แฟน ๆ มาร์เวล อาจจะเคยได้ยินข่าวลือนี้กันมาก่อนแล้วว่า แบรด พิตต์ (Brad pitt) เกือบจะได้รับบทเป็น เคเบิล (Cable) มิวแตนท์ผู้มีความสามารถในการเดินทางข้ามเวลา แต่แล้วข่าวลือนี้ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวจริงจาก ร็อบ ลีเฟลด์ (Rob Liefeld) ผู้ร่วมสร้าง Deadpool เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่าน ลีเฟลด์ได้ไปร่วมรายการ ‘That Collectibles Show’ ของเว็บไซต์่ ComicBook.com ในระหว่างพูดคุยนั้น ลีเฟลด์ได้เผยว่า
“ผมรู้ความจริง 100% ว่านี่คือเรื่องจริง มันจริงแท้แน่นอนที่สุด ผมเห็นตอนเค้าเป็นเคเบิลแล้วด้วย เขาลองทดสอบบทกันแล้ว เหตุเพราะว่า เดวิด ลีตช์ (David Leitch) ผู้กำกับน่ะ เขามีความสัมพันธ์อันดีกับ แบรด พิตต์ เพราะเขาเคยเป็นนักแสดงสตันท์ให้พิตต์มาก่อน แต่เรื่องที่หลายคนไม่รู้ก็คือ มันเกิดขึ้นในช่วงแรก แรก แรก มาก ๆ พิตต์เป็นคนแรกเลยที่มาทดสอบบทนี้ แต่แล้ว พอพวกเขาตกลงกันไม่ได้ ทางทีมก็เลยหาตัวเลือกอื่นแทน”
![](https://assets.beartai.com/uploads/2023/12/image-40-887x1024.png)
ในปีนั้น นับว่าเป็นช่วงขาขึ้นของโบรลินอย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงแต่เขาได้บท เคเบิล ใน ‘Deadpool 2’ แล้ว เขายังได้บทธานอสวายร้ายตัวฉกาจใน ‘Avengers: Infinity War’ อีกด้วย เป็นนักแสดงเพียงคนเดียวที่ได้รับ 2 บทวายร้ายในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล แต่ถึงแม้พิตต์จะพลาดบทเคเบิลไป แต่ก็น่าสนใจนะว่าถ้าบทบาทเคเบิลตกเป็นของพิตต์ หนังจะออกมาเป็นอย่างไร แต่แล้ว พิตต์ก็ได้ร่วมแสดงใน ‘Deadpool 2’ ด้วยจริง ๆ ด้วยการรับบทเป็น ‘Vanisher’ ที่มาในฐานะตัวละครรับเชิญที่โผล่มา “แว้บเดียว” จริง ๆ
![](https://assets.beartai.com/uploads/2023/12/image-41-1024x678.png)
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ลีเฟลด์ก็แฮปปี้มากกับผลลัพธ์ในการแคสติ้งที่ได้ จอช โบรลิน (Josh Brolin)มาเป็น ‘เคเบิล’ แต่กว่าโบรลินจะตอบรับบทนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องอาศัยภรรยาของโบรลินช่วยเกลี้ยกล่อม เขาถึงได้ยอมอ่านบทนี้
“ผมคิดว่าจอชคงไม่ถือสาผมนะ ที่ผมเล่าเรื่องนี้ เพราะว่าคนในฟ็อกซ์ก็เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง แล้วจอชเองก็เคยเล่าให้ผมฟัง ในวันที่นำรายชื่อนักแสดงในแต่ละบทมาดูกัน ทางฟ็อกซ์ก็ยังไม่ได้คนในบทเคเบิล พวกเขาเลยโทรหาตัวแทนของจอช แล้วพวกเขาก็โทรหาจอช ถามเขาว่า ‘คุณได้อ่านบทหรือยัง ?’ เขาก็ตอบกลับมาว่า ‘ผมไม่อยากรับงานนี้ ผมไม่อยากเล่นเรื่องนี้ คือแบบว่าผมไม่สนใจน่ะ’ “
“แต่แล้วก็เป็นภรรยาของจอชนี่ล่ะ ซึ่งผมต้องมอบเครดิตเรื่องนี้ทั้งหมดให้ แคทรีน โบรลิน เธอบอกเขาว่า ‘คุณคิดอะไรของคุณ ? น่ะ อย่างน้อยก็อ่านบทดูก่อนนะ’ ว่าแล้วเธอก็เอาบทไปอ่าน แล้วเธอก็บอกว่า ‘จอช คุณต้องเล่นเรื่องนี้นะ’ แล้วเธอก็ส่งบทให้จอช หลังจากนั้นเขาก็บอกว่า เขาได้อ่านแล้ว แล้วก็พูดว่า ‘มันค่อนข้างดีจริง’ แล้วเขาก็โทรกลับมาหาฟ็อกซ์ แล้วบอกว่า ‘โอเค ผมตกลงรับ’ ซึ่งในช่วงเวลาคับขันนั้น ถ้าเขาไม่ตกลง เราก็ต้องเดินหน้าหาเคเบิลคนอื่นล่ะ”
![](https://assets.beartai.com/uploads/2023/12/image-42.png)
ในที่สุด ‘Deadpool 2’ ก็เป็นหนังอีกเรื่องในเครดิตของโบรลิน ซึ่งลีเฟลด์ชอบภาคต่อเรื่องนี้มาก เขาดีใจที่ได้โบรลินมารับบทเป็นเคเบิล เพราะเขาคือผู้ร่วมสร้างสรรค์ตัวละคร ‘เคเบิล’ นี้ขึ้นมา รวมไปถึงตัว ‘เดดพูล’ ด้วยที่เขาก็เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ และเขาก็ภูมิใจมากที่ได้เห็นทั้งสองตัวละครของเขาในภาพยนตร์คนแสดง ลีเฟลด์เล่าต่ออีกว่า “เขาไม่น่าจะรู้สึกแฮปปี้ไปกว่านี้ได้อีกแล้ว” กับการได้เห็นฉากเดินทางข้ามเวลาในตอนท้ายของหนัง ที่ เวด วิลสัน เดินทางข้ามเวลาไปสังหาร Deadpool เวอร์ชันที่เคยปรากฎตัวมาใน ‘X-Men Origins: Wolverine’
“บอกตามตรงนะ ว่ามันดูเหมือนเป็นการปูทางเรื่องที่จะเกิดขึ้นใน Deadpool 3 ไว้จริง ๆ อย่าถามผมเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วกัน และขอสวัสดีทุกคนที่ดิสนีย์ด้วย ผมคือ ร็อบ ผมไม่ได้พูดถึงหนัง Deadpool 3 หรอกนะ”
‘Deadpool 3’ มีกำหนดฉายวันที่ 26 กรกฎาคม 2024 ถ้าใครคิดถึง Deadpool วันนี้สามารถย้อนดู ‘Deadpool’ และ ‘Deadpool 2’ ได้ทาง Disney+
ที่มา : movieweb