๆ มาปรับโฉมและร้อยเรียงใหม่เป็นเนื้อหาของ Shin Ultraman
จุดสังเกตอยู่ตรงที่ Shin Ultraman นำตอนเด่น ๆ ของ Ultraman ฉบับซีรีส์มาร้อยเรียงให้เป็นหนังเรื่องใหม่ ไดนามิกของเนื้อเรื่องจึงค่อนข้างแปลกเอามาก ๆ หนังเรื่องนี้มีหลายเหตุการณ์ต่อกันจนมีความเป็นมินิซีรีส์ขนาดย่อม ๆ มากกว่าจะเป็นหนังฉายโรง และทำให้การลำดับของเรื่องราวนั้นค่อนข้างมีปัญหาจนทำให้ไคลแมกซ์ที่ควรจะพีกกลับแผ่วลงไปอย่างน่าเสียดาย
โดยรวมแล้ว Shin Ultraman คือจดหมายรักถึงอุลตร้าแมนจาก ฮิเดอากิ อันโนะ กับ ชินจิ ฮิกูจิ สำหรับแฟนไคจูมันเป็นหนังที่ตอบโจทย์ในแง่ของความบันเทิง มีสัตว์ประหลาดอาละวาดตลอดทั้งเรื่อง แต่ด้วยความที่ผู้กำกับและคนเขียนบทนั้นหนักมือไปหน่อย ทำให้การเกลี่ยบทของ Shin Ultraman ค่อนข้างจะมีปัญหาและทำให้ไคลแมกซ์ดูเบาบางอย่างชัดเจน แม้ว่าผู้เขียนจะชอบเรื่องนี้เอามาก ๆ แต่ก็ออกไปในทางเสียดายมากกว่า เพราะถ้าหนังบาลานซ์บทได้ดีกว่านี้ มันจะออกมากลมกล่อมเลยล่ะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส