เป็นข่าวเศร้าสำหรับชาวร็อกและแฟนเพลงทั่วโลกเมื่อ ‘เจฟฟ์ เบ็ค’ (Jeff Beck) มือกีตาร์ฝีมือขั้นเทพระดับตำนานเจ้าของฉายา ‘กีตาร์พูดได้’ ได้จากไปอย่างสงบในวัย 78 ปีด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรีย
‘เจฟฟ์ เบ็ค’ หรือ เจฟฟรีย์ อาร์โนลด์ เบ็ค (Geoffrey Arnold Beck) เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 1944 ในยุคที่โลกกำลังวุ่นวายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เบ็คเป็นที่รู้จักในฐานะมือกีตาร์ร็อกชาวอังกฤษที่โด่งดังจากวง ‘The Yardbirds’ และหลังจากนั้นก็ได้เป็นหัวหน้าวง ‘Jeff Beck Group’, ‘Bogert & Appice’ และ ‘Beck’ ในปี 1975 เบ็คได้ค้นพบแนวทางใหม่ในการทำเพลงด้วยการเปลี่ยนไปใช้สไตล์การบรรเลงเป็นหลัก เน้นการสร้างสุ้มเสียงที่แปลกใหม่ แนวเพลงของเขาที่ปล่อยออกมามีตั้งแต่บลูส์ร็อก ฮาร์ดร็อก แจ๊สฟิวชัน และการผสมผสานระหว่างกีตาร์ร็อกและอิเล็กทรอนิกา
เบ็คถูกจัดอันดับให้อยู่ใน 5 อันดับแรกของนิตยสารโรลลิงสโตนและติดลิสต์รายชื่อ 100 มือกีตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนิตยสารอื่น ๆ มากมาย โรลลิงสโตนได้กล่าวว่าเบ็คเป็น “มือกีตาร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงร็อก” และมักถูกเรียกขานว่าเป็น ‘มือกีตาร์ของมือกีตาร์’ เบ็คได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางและได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ดสาขาการแสดงดนตรีร็อกยอดเยี่ยม (Best Rock Instrumental Performance) 6 ครั้ง และการแสดงดนตรีป็อปยอดเยี่ยม (Best Pop Instrumental Performance) 1 ครั้ง ในปี 2014 เขาได้รับรางวัล Ivor Novello Award จาก British Academy สาขาผลงานดนตรีโดดเด่นสำหรับวงการดนตรีอังกฤษ นอกจากนี้ยังได้รับการแต่งตั้งให้เข้าสู่ Rock and Roll Hall of Fame ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในฐานะสมาชิกวง The Yardbirds (1992) และครั้งต่อมาในฐานะศิลปินเดี่ยว (2009)
เบ็คได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 4 สุดยอดกีตาร์เทพระดับตำนานแห่งวงการดนตรีร็อก ซึ่งประกอบไปด้วย จิมมี่ เฮนดริกซ์ (Jimi Hendrix), อีริก แคลปตัน (Eric Clapton), จิมมี่ เพจ (Jimmy Page) และ เจฟฟ์ เบ็ค ด้วยสำเนียงกีตาร์และลีลาการโซโลที่เร้าใจจึงทำให้สุ้มเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาได้รับการขนานนามว่า ‘กีตาร์พูดได้’ อันมีที่มาจากการที่เบ็คเลิกใช้ปิ๊กกีตาร์มาตั้งแต่ช่วงปี 1980 และได้สร้างสุ้มเสียงที่หลากหลายโดยใช้นิ้วหัวแม่มือดึงสาย ใช้นิ้วนางกดที่ปุ่มปรับระดับเสียง และนิ้วก้อยกดที่แกนสั่นสายบนกีตาร์ Fender Stratocaster อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ด้วยการดึงสายแล้ว ‘เฟดอิน’ เสียงด้วยปุ่มปรับระดับเสียง นอกจากนี้เบ็คมักจะใช้แป้นเหยียบเอฟเฟกต์กีตาร์ Wah Wah ทั้งในการแสดงสดและในสตูดิโอ เบ็คได้สร้างเสียงที่ไม่เหมือนใครซึ่งคล้ายกับเสียงของมนุษย์ จน อีริก แคลปตัน เคยกล่าวไว้ว่า “สำหรับเจฟฟ์ทุกอย่างอยู่ในมือของเขา” และนี่จึงเป็นที่มาของตำนาน ‘กีตาร์พูดได้’ ‘เจฟฟ์ เบ็ค’ ชายผู้ที่จะเป็นตำนานแห่งวงการดนตรีโลกตลอดไป.
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส