คำเตือน: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์ ‘The Marvels’


นอกจาก ‘The Marvels’ หนัง MCU เฟส 5 เรื่องสุดท้ายของปี 2023 นอกจากจะเป็นการรวมทีมแบบย่อม ๆ ของซูเปอร์ฮีโรหญิงพลังคอสมิก 3 คน ทั้ง แครอล เดนเวอร์/กัปตันมาร์เวล (บรี ลาร์สัน – Brie Larson), โมนิกา แรมโบ (เทโยนาห์ แพร์ริส – Teyonah Parris) และ กมลา ข่าน/มิสมาร์เวล (อิมาน เวลลานี – Iman Vellani) รวมทั้งยังเป็นการเก็บตกเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างยุค Infinity Saga แล้ว

อีกไฮไลต์สำคัญของหนังเรื่องนี้ก็คือ ฉากกลางเครดิต หรือ Mid-Credit ที่ในหนังเรื่องนี้มีเพียง 1 ตัวเท่านั้น (ส่วนหลังเครดิตจบ ช่วงที่โลโก้ Marvel Studios ขึ้น จะมีเสียงของ เฟลอร์เคน (Flerken) แมวเอเลียนที่กำลังเขมือบอะไรบางอย่าง) โดยฉาก Mid-Credit นี้เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ไม่น้อย เพราะนี่ถือเป็นการยืนยันถึงการมาของยุคมิวแทนต์ (Mutant) หรือการมาของตัวละครมนุษย์กลายพันธ์ุ และเรื่องราวในจักรวาล ‘X-Men’ ในจักรวาล MCU อย่างค่อนข้างที่เรียกได้ว่าเป็นทางการในระดับหนึ่งทีเดียว

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Marvel Studios เคยชิมลางด้วยการปรากฏตัวของ เซอร์ แพทริก สจวร์ต (Patrick Stewart) เจ้าของบทบาท โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ (Professor X) หรือ ชาร์ลส์ เซเวียร์ (Charles Xavier) ครูใหญ่ของชาวมิวแทนต์จาก Earth-838 ใน ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ (2022) หนึ่งในตัวละครจากแฟรนไชส์ ‘X-Men’ ของ 20th Century Fox

Captain Marvels Photo courtesy of Marvel Studios. © 2019 MARVEL. Maria Rambeau

หรือแม้แต่ในซีรีส์ ‘Ms.Marvel’ ที่มีการเปิดเผยว่า กมลา ข่าน คือมิวแทนต์ ก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณแบบกลาย ๆ ว่ายุคต่อไปของ MCU ก็น่าจะมีการดึงเอาเรื่องราวของมิวแทนต์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Multiverse Saga ด้วยในอนาคต

เรื่องราวในฉาก Mid-Credit เกิดขึ้นหลังจากที่ โมนิกา แรมโบ ได้ใช้พลังไฟฟ้าของตนเองในการปิดมิติรูหนอนที่กำลังจะพังทลายจากฝีมือของ ดาร์-เบนน์ (ซาวี แอชตัน – Zawe Ashton) ผู้นำจอมปฏิวัติชาวครี ในตอนท้าย โมนิกาได้เสียสละตัวเองในการปิดมิติจากรูหนอนที่อยู่ตรงข้ามกับมิติของแครอล จนทำให้ตัวเองติดอยู่ในอีกมิติ

โมนิกาตื่นขึ้นมา และได้พบกับ มาเรีย แรมโบ (ลาชานา ลินช์ – Lashana Lynch) แม่ของเธอที่หายไปจากเหตุการณ์ The Blip หรือเหตุการณ์ที่ ธานอส (Thanos) ดีดนิ้ว และเสียชีวิตจากโรคมะเร็งไปก่อนที่โมนิกาจะกลับมาจากเหตุ The Blip โดยไม่ทันได้ร่ำลา เธอคิดว่าผู้หญิงตรงหน้าคือแม่ของเธอเอง

beast-x-men-days-of-future-past-

หลังจากนั้น ได้ปรากฏตัวละคร บีสต์ (Beast) เฮนรี “แฮงก์” แม็กคอย (Henry McCoy) มิวแทนต์ร่างอสูร หนึ่งในสมาชิก X-Men ที่มีลักษณะคล้ายกับตัวละครที่ปรากฏใน ‘X-Men: The Last Stand’ (2006) และ ‘X-Men: Days of Future Past’ (2014) ของ 20th Century Fox ที่รับบทโดย เคลซี แกรมเมอร์ (Kelsey Grammer) สวมทับด้วย CGI นอกจากนี้ ในบทสนทนา บีสต์ยังได้กล่าวถึง ชาร์ลส์ เซเวียร์ รวมทั้งภาพกว้างที่ตัดให้เห็นการออกแบบห้องที่ใช้โทนสีน้ำเงิน-เทา และมีสัญลักษณ์ X ปรากฏบนกำแพงที่อ้างอิงมาจาก ‘X-Men’ เวอร์ชัน Fox รวมทั้งในจอคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน

ในช็อตสุดท้าย โมนิกาจึงรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่แม่ของเธอ เพราะมาเรียได้ปรากฏตัวในชุดสูทแบบซูเปอร์ฮีโร แม้จะยังไม่มีการยืนยัน แต่ก็มีการคาดเดาว่า หญิงสาวหน้าคล้ายมาเรีย ที่จริงแล้วอาจเป็น สตรอม (Storm) อีกหนึ่งสมาชิก X-Men

และสิ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือ ทั้งบีสต์และสตรอมที่โมนิกาได้เจอ ล้วนแล้วแต่เป็นมิวแทนต์ที่อยู่ในคนละมิติ เรื่องราวของเหล่ามิวแทนต์ที่มาจากอีกมัลติเวิร์ส รวมทั้งภัยพิบัติในระดับพหุจักรวาล จึงน่าจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวใน MCU ในอนาคต และอาจจะเป็นการปูทางไปสู่ ‘Avengers: Secret Wars’ ที่กำลังจะมาถึง


ที่มา: GQ, Collider

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส