วันฉาย
26 / 7 / 2566
แนว
แอ็กชัน, ผจญภัย
จำนวนตอน
13
ผู้แต่ง
เคสุเกะ อิตางากิ
เรตผู้ชม
PG-13
OUR SCORE
6.6
Our score
6.6[รีวิว] Baki Hanma: Son of Ogre ซีซัน 2 – ประจัญบานสัตว์ร้ายจากอดีต
จุดเด่น
- การครีเอทฉากต่อสู้ และวิธีการยกระดับความสามารถมนุษย์ในแบบ 'สุดจะคิดได้'
- แอ็กชันเอามัน ที่คนชอบแนวงานประลองต้องดู
- พิคเคิลเท่มาก เป็นหนึ่งในคู่ปรับที่คนรักได้ไม่ยาก
- เพลง OP ที่โคตรเพราะ จนแทบไม่อยากจะกด Skip Intro
จุดสังเกต
- คุณภาพของบทที่ดรอปจากซีซันที่แล้วอย่างชัดเจน
- งานภาพ ยังมีฉากเผามาให้เห็นอยู่บ้าง
- สังเวียนการต่อสู้ที่ใช้ซ้ำ ๆ ไม่ค่อยเห็นสู้กันที่อื่นเท่าไหร่
- เหมือนเป็นซีซันคั่นเวลา เพื่อเข้าสู่ศึกหนักในซีซันต่อไป
-
คุณภาพด้านเสียงพากย์
8.5
-
คุณภาพแอนิเมชัน
7.0
-
คุณภาพของบท
4.5
-
คุณภาพของความบันเทิง
6.0
-
ความคุ้มเวลาในการชม
7.0
เมื่อพูดถึงซีรีส์อนิเมะที่พาคนดูเข้าไปสู่สังเวียนกำปั้นแห่งชายชาตรี พร้อมกับการห้ำหั่นทักษะการต่อสู้ที่เข้มข้นจาก Netflix แล้วล่ะก็ แน่นอนว่า Baki เองก็เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่หลายคนชื่นชอบ จนสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอยู่เสมอ
Baki Hanma: The Pickle War Saga เป็นซีซันที่ 2 ของ Baki Hanma: Son of Ogre ซึ่งเป็นภาคต่อจากอนิเมะ Baki โดยตรง แม้ว่าจะทิ้งห่างจากซีซันที่แล้วไปถึง 2 ปี แต่ซีซันนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะสามารถอัประดับความมันจากภาคก่อนได้อย่างที่สมการรอคอย
Baki เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงมาจากมังงะในชื่อเดียวกันของอาจารย์เคสุเกะ อิตางากิ (Keisuke Itagaki) โดยปัจจุบันสร้างมาแล้ว 3 ภาค ซึ่งมังงะ Baki ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้อ่านด้วยสไตล์การต่อสู้ที่โหด ดุดัน ผสมผสานกับศาสตร์การต่อสู้ที่มีอยู่จริง ซึ่งผู้แต่งก็ปรับให้นักสู้ทุกคนสามารถทะลุขีดจำกัดของมนุษย์ ชนิดที่ผู้อ่านยังต้องอ้าปากค้าง
Baki Hanma: Son of Ogre เล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามว่า ฮันมะ บากิ ซึ่งเขามีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งกว่า ฮันมะ ยูจิโร่ พ่อของเขา โดยความยากของเรื่องราวก็คือ ฮันมะ ยูจิโร่ ถูกขนานนามว่าเป็น ‘ออก้า’ หรือบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ด้วยการนั้นบากิจึงต้องต่อสู้กับคนอื่น ๆ เพื่อเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ที่จะล้มพ่อของเขาให้จงได้
ในซีซันแรกของ Baki Hanma: Son of Ogre เริ่มขึ้นเมื่อบากิต้องเข้าอยู่ในคุกที่แอริโซนา เพื่อที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ พร้อมกับหาคู่ปรับที่เหมาะสมในการทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น โดยในตอนท้ายของซีซัน เราจะพบว่าบากินั้นสามารถออกมาจากคุกได้ และเรื่องราวก็ได้มีการปูทางไปถึงร่างของมนุษย์ดึกดำบรรพ์คนหนึ่งที่ถูกแช่แข็งคู่กับไดโนเสาร์ที-เร็กซ์ นามนั้นคือ ‘พิคเคิล’
ในซีซันที่ 2 หรือ Baki Hanma: The Pickle War Saga เปิดเรื่องด้วยการที่สไตรดัม ได้เดินทางไปพบกับบากิที่กำลังฝึกฝนอยู่ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพิคเคิลมนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งยังไม่ทันที่บากิจะทำอะไร ตัวละครนักสู้มากหน้าหลายตาก็กระโจนเข้าไปหาพิคเคิล เพื่อท้าประลองความแข็งแกร่ง โดยจุดนี้จะเป็นการบอกอย่างมีนัยว่าซีซันนี้ จะเปลี่ยนการโฟกัสเรื่องราวไปที่พิคเคิลเป็นหลักแทน
พิคเคิลเป็นมนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่ถูกแช่แข็ง ในขณะที่กำลังล่าไดโนเสาร์ทีเร็กซ์เป็นอาหาร เขาพูดภาษาคนไม่ได้ ไร้ซึ่งมนุษยธรรม มีเพียงแค่สัญชาตญาณสัตว์ป่าที่อยู่ในตัวเท่านั้น ซึ่งการที่พิคเคิลล่าทีเร็กซ์เป็นอาหารด้วยมือเปล่า ก็ส่งให้เขากลายเป็นนักสู้ตัวตึงอันดับต้น ๆ ของเรื่องในทันที
พิคเคิลค่อนข้างเป็นตัวละครที่ถูกสร้างมาอย่างพิถีพิถัน แม้ตลอดทั้งเรื่องเขาจะไม่ได้พูดเลยสักคำ แต่เราก็สามารถสัมผัสได้ว่า พิคเคิลไม่ใช่คนป่าเถื่อนที่ไร้ความคิด เขาสามารถพัฒนาได้ เขามีหัวจิตหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งการที่ตัวละครพูดไม่ได้ และแสดงออกทางสีหน้าแทน ก็ช่วยขับมิติความลึกให้ตัวละครนั้นน่าประทับใจได้ตลอดทั้งซีซัน
เรื่องราวแต่ละภาคของ Baki จะเกี่ยวข้องกับการแสวงหาความแข็งแกร่งในแบบชายชาตรี แม้ว่าภาคนี้จะเน้นที่การต่อสู้เป็นหลัก แต่อนิเมะก็ยังฉายให้เห็นฉากย้อนอดีตที่เผยถึแรงจูงใจของตัวละคร ถึงเหตุผลที่พวกเขาต้องต่อสู้ และเชื่อเถอะว่า อย่าไปถามหาเหตุผลกับซีรีส์นี้นักเลย เพราะท้ายที่สุดความซับซ้อนมันก็จะถูกขับออกมาในฉากแอ็กชันมากกว่า
แม้ว่าการเล่าเรื่องในซีซันนี้ จะเน้นไปที่พิคเคิลเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความเด่นของบากิไปแต่อย่างใด เพราะบากิยังคงออกมาโชว์เก๋าเกม ในแบบนักมวยเจนสังเวียนที่ดูเติบโตขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นก็ยังมีตัวละครมากหน้าหลายตาจากภาคก่อน ๆ แวะมาโดนพิคเคิลอัด เอ้ย! สร้างสีสันให้หายคิดถึง เพื่อให้คนดูอย่างเราได้เห็นการพัฒนา
สำหรับผู้เขียนรู้สึกว่าในซีซันนี้เนื้อหาจะค่อนข้างเบาบางกว่าซีซันก่อน เพราะช่วงที่ไปตะลุยในคุก เราจะเห็นว่าบากิต้องใช้กลยุทธ์อะไร หรือมีวิธีคิดแบบไหนถึงจะเอาชนะคู่ต่อสู้มาได้ พร้อมด้วยมิติตัวละครมากมาย ซึ่งถ้าดูต่อกันเลยก็จะพบว่า เนื้อหาของซีซันนี้ช่างเบาบางกว่าซีซันก่อนอย่างเห็นได้ชัด
หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของ Baki คืองานอาร์ต และสไตล์แอนิเมชันที่โดดเด่น แม้ว่าจะดึงความดุดันมาจากมังงะไม่ได้ แต่ก็ทดแทนด้วยการขยายภาพให้กว้าง ผสมกับรายละเอียดที่ทำให้เราเห็นถึงพลังของตัวละคร แม้ในบางซีนจะมีงานเผาบ้าง แต่ก็ถือว่าดูดีกว่ามหาศึกคนชนเทพ แถมฉากต่อสู้ที่ลื่นไหล ก็ช่วยให้ฉากแอ็กชันมีชีวิตชีวามากขึ้น
แม้ความเข้มข้นของเนื้อหาจะเบาบางลงไป แต่ในซีซันนี้ Baki ก็ยังคงรักษาแก่นของเนื้อหาไว้ได้อย่างครบถ้วน เพราะแก่นแท้ของบากิ จะพูดถึงการออกแสวงหาพลังกับความมุ่งมั่น แม้ทุกคนจะไปถึงเป้าหมายไม่พร้อมกัน แต่การพยายามอย่างไม่ลดละต่ออุปสรรคก็จะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงความแข็งแกร่งในระหว่างทาง ซึ่งแก่นเหล่านี้ก็ยังคงประดับประดาอยู่ตามทางในเนื้อหาของซีซันนี้
นอกจากนั้นสำหรับใครที่ชอบฟังเพลงแล้ว Baki Hanma: The Pickle War Saga ก็จะมีเพลง The Beast ที่ขับร้องโดย Wagakki Band มาเป็นเพลงโอเพนนิงให้กับอนิเมะ ซึ่งขอบอกได้เลยว่า The Beast เป็นหนึ่งในเพลงเปิดของ Baki ที่มีจังหวะบรรเลงอย่างสนุกสนาน ย้ำเลยเพลงนี้ว่าเพราะมาก หากใครชอบเพลง Senbonzakura ที่ร้องโดยของวง Wagakki Band แล้วล่ะก็ ขอบอกเลยว่าอย่ากด Skip เพลงเปิดเชียวล่ะ
โดยรวมแล้ว Baki Hanma: The Pickle War Saga หรือซีซันที่ 2 ของ Baki Hanma: Son of Ogre เป็นหนึ่งในแอนิเมชันที่ดูเอามันได้อย่างสบาย ส่วนตัวผู้เขียนให้สนุกกว่ามหาศึกคนชนเทพเสียอีก แม้ว่าในซีซันนี้ เนื้อหาจะดูดรอปลงไปจากซีซันก่อน แต่ก็เข้าใจได้ว่าภาคนี้เป็นเหมือนจังหวะหยุดพักหายใจของเรื่องราว โดยการนำพิคเคิลมาเป็นศูนย์กลางให้บากิก้าวข้ามไป เพื่อเตรียมพร้อมให้ตัวเอกเจอศึกใหญ่ที่ใกล้เข้ามาในภาคหน้า
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส