จัดว่าเป็นงานของ ทิม เบอร์ตัน ฝั่งที่เอาใจตลาดแบบชัดเจน และงานนิยายเยาวชนต้นฉบับเรื่องนี้ของ แรนซัม ริกส์ ก็ช่างเหมาะเจาะกับสไตล์งานประหลาด ๆ ของทิม เบอร์ตัน เสียเหลือเกิน ไม่มีใครเหมาะจะมากำกับมากกว่าเขาแล้ว และนับว่าเป็นการดัดแปลงนิยายมาเป็นหนังได้เร็วมาก เพราะหนังสือเพิ่งออกเมื่อปี 2012 นี่เอง ตัวนิยายได้รับความนิยมอย่างสูง อยู่ในรายชื่อนิยายเยาวชนของ นิวยอร์ค ไทม์ เบสต์ เซลเลอร์ กว่า 70 สัปดาห์ ใช้เวลา 45 สัปดาห์ในการไต่เต้าสู่อันดับ 1 ด้วยความสำเร็จทำให้ แรนซัม ออกภาคต่อมาอีก 2 เล่ม เล่ม 2 ชื่อ Hollow City ออกเมื่อ มกราคม 2014 และเล่ม 3 Library of Souls ออกเมื่อ กันยายน 2015 ในไทยมีเวอร์ชั่นภาษาไทยในชื่อ “บ้านหลอน เด็กประหลาด”
เจค เด็กหนุ่มวัย 16 มีความผูกพันกับเอ๊บคุณปู่ของเขามาก เพราะปู่เล่านิทานและส่งเขาเข้านอนเมื่อสมัยยังเด็ก นิทานของคุณปู่เอ๊บเป็นเรื่องของตัวปู่เองกับบ้านเด็กประหลาดบนเกาะห่างไกลในเวลล์เมื่อปี 1943 ที่นั่นปู่มีเพื่อน ๆ ที่เป็นเด็กมีความสามารถพิเศษมากมาย บ้านนี้มีผู้ดูแลชื่อมิสเพเรกริน ซึ่งเธอแปลงร่างเป็นนกได้ แล้วค่ำวันหนึ่งเอ๊บก็โดนฆ่าตาย เจคมาทันพบสภาพปู่ที่ไม่มีดวงตา ได้เห็นอสุรกายที่ฆ่าปู่อยู่แวบหนึ่งก่อนหายไป เจคไปหามิสเพเรกรินและบ้านเด็กประหลาดตามคำสั่งเสียของปู่ ที่นี่เขาได้ร่วมผจญภัยกับเหล่าเพื่อน ๆ และได้พบความลับมากมายของโลกที่แอบซ่อนอยู่ของเหล่าเด็กประหลาด ที่นี่ทำให้เจครู้สึกผูกพันกับเพื่อนใหม่เหล่านี้ และเมื่อพบว่าพวกเขาตกอยู่ในอันตรายเจคจึงตัดสินใจเข้าปกป้องบ้านเด็กประหลาด
จากนิยายต้นฉบับถูกดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์โดย เจน โกลด์แมน ดูเครดิตแล้วช่างเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากเพราะเธอผ่านงานนิยายเยาวชนอย่าง Stardust (2007) หนังแอ็คชั่นเด็ก ๆ อย่าง Kick-Ass (2010) และซูเปอร์ฮีโร่กลายพันธุ์ X-Men อีก 2 ภาค ซึ่งมีพล็อตเริ่มต้นที่พูดถึงเหล่าเด็กความสามารถพิเศษในโรงเรียนเหมือนกัน พอเจนมาจับ Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children ก็เลยน่าจะคุ้นเคยกับงานที่มีเนื้อหาแนวนี้อยู่แล้ว เจน ยังปรับเปลี่ยนความสามารถตัวละครให้เอ็มม่า นางเอกของเรื่องกลายเป็นสาวน้อยตัวเบาควบคุมลมได้ จากเดิมในนิยายเจนเป็นสาวผู้ควบคุมไฟ พอมาเป็นหนังทำให้เอ็มม่า ได้ใช้ความสามารถของเธอในฉากสำคัญ ๆ ของเรื่องได้ และเพิ่มตัวละคร บารอน ลงไป ซึ่งทำให้หนังมีรสชาติมากขึ้น เพราะได้ ซามูเอล แอล. แจ๊คสัน (อีกแล้ว) มาสวมบทตัวร้ายสุดของเรื่อง และเป็นตัวร้ายที่ร้ายกาจแต่มีอารมณ์ขันและกวนเสียด้วย
หนังยาวถึง 2 ชั่วโมง 7 นาที ครึ่งแรกออกจะดูช้าไปนิด ตามสไตล์หนังภาคแรกที่ต้องปูทางให้เรารู้จักกับการมีอยู่ของสังคมเด็กประหลาด ที่เป็นอีกสังคมหนึ่งซ้อนอยู่กับโลกของเรา คล้าย ๆ กับโลกแม่มดของ แฮรี่ พอตเตอร์นั่นแหละ และมีบ้านเด็กประหลาดแบบนี้อยู่หลายแห่งในโลก แต่ละแห่งก็จะมีผู้ดูแลอย่างมิสเพเรกริน ผู้ดูแลแต่ละคนต่างก็มีพลังพิเศษในการควบคุมกาลเวลาและสามารถแปลงร่างเป็นนกได้ ช่วงนี้สนุกกับการได้ทำความรู้จักกับเหล่าเด็กประหลาดที่แต่ละคนก็มีความสามารถแปลก ๆ กันไป แต่ตรงนี้ค่อย ๆ ทำความเข้าใจกันไปนะขณะดู โดยเฉพาะเรื่องวังวนเวลา ระวังจะงง พอเริ่มรู้สึกว่าหนังเริ่มช้าแล้ว หนังก็พาเราเข้าสู่โหมดแอ็คชั่นพอดี ด้วยการมาถึงของเหล่าตัวร้ายที่พวกเด็กเรียกว่า “พวกตาขาว” เพราะมีดวงตาสีขาวน่ากลัว บุกมาตามฆ่าเหล่าเด็กประหลาด ฉากไคลแมกซ์สนุกมากเหมือนได้ดู X-Men เวอร์ชั่นเด็กน้อยสดใส ได้เห็นเด็ก ๆ ใช้พลังพิเศษต่อสู้กับเหล่าอสรุกาย บทหนังเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนได้มีซีนเท่ ๆ ของตัวเอง และบรรดาเด็ก ๆ ต่างก็เล่นกันได้น่ารักมาก ส่วนเหล่าอสุรกายแต่ละตัวต่างก็มีพลังพิเศษเช่นกัน หนังเดินหน้าไปแบบสนุกน่าติดตาม เพราะเปิดเรื่องด้วยปริศนามากมาย ว่าปู่เอ๊บไปเกี่ยวข้องกับโลกของเด็กประหลาดได้อย่างไร พวกตาขาวเป็นใครและต้องการอะไรจากเหล่าเด็กประหลาด แล้วเจคละจะมีพลังพิเศษด้วยไหม อสุรกายมาจากไหนกินเด็กทำไม ชอบที่บทหนังเก็บพลังพิเศษของเด็กแฝดไว้ แล้วไปโชว์เป็นเซอร์ไพรส์ตอนท้ายเรื่อง
อารมณ์ภาพยังคงออกมามีหมอกฟุ้ง ๆ สีทึม ๆ ที่ดูเป็นเอกลักษณ์ของทิม เบอร์ตัน และด้วยชื่อเสียงระดับทิม เบอร์ตัน พอทำผลงานออกมาที ก็เลยมีดารามาร่วมงานเพียบ ตั้งแต่รุ่นเล็กอย่าง อาชา บัตเตอร์ฟิลด์ อีก 1 ดาราเด็กที่เราได้เห็นกันมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กน้อยใน Hugo (2011) มาเป็นเด็กโตหน่อยใน Ender’s Game (2013) แต่พอมาถึงเรื่องนี้ดูน่าตกใจมาก อาชา กลายเป็นเด็กหนุ่มวัย 19 ที่แข้งขาดูยาวมว้ากก แต่เขามารับบทที่เด็กกว่าอายุจริงถึง 3 ปี ต้นปีเราก็ได้เห็น อาชา อีกครั้งในหนังรักวัยรุ่น The Space Between Us ส่วนรุ่นใหญ่นี่มากันเยอะ ตั้งแต่ระดับเดม จูดี เดนช์ ที่กว่าจะปรากฎกายก็ปาไปค่อนเรื่องแล้ว แต่ระดับนี้มานิดมาหน่อยก็ถือว่าเป็นเกียรติแล้ว ซามูเอล แอล. แจ๊คสัน ปีนี้เห็นหน้าพี่นี่เรื่องที่ 3 แล้วนะ กับบทตัวร้าย บารอน ที่มาในภาพเขี้ยวแหลมขาวเต็มปาก ตาขาวโพลน หวีผมตั้งเสย ที่มองแล้วชวนให้นึกถึง “ลุค” ยมฑูตจาก Death Note จัง อีวา กรีน กลับมาร่วมงานกับ ทิม เบอร์ตัน เป็นครั้งที่ 2 หลังจาก Dark Shadow เมื่อปี 2012 อีวา ในวัย 36 ยังสวยไม่สร่าง แต่ดูหุ่นแล้วน่าจะผอมลงไปกว่าเดิมเยอะมาก
Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children เป็นหนังครอบครัวที่พ่อแม่ลูกจูงมือกันเข้าโรงแล้วสนุกกันได้ทุกเพศทุกวัย ได้ลุ้น ได้คาดเดาปริศนา ได้สนุกกับฉากแอ็คชั่นที่ไม่เด็กน้อยแบบ Alice In Wonderland คุ้มค่าตั๋วและเวลา แต่พ่อแม่อาจจะต้องลำบากหน่อยในการอธิบายเรื่องวันวนเวลาให้เด็กฟัง เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดในสัปดาห์นี้ครับ ขอให้ได้ตังค์นะ อยากดูภาค 2 ภาค 3