จบลงไปแล้วอย่างสวยงาม (และไร้เหตุไม่คาดฝัน) สำหรับงานประกาศรางวัลออสการ์ (Oscars) ครั้งที่ 95 ประจำปี 2023 ที่จัดขึ้นโดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences: AMPAS) ที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือเวลาประมาณเช้าตรู่ 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ โรงภาพยนตร์ดอลบี เธียร์เตอร์ (Dolby Theatre) ฮอลลีวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ปีนี้ได้ จิมมี คิมเมล (Jimmy Kimmel) พิธีกรชื่อดัง รับหน้าที่ดำเนินรายการแบบเดี่ยวอีกครั้ง แทนที่ คริส ร็อก (Chris Rock) พิธีกรของงานในปีที่แล้ว ที่ปฏิเสธการรับหน้าที่พิธีกรในปีนี้อีกครั้ง และในปีนี้ สถาบัน AMPAS ยังได้เพิ่มทีมรับมือวิกฤติฉุกเฉินเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพื่อรับมือกับเหตุไม่คาดฝันแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
โดยคิมเมลเป็นผู้ดำเนินรายการมาแล้ว 3 ครั้ง หลังจากที่เคยเป็นมาแล้วเมื่อปี 2018 เทียบเท่ากับผู้ดำเนินรายการบนเวทีออสการ์ 5 คน ได้แก่ บ็อบ โฮป (Bob Hope), บิลลี คริสตัล (Billy Crystal), จอห์นนี คาร์สัน (Johnny Carson) และวูปี โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg)
ไฮไลต์บนเวทีการแสดงในปีนี้นั่นก็คือ การขึ้นแสดงบนเวทีของศิลปินผู้มีชื่อเข้าชิงในสาขาเพลงประกอบดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Song) ครบทั้ง 5 เพลง ได้แก่ ริฮานนา (Rihanna) ที่ขึ้นแสดงในเพลง “Lift Me Up” เพลงประกอบภาพยนตร์ ‘Black Panther: Wakanda Forever’ โซเฟีย คาร์สัน (Sofia Carson) และ ไดแอน วอร์เรน (Diane Warren) ขึ้นแสดงในเพลง “Applause” เพลงประกอบภาพยนตร์ ‘Tell It like a Woman’ เดวิด เบิร์น (David Byrne) สเตฟานี ชู (Stephanie Hsu) และ ซัน ลักซ์ (Son Lux) ขึ้นแสดงเพลง “This Is a Life” เพลงประกอบภาพยนตร์ ‘Everything Everywhere All at Once’
รวมทั้ง เลดีกาก้า (Lady Gaga) ที่มีการยืนยันว่าจะขึ้นแสดง “Hold My Hand” เพลงประกอบภาพยนตร์ ‘Top Gun: Maverick’ อย่างแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าไม่สามารถขึ้นแสดงได้เนื่องจากยังติดตารางการถ่ายทำ ‘Joker: Folie à Deux’ และที่เป็นไฮไลต์สำคัญในงานก็คือ ราหุล ซิปลีกันจ์ (Rahul Sipligun)j และ การา ภัยราวา (Kaala Bhairava) ที่จะขึ้นแสดงเพลง “Naatu Naatu” เพลงประกอบภาพยนตร์ภาษาเตลูกูจากหนังเรื่อง ‘RRR’ เป็นเพลงจากอินเดียเพลงแรกที่ได้เข้าชิงรางวัลนี้
เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีของซือเจ๊และค่าย A24 จริง ๆ สำหรับภาพยนตร์ ‘Everything Everywhere All at Once’ ที่ในปีนี้ทำสถิติเข้าชิงรางวัลมากที่สุดถึง 11 สาขา และสามารถคว้ารางวัลมาได้ถึง 7 สาขา มากที่สุดในงานครั้งนี้ ทั้ง มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแสดงหญิงเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress) มาวินแบบไม่พลิกโผ
รวมทั้ง คีฮุยควน (Ke Huy Quan) ชนะรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor) และ เจมี ลี เคอร์ติส (Jamie Lee Curtis) คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress) รวมทั้งรางวัล ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing) และ ไชเนิร์ต แดเนียล (Scheinert Daniel) และ แดเนียล กวาน (Daniel Kwan) หรือ ‘Daniels’ ที่คว้ารางวัล ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director) และ บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay) ไปครอง
อีกรางวัลที่ไม่พลิกโผมากนักก็คือ เบรนแดน เฟรเซอร์ (Brendan Fraser) ขวัญใจฮอลลีวูด กับการคว้ารางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor) บนเวทีออสการ์เป็นครั้งแรกในชีวิตมาครองได้สำเร็จตามคาด หลังจากที่คว้ารางวัลจาก Critics’ Choice Movie Awards และ SAG Awards มาแล้วก่อนหน้านี้ จากการรับบทชายอ้วนน้ำหนัก 600 ปอนด์ จากหนัง ‘The Whale’
หนังต่อต้านสงครามฟอร์มยักษ์สัญชาติเยอรมนี ‘All Quiet on the Western Front’ ของ Netflix สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้า 4 รางวัลในครั้งนี้ ทั้ง ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม (Best Production Design), ถ่ายภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography), ดนตรีประกอบดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Score) และรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best International Feature Film) ไปได้ในที่สุด หลังจากที่ ‘Roma’ (2018) เคยเป็นหนัง Netflix เรื่องแรกที่คว้ารางวัลในสาขานี้มาแล้ว
แม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม แต่ “Naatu Naatu” เพลงประกอบหนังแอ็กชันอินเดียสุดมันภาษาเตลูกูอย่าง ‘RRR’ ก็ได้ประกาศศักดา ชนะรางวัลเพลงประกอบดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Song) ไปครอง หลังจากที่คว้ารางวัลรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลลูกโลกทองคำมาแล้ว และเป็นรางวัลเดียวกับที่ ‘Slumdog Millionaire’ (2009) เคยคว้ารางวัลนี้มาครองได้เช่นกัน
อีกรางวัลของ Netflix ที่คว้ารางวัลออสการ์ในปีนี้คือ รางวัลแอนิเมชันยอดเยี่ยม (Best Animated Feature Film) จาก ‘Guillermo del Toro’s Pinocchio’ นับเป็นครั้งแรกของ Netflix ที่สามารถคว้ารางวัลในสาขานี้ได้ รวมทั้ง กีเยร์โม เดล โตโร (Guillermo del Toro) ยังเป็นชาวลาตินคนแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม (จาก ‘The Shape of Water’, 2018) และสาขาแอนิเมชันยอดเยี่ยม
ฟากฝั่งของหนังบล็อกบัสเตอร์ในปีนี้ แม้จะยังคว้า 5 รางวัลใหญ่ (Big Five) ไม่ได้ แต่ก็เก็บไปได้เรื่องละรางวัล ทั้ง ‘Avatar: The Way of Water’ ที่ชนะรางวัลเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Best Visual Effects), ‘Top Gun: Maverick’ ชนะรางวัลออกแบบเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound) และ ‘Black Panther: Wakanda Forever’ ชนะรางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
รายชื่อผู้ได้รับรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 95 ประจำปี 2023
• รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
‘Everything Everywhere All at Once’
• รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)
ไชเนิร์ต แดเนียล (Scheinert Daniel) และ แดเนียล กวาน (Daniel Kwan)
(Everything Everywhere All at Once)
• รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor)
เบรนเดน เฟรเซอร์ (Brendan Fraser)
(The Whale)
• รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress)
มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh)
(Everything Everywhere All at Once)
• รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
‘Everything Everywhere All at Once’
• รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
‘Women Talking’
• รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor)
คีฮุยควน (Ke Huy Quan)
(Everything Everywhere All at Once)
• รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress)
เจมี ลี เคอร์ติส
(Everything Everywhere All at Once)
• รางวัลเพลงประกอบดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Song)
“Naatu Naatu” (RRR)
• รางวัลแอนิเมชันยอดเยี่ยม (Best Animated Feature Film)
‘Guillermo del Toro’s Pinocchio’
• รางวัลดนตรีประกอบดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Score)
‘All Quiet on the Western Front’
• รางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
‘Black Panther: Wakanda Forever’
• รางวัลตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
‘Everything Everywhere All at Once’
• รางวัลออกแบบเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound)
‘Top Gun: Maverick’
• รางวัลแต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม (Best Makeup and Hairstyling)
‘The Whale’
• รางวัลภาพยนตร์ขนาดสั้นยอดเยี่ยม (Best Live Action Short Film)
‘An Irish Goodbye’
• รางวัลแอนิเมชันขนาดสั้นยอดเยี่ยม (Best Animated Short Film)
‘The Boy, the Mole, the Fox and the Horse’
• รางวัลเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Best Visual Effects)
‘Avatar: The Way of Water’
• รางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
‘All Quiet on the Western Front’
• รางวัลออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม (Best Production Design)
‘All Quiet on the Western Front’
• รางวัลสารคดีขนาดสั้นยอดเยี่ยม (Best Documentary Short Subject)
‘The Elephant Whisperers’
• รางวัลสารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary Feature)
‘Navalny’
• รางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best International Feature Film)
‘All Quiet on the Western Front’ (เยอรมนี)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส