ใครที่ได้ชม ‘John Wick: Chapter 4’ ภาคที่ 4 ของภาพยนตร์แฟรนไชส์ จอห์น วิค น่าจะประทับใจกับฉากแอ็กชันแบบเต็มอิ่มจุก ๆ และงานด้านภาพที่ได้รับการชื่นชมว่าถ่ายออกมาได้สวยงามในทุก ๆ โลเคชัน โดยเฉพาะโลเคชันในภูมิประเทศต่าง ๆ ที่ทีมงานต้องเดินทางไปถ่ายทำให้ได้แม้จะยากแค่ไหนก็ตาม
ในตอนต้น ๆ เรื่อง ‘John Wick: Chapter 4’ เราจะได้เห็นนักฆ่าจอมปีศาจฉายา บาบายาก้า ได้เดินทางกลับไปยังสถานที่ที่เราคุ้นตาอีกครั้ง ซึ่งนั่นก็คือดินแดนคาซาบลังกา (Casablanca) ที่ จอห์น วิค กระเสือกกระสนดั้นด้นเดินทางกลางทะเลทราย เพื่อไปร้องขอความช่วยเหลือแก่ผู้อาวุโส (The Elder) ผู้อยู่เหนืออำนาจแห่งสภาสูง (High Table) ทั้งปวง ที่แสดงโดย ซาอิด ตักมาอุย (Saïd Taghmaoui) ใน ‘John Wick: Chapter 3 – Parabellum’ (2019) นั่นเอง
ซึ่งใน ‘John Wick: Chapter 4’ นี้เราก็จะได้เห็น จอห์น วิค กลับไปที่นั่นอีกครั้งเพื่อสะสางอะไรบางอย่างที่เคยติดค้างไว้กับผู้อาวุโส ที่ภาคนี้เปลี่ยนนักแสดงเป็น จอร์จ จอร์จิโอ (George Georgiou) นั่นเอง ซึ่งนอกจากเราจะได้เห็น จอห์น วิค ขี่ม้ายิงปืนอีกครั้งแล้ว เราก็จะได้เห็นภูมิทัศน์อันสวยงามของทะเลทรายแห่งโมร็อกโกอันสวยงามด้วย ซึ่งเบื้องหลังการถ่ายทำก็เรียกได้ว่าไม่ง่าย แต่เบื้องหลังฉากสวย ๆ นี้มีที่มาที่ไม่ธรรมดาทีเดียว
ล่าสุด ทั้งนักแสดงนำอย่าง คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) และผู้กำกับ ‘John Wick’ ทั้ง 4 ภาคอย่าง แชด สตาเฮลสกี (Chad Stahelski) ได้เปิดเผยเกร็ดเบื้องหลังสนุก ๆ ผ่านบทสัมภาษณ์ของเว็บไซต์ BuzzFeed ว่า ฉากเบื้องหลังพระอาทิตย์ขึ้น สาดแสงสีทองบนพื้นทะเลทรายงามตาอย่างที่ได้เห็นกันในหนังนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นได้โดยง่าย เพราะปกติทะเลทรายก็ขึ้นชื่อว่าเป็นโลเคชันสุดทรหด ที่กองถ่ายไหน ๆ ก็ไม่อยากจะถ่ายทำถ้าไม่จำเป็น “เรามักจะพยายามจะเข้าถึงโลเคชัน ที่ปกติมักจะเข้าถึงได้ยากน่ะครับ” สตาเฮลสกีกล่าวเบื้องต้น
และทีมงานก็หาทำด้วยการไปถ่ายทำในทะเลทรายที่ประเทศจอร์แดนจนได้ และคงจะไม่ได้ภาพอันสวยงามขนาดนั้นแน่ ๆ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลจอร์แดน เท่านั้นยังไม่พอ กองถ่ายยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากกษัตริย์ของจอร์แดน (ที่แม้ทั้งคู่ไม่ได้เอ่ยพระนาม แต่คาดว่าน่าจะหมายถึงพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน คือ สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 แห่งจอร์แดน) ที่ทรงอนุญาตให้ทีมงานยืมเฮลิคอปเตอร์ส่วนพระองค์มาใช้ในการถ่ายทำด้วย
สตาเฮลสกีกล่าวต่อว่า “กษัตริย์แห่งจอร์แดน ทรงให้เรายืมเฮลิคอปเตอร์แบบ Black Hawk น่ะครับ พระองค์ทรงใจดีกับเราอย่างมาก ในการให้อนุญาตเรายืมเฮลิคอปเตอร์ เพื่อให้ทีมงานใช้ถ่ายทำช็อตพระอาทิตย์ขึ้น อย่างที่คุณเห็นกันในหนังเลย ส่วนรัฐบาลจอร์แดนก็ให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดีด้วย เป็นอะไรที่อัศจรรย์ใจมาก”
รีฟส์เล่าเสริมต่อจากผู้กำกับว่า “มันเป็นอะไรที่เท่มากเลย ที่พระองค์ทรงให้คุณ (สตาเฮลสกี) ยืมเฮลิคอปเตอร์มาใช้ถ่ายทำด้วย เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นแฟนตัวยงของ จอห์น วิค น่ะครับ “
แม้ว่าจะได้รับสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากแฟนตัวยงผู้ทรงราชย์แห่งจอร์แดน แต่ก็ใช่ว่าทีมงานจะย่อหย่อนกับงบประมาณการสร้าง เพราะอย่างที่ทราบว่า จากความสำเร็จอย่างงดงามใน 3 ภาค ใน ‘John Wick: Chapter 4’ นี้ ก็เลยจัดเต็มด้วยการใช้งบประมาณการถ่ายทำที่มากขึ้นกว่าเดิม ใช้กองถ่ายและทีมงานใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และมีการเปลี่ยนโลเคชันถ่ายทำไปในหลาย ๆ เมืองและหลายทวีป ทั้งลอนดอน จอร์แดน ปารีส เบอร์ลิน และโอซากา จนมีการคาดการณ์ว่าในภาค 4 นี้น่าจะใช้ทุนสร้างเบ็ดเสร็จอยู่ที่ประมาณ 90 – 100 ล้านเหรียญ
ซึ่งแม้ว่าจะเป็นงบประมาณที่ถือว่าสูงไม่น้อย แต่ก็เรียกได้ว่าพอจะมองเห็นโอกาสในการทำกำไรอยู่เหมือนกัน เพราะด้วยกระแสของนักวิจารณ์และผู้ชมที่ต่างก็ชื่นชม ซึ่งฉากพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลทรายคาซาบลังกานั้นจะสวยงามขนาดไหน คงต้องไปพิสูจน์กันเอง ณ ตอนนี้ที่โรงภาพยนตร์
ที่มา: BuzzFeed, The Independent
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส