นอกจากปรากฏการณ์ ‘Barbenheimer’ อันเกิดจากการต่อสู้ของค่ายหนังยักษ์ใหญ่ ที่ตั้งใจจับหนังของตัวเองมาฉายชนช้างในวันเดียวกันทั้ง ‘Barbie’ และ ‘Oppenheimer’ เดือนตุลาคมนี้ ก็มีอีกปรากฏการณ์ที่น่าสนใจก็คือ การเข้าฉายหนังคอนเสิร์ต ‘Taylor Swift: The Eras Tour’ ภาพยนตร์บันทึกการแสดงสดระดับปรากฏการณ์ ของศิลปินสาวแห่งยุค เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่กำลังจะเข้าฉายให้สวิฟตี้ได้รับชมกันในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ ก็กลายเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ในโรงภาพยนตร์ที่ทำเอาค่ายหนังหลายค่ายต่างเกรงขามไม่น้อย
โดยหนึ่งในหนังที่ทำการเลื่อนกำหนดฉายเพื่อหนีบารมีแม่สวิฟต์ไปแล้ว ก็คือภาคต่อของหนังสยองขวัญในตำนาน ‘The Exorcist: Believer’ ซึ่ง เจสัน บลัม (Jason Blum) โปรดิวเซอร์ของหนัง และประธานค่ายบลัมเฮาส์ โปรดักชัน (Blumhouse Productions) ได้ให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Weekly ถึงความรู้สึกในการตัดสินใจกัดฟันยอมฉายเร็วกว่ากำหนด เพื่อหลีกทางให้แม่เดินสะดวก เพราะถ้าฉายชน ชะตากรรมหนังเรื่องนี้อาจขนลุกยิ่งกว่าผีในหนังของตัวเองเสียอีก
บลัมเล่าถึงความรู้สึกของเขาแบบติดตลกว่า “เรามีวันศุกร์ที่ 13 ที่น่าตื่นตาตื่นใจรออยู่ในเดือนตุลาคม เป็นฤกษ์งามยามดีที่เหมาะกับการเปิดตัวหนังสยองขวัญ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมโคตรกลัวแทบตายก็คือ เทย์เลอร์ สวิฟต์ นี่แหละครับ!”
ในเดือนสิงหาคม มีการประกาศว่าจะนำภาพยนตร์บันทึกการแสดงสด ‘The Eras Tour’ ของสวิฟต์มาเข้าฉายในวัน ‘ศุกร์ 13’ ของเดือนตุลาคม หลังจากนั้น บลัมได้โพสต์แฮชแท็ก #Exorswift ลงใน X หยอกล้อหนังของตัวเองที่ฉายชนกับหนังคอนเสิร์ตดัง เช่นเดียวกับกระแสไวรัล #Barbenheimer
เท่านั้นยังไม่พอ บลัมยังแอบหยอกด้วยการโพสต์ข้อความบน X ในวันต่อมาด้วยข้อความว่า ‘ดูสิว่าคุณทำอะไรกับฉัน’ ซึ่งมีที่มาจากชื่อเพลง “Look What You Made Me Do” จากอัลบั้ม ‘Reputation’ (2017) ของสวิฟต์ ก่อนจะเฉลยว่า ทั้ง Blumhouse และ Universal Pictures ได้ย้ายวันฉาย ‘The Exorcist: Believer’ ไปเป็นวันที่ 10 ตุลาคม (ตามกำหนดเดิม) แทน พร้อมแฮชแท็ก #TaylorWins
การย้ายโปรแกรมครั้งนี้อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญนัก เพราะมีสื่อรายงานว่า ยอดจองตั๋วล่วงหน้าของหนังคอนเสิร์ต ‘The Eras Tour’ ที่จะเป็นการรวมเพลงทุกยุคของสวิฟต์เอาไว้ สามารถทำรายได้เป็นประวัติการณ์ทำลายสถิติยอดจองตั๋วล่วงหน้าแฟรนไชส์หนังฟอร์มยักษ์ทั้ง ‘Eternals’ (2021) และ ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ (2022) ของ Marvel Studios และ ‘The Batman’ (2022) ของ DC รวมทั้ง ‘Star Wars: Episode VII – The Force Awakens’ (2015) ลงได้สำเร็จ
‘The Exorcist: Believer’ กำกับโดย เดวิด กอร์ดอน กรีน (David Gordon Green) ผู้กำกับจากไตรภาคหนังเชือด ‘Halloween’ เล่าเรื่องราวของคุณพ่อที่ประสบเหตุลูกสาวหายตัวในป่า ก่อนกลับออกมาพร้อมอาการคล้ายถูกผีสิง โดยจะได้ เอลเลน เบอร์สตีน (Ellen Burstyn) นักแสดงจากหนังต้นฉบับปี 1973 กลับมารับบทเดิมอีกครั้ง มีกำหนดฉายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 6 ตุลาคม (ส่วนในไทยจะเข้าฉายวันที่ 5 ตุลาคม)
“เห็นได้ชัดว่า สุดท้ายเราก็ต้องยอมย้ายวันออกไป และเราก็ยอมคารวะให้กับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เพราะมันเสี่ยงเกินไปที่จะทดลองว่า ‘Exorswift’ มันจะเวิร์กไหม ผู้คนจะยังคงมีโอกาสใน Exorswift แต่ยังไงก็ตามเราก็ต้องยอมที่จะได้อย่างเสียอย่าง” บลัมอธิบายทิ้งท้าย
ที่มา: Entertainment Weekly
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส