IndieWire รายงานว่า ‘Guardians of the Galaxy Vol. 3’ เป็นภาพยนตร์ทุนสร้างตั้งแต่ 200 ล้านเหรียญขึ้นไป เพียงเรื่องเดียวที่สามารถทำกำไรได้จริง ๆ ในปี 2023 นี้ ท่ามกลางภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องที่คว่ำบนบ็อกซ์ออฟฟิศอย่างน่าเสียดาย เช่น ‘Fast X’, ‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’, ‘The Little Mermaid’, ‘Mission: Impossible — Dead Reckoning Part One’, ‘The Marvels’, ‘The Flash’, ‘Ant-Man and the Wasp: Quantamania’, ‘Elemental’, ‘Killers of the Flower Moon’ และ ‘Transformers: Rise of the Beasts’ เป็นต้น
‘Guardians of the Galaxy Vol. 3’ เป็นผลงานเขียนบทและกำกับโดย เจมส์ กันน์ (James Gunn) ที่ปิดไตรภาคของแฟรนไชส์ได้อย่างสวยงาม ใช้ทุนสร้างไป 250 ล้านเหรียญ ทำรายได้ทั่วโลกไป 845 ล้านเหรียญ โดยพิจารณาจากการที่ภาพยนตร์ต้องทำเงินอย่างน้อย 2 เท่า ของทุนสร้าง จึงจะถึงจุดคุ้มทุนที่รวมค่าโปรโมตเข้ามาด้วย และติดอันดับที่ 4 ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2023 นี้
ในขณะเดียวกัน 3 อันดับแรกตกเป็นของ ‘Barbie’, ‘The Super Mario Bros. Movie’ และ ‘Oppenheimer’ ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนั้นใช้ทุนสร้างไปราว 150 ล้านเหรียญ และไม่ใช่แฟรนไชส์ภาพยนตร์หรือภาคต่อแต่อย่างใด
IndieWire ระบุว่า การที่ภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้างมากกว่า 200 ล้านเหรียญ ส่วนใหญ่ในปี 2023 ไม่สามารถทำกำไรได้จริง ๆ นั้น แสดงให้เห็นถึงทิศทางการรับบชมภาพยนตร์ของผู้ชมรุ่นใหม่ที่ต้องการความสดใหม่ และเบื่อหน่ายต่อภาพยนตร์ภาคต่อหรือแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับทุกสตูดิโอ
หนึ่งในนั้นคือ ‘Killers of the Flower Moon’ ของผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเดียวในกลุ่มภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในปี 2023 นี้ ที่ไม่ใช่ภาคต่อ และได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ไปมากมาย (93% บน Rotten Tomatoes) แต่ผู้ชมในวงกว้างกลับไม่สนใจมากนัก ส่งผลให้ทำรายได้ไปเพียง 151.8 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่มหาศาลกว่า 200 ล้านเหรียญ
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส