ก่อนที่ เจมส์ แคเมรอน (James Cameron) จะกลายเป็นราชาแห่งโลกภาพยนตร์ ในช่วงเริ่มต้นของอาชีพ เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ออกแสวงหาความฝัน ว่าสักวันหนึ่งจะได้สร้างหนังของตัวเอง

ชีวิตของแคเมรอนไม่ได้ง่ายอย่างที่ฝัน เขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองได้เรียนรู้ในวิชาภาพยนตร์ เขาหมั่นอ่านและฝึกฝนอยู่เสมอ จนในที่สุดความพยายามก็ผลิดอกออกผลส่งให้เขากลายเป็นผู้กำกับระดับพระกาฬของฮอลลีวูด
แต่แม้จะเก่งกาจเพียงใด แคเมรอนก็ยังไม่หยุดเรียนรู้ หมั่นสร้างผลงานใหม่เพื่อท้าทายขีดจำกัดของตน ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์อยู่เสมอ ทั้งดำน้ำไปดูเศษซากเรืออาร์เอ็มเอส ไททานิก เพื่อจะเอาข้อมูลมาสร้างภาพยนตร์ Titanic หรือจะดิ่งลงไปสู่จุดมืดมิดนับหมื่นเมตรใต้น้ำเพื่อสร้าง Avatar และความพยายามทลายขีดจำกัดของแคเมรอน ก็ทำให้หนังของเขาทะยานไปสู่บ็อกซ์ออฟฟิศจนส่งให้ชื่อของเขาถูกจารึกไว้ในฐานะราชาหนังทำเงินในที่สุด

แต่ทว่านอกจากแฟรนไชส์ที่กล่าวมาข้างต้น แคเมรอนก็ยังเป็นบิดาผู้สร้างผลงานไซไฟที่ตราตรึงใจคนทั่วโลกอย่างคนเหล็ก The Terminator ออกมา มันได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ อันกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของมหากาพย์เรื่องราวที่จะถูกเล่าขานไปอีกหลายสิบปี
The Terminator เป็นภาพยนตร์แอ็กชัน-ไซไฟ ที่สร้างในปี ค.ศ. 1984 โดยเล่าถึงหุ่นยนต์นักฆ่าที่ย้อนเวลามาจากอนาคตปี 2029 เพื่อมาสังหารหญิงสาวชื่อซาราห์ คอนเนอร์

โดยแคเมรอนได้ไอเดียของ The Terminator มาในช่วงที่เขาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Piranha II: The Spawning (1982) ในกรุงโรม ซึ่งสภาพอากาศตอนนั้นนับว่าเลวร้ายสุด ๆ และกองถ่ายก็มีแต่ความเครียดจนทำให้เขาล้มป่วย
วันหนึ่งแคเมรอนนอนซมเพราะพิษไข้ ทำให้เขาฝันเห็นหุ่นยนต์จากโลกอนาคตมาตามไล่ล่า จนทำให้เขาสะดุ้งตื่นเพราะความกลัว แต่แทนที่เขาจะลืม ๆ มันไป แคเมรอนกลับจดความฝันนั้นไว้ และนำมันไปพัฒนาเป็นบทภาพยนตร์เรื่อง The Terminator ขึ้นมา

ย้อนกลับไปตอนที่ทำหนัง Piranha II: The Spawning ช่วงนั้นแคเมรอนเป็นเพียงผู้กำกับโนเนมที่ต้องมากำกับหนังเรื่องนี้ เพราะผู้กำกับคนเดิมดันทะเลาะกับโปรดิวเซอร์จนทำให้ถูกไล่ออก และตอนนั้นแคเมรอนที่เป็นผู้กำกับเทคนิคพิเศษของหนัง จึงต้องจำใจรับกำกับหนังเรื่องนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ และแม้ว่า Piranha II: The Spawning จะเข้าฉาย แต่ชื่อของแคเมรอนก็ยังนับว่าโนเนมในสายงานกำกับอยู่ดี
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แคเมรอนก็ได้พัฒนาบทภาพยนตร์เรื่อง The Terminator ออกมา และเขาก็ได้นำบทหนังเรื่องนี้ไปขอทุนกับสตูดิโอต่าง ๆ เพื่อหวังว่าจะสร้างมันออกมาเป็นหนังจริงให้ได้
หลังจากที่สตูดิโอต่าง ๆ ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน พวกเขาต่างพบว่า The Terminator เป็นบทหนังที่มีไอเดียดี และสามารถนำไปต่อยอดได้แน่นอน แต่ติดที่ว่าชื่อของแคเมรอนยังนับว่าใหม่สำหรับวงการภาพยนตร์และแทบไม่มีเครดิตงานกำกับ ทำให้ไม่มีสตูดิโอใดกล้าเสี่ยงให้ผู้กำกับหน้าใหม่ ได้กำกับหนังที่บททะเยอทะยานขนาดนี้

ถึงแม้ว่าแคเมรอนจะได้รับข้อเสนอมากมายจากสตูดิโอต่าง ๆ ที่ทำให้เขาสามารถรับเงินเป็นกอบเป็นกำจากขายบท The Terminator ได้ แต่เขาก็ไม่คิดขายให้สตูดิโอใดเลย นั่นเพราะสตูดิโอเหล่านั้น อยากที่จะซื้อบทเขาและให้คนอื่นมากำกับแทน ซึ่งแคเมรอนต้องการกำกับ The Terminator ด้วยตัวเองเท่านั้น นั่นจึงทำให้เขาปฏิเสธเม็ดเงินจากสตูดิโอยักษ์ใหญ่ทั้งหมด
เหตุที่แคเมรอนกล้าปฏิเสธเม็ดเงินจากสตูดิโอยักษ์ใหญ่ เป็นเพราะไอเดีย The Terminator มาจากความฝันของเขา และการพัฒนาบทมาอย่างยาวนานก็ทำให้เขาก็ผูกพันกับมันมาก บท The Terminator จึงเปรียบเหมือนลูกในไส้ของเขา ที่จะไม่ยอมให้ใครทำมันให้แปดเปื้อนโดยเด็ดขาด
หลังจากหาสตูดิโออยู่นาน ในที่สุดแคเมรอนก็ได้ข้อเสนอที่ตรงใจกับ Pacific Western Productions โดยมีเงื่อนไขว่าสตูดิโอจะให้ทุนสร้าง และแคเมรอนเป็นผู้กำกับ แคเมรอนจึงยอมขายบท The Terminator ไปในราคาเพียง 1 เหรียญเพื่อให้ตนได้กำกับ The Terminator สมใจ
หลังจาก The Terminator เข้าฉาย หนังก็ประสบความสำเร็จบนบ๊อกซ์ออฟฟิศ ทำรายได้กว่า 78 ล้านเหรียญทั่วโลก ส่งให้ชื่อของเจมส์ แคเมรอน กลายเป็นที่รู้จัก และ The Terminator ก็กลายเป็นหนังที่มีภาคต่อตามมาอีกหลายภาค

แต่แม้ว่ามันจะเป็นข้อเสนอที่คุ้มค่า แคเมรอนก็เคยกล่าวว่า
“ถ้าผมมีไทม์แมชชีน และสามารถส่งข้อความถึงตัวเองในอดีตได้ ผมจะบอกตัวเองว่าอย่าขายมัน”
นั่นเพราะหลังจากนั้น แคเมรอนต้องรอถึงปี 2019 กว่าลิขสิทธิ์ของ The Terminator จะกลับมาอยู่ในมือเขา

The Terminator กลายเป็นตัวจุดประกายให้แคเมรอนก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับแถวหน้าของวงการ สร้างชื่อเสียงให้ลินดา แฮมิลตัน (Linda Hamilton) และ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) ให้กลายเป็นนักแสดงชั้นแนวหน้า ซึ่งแคเมรอนก็ได้รับโอกาสมากมาย ทั้งการกำกับ Aliens, Titanic และ Avatar ก็มาจากการที่เขาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะกำกับ The Terminator ด้วยตัวเองนี่แหละ
ที่มา screenrant, businessinsider, giantfreakinrobot, wikipedia
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส