แม้ช่วงชีวิตในการเป็นนักแสดงของ แกรี โอลด์แมน (Gary Oldman) นักแสดงยอดฝีมือชาวอังกฤษวัย 65 ปี เจ้าของรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากการแปลงโฉมเป็น วินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill) นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ในหนังการเมือง ‘Darkest Hour’ (2018) จะเรียกได้ว่าคงเส้นคงวามาโดยตลอด แต่ในด้านชีวิตส่วนตัวของเขาเองก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่น้อย

เพราะช่วงหนึ่งของชีวิต เขาเคยต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา ที่นำไปสู่การหย่าร้าง และการต่อสู้ฟ้องร้องเพื่อแย่งชิงสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกชาย 2 คน จนเมื่อฟ้าหลังฝน เขาได้รับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก ๆ นอกจากนี้ เขายังได้รับบทบาทที่สำคัญในแฟรนไชส์หนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ 2 เรื่อง ทั้งบทบาท ซีเรียส แบล็ก (Sirius Black) ใน ‘Harry Potter’ และบทบาท สารวัตร เจมส์ กอร์ดอน (James Gordon) ในไตรภาค ‘The Dark Knight’

ซึ่งล่าสุด เขาได้เปิดเผยในระหว่างการสัมภาษณ์ในรายการ ‘The Drew Barrymore Show’ ที่ดำเนินรายการโดย ดรูว์ แบร์รีมอร์ (Drew Barrymore) ว่า เขาเองรู้สึกขอบคุณหนัง 2 เรื่องนี้ที่ช่วยชีวิตเขา ทั้งในด้านชีวิตการเป็นนักแสดง เพราะทั้ง 2 บทบาท ล้วนแต่เป็นบทสมทบที่โด่งดังและมีแฟน ๆ ชื่นชอบมากมาย รวมทั้งยังเป็น 2 บทบาทที่ทำให้เขาได้มีเวลาอยู่กับลูก ๆ ของเขามากขึ้นกว่าเดิม

“ตอนผมอายุ 42 ปี ผมตื่นขึ้นมาหลังจากที่ผมหย่าร้าง และได้สิทธิ์ในการดูแลลูก ๆ ของผม คือมันก็เป็นเรื่องยากในตัวมันเองอยู่แล้วล่ะ เพราะตอนนั้นอุตสาหกรรมภาพยนตร์มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของสถานที่การถ่ายทำที่อยู่ในฮังการี บูดาเปสต์ ปราก ออสเตรเลียด้วย ซึ่งก็อย่างที่คุณรู้แหละครับ มันทำให้ผมต้องปฏิเสธงานไปเยอะมาก ๆ ” ซึ่งแบร์รีมอร์อธิบายเสริมว่า ด้วยเหตุผลด้านภาษี ทำให้กองถ่ายจึงต้องผลัดเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำไปทั่วโลก

Gary Oldman ‘The Dark Knight’

“แต่ว่าผมต้องขอขอบคุณพระเจ้านะ สำหรับ ‘Harry Potter’ และขอบคุณพระเจ้าสำหรับ ‘Batman’ ผมบอกคุณแล้วแหละว่า หนังทั้ง 2 เรื่องช่วยชีวิตผมเอาไว้ได้จริง ๆ เพราะมันทำให้ผมสามารถทำงานให้น้อยที่สุด แต่ได้เงินค่าตัวจำนวนที่คุ้มค่า และก็ทำให้ผมมีเวลากลับบ้านไปเจอกับลูก ๆ ได้ด้วย”

โอลด์แมนแต่งงานครั้งแรกกับนักแสดง เลสลี แมนวิล (Lesley Manville) และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ อัลฟี โอลด์แมน (Alfie Oldman) ก่อนจะหย่ากันในปี 1990 เคยแต่งงานกับ อูมา เธอร์แมน (Uma Thurman) ระยะสั้น ๆ ก่อนจะหย่า และแต่งงานกับภรรยาคนที่ 3 ดอนยา ฟิออเรนติโน (Donya Fiorentino) ในปี 1997 มีลูกชายด้วยกัน 2 คน คือ กัลลิเวอร์ ฟลินน์ โอลด์แมน (Gulliver Flynn Oldman) และ ชาร์ลี จอห์น โอลด์แมน (Charlie John Oldman)

จนกระทั่งทั้งคู่ได้ดำเนินการฟ้องหย่าในปี 2001 ซึ่งฟิออเรนติโน อดีตภรรยาได้กล่าวหาว่า ในระหว่างที่แต่งงานกัน โอลด์แมนได้ทำร้ายร่างกายเธอ มาจนถึงปี 2018 โอลด์แมนได้รับรางวัลออสการ์ ฟิออเรนติโนก็ได้ออกมาโจมตีถึงการมอบรางวัลให้กับคนที่เคยมีประวัติการทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว และตั้งคำถามกับการเคลื่อนไหว #MeToo ว่าทำไมถึงไม่แบนโอลด์แมนไปเหมือนกับนักแสดงคนอื่น ๆ ที่ถูกแฉ

แต่ในที่สุด กัลลิเวอร์ ลูกชายคนโตของทั้งคู่ก็ได้ออกจดหมายเปิดผนึกเพื่อแสดงจุดยืนว่า แม่ของเขาต่างหากที่มีปัญหา รวมทั้งยังแต่งเรื่องโกหกที่คอยทำร้ายเขาและครอบครัวมาโดยตลอด รวมทั้งยังกล่าวปกป้องโอลด์แมนในฐานะพ่อว่าเป็นดั่งฮีโรที่มีเพียงหนึ่งเดียว และขอให้ทุกคนเลิกเชื่อ หยุดแชร์คำโกหกที่ออกมาจากแม่ของเขาด้วย

Gary Oldman ‘Harry Potter’

โอลด์แมนรับบทเป็น ซีเรียส แบล็ก หรือ เท้าปุย พ่อทูนหัวผู้ดูแลและปกป้อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ครั้งแรกในหนัง ‘Harry Potter and the Prisoner of Azkaban’ (2004) ก่อนจะพบจุดจบอันน่าเศร้าใน ‘Harry Potter and the Order of the Phoenix’ (2007) และรับบทเป็นสารวัตรจิม ในไตรภาค ‘The Dark Knight’ ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ซึ่งโอลด์แมนเล่าว่า เขาต้องบินไปกลับจากบ้านของเขาในลอสแองเจลิส ไปถ่ายทำที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเขาเองก็ขอบคุณหนังเรื่องนี้ที่ทำให้เขาได้พบเจอลูก ๆ อย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน

“ตอนที่ผมถ่าย Batman ภาคแรก (‘Batman Begins’, 2005) ลอนดอนถูกเซตเป็นเมืองก็อตแธม ผมจึงต้องบินไปกลับจากแอลเอ 27 เที่ยว ซึ่งต้องยกเครดิตให้คริส โนแลนเลยครับ เขาทำงานทุกอย่างตรงตามตารางเป๊ะ ผมจะบินไปทำงาน 2 วัน บิน 1 วัน ทำงาน 1 วัน แล้วก็บินกลับมาบ้าน 3 วันในช่วงสุดสัปดาห์ เพราะไม่งั้นเดี๋ยวลูก ๆ จะได้อยู่แต่กับพี่เลี้ยง”

โอลด์แมนเล่าสรุปว่า สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนั้นก็คือ อยากทำหน้าที่ในฐานะคนเป็นพ่ออีกครั้ง หลังจากที่เขาไม่ได้มีเวลาดูแลลูกชายคนแรกอย่างอัลฟีมากนัก ครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการแก้ตัวให้เขาได้มีโอกาสเป็นพ่อที่ดีกว่าเดิม “ผมมีโอกาสเลี้ยงลูก 2 คนนี้ และผมก็คิดว่าคงทำไม่ได้มั้ง แต่ตอนนี้ผมได้รับของขวัญล้ำค่า จากการได้เป็นพ่อในแบบที่ผมเคยจินตนาการว่าอยากจะได้อยู่กับอัลฟี ลูกชายคนแรก ดังนั้นผมจึงมีโอกาสที่จะได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้อีกครั้ง”

“สำหรับผม ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมก็คือการที่ลูก ๆ ของผมโตมาเป็นคนดี ลูก ๆ ของผมไม่ใช่อัจฉริยะ แต่พวกเขาเป็นคนดีจริง ๆ ผมคิดว่าเราต้องการคนดี ๆ มากขึ้นในโลกนี้ เรามีอัจฉริยะมากพอแล้ว แต่เราต้องการคนที่มีจิตใจที่ดี ไม่ใจร้าย ผมจึงคิดว่าพวกเขานี่แหละที่ช่วยชีวิตผมไว้”


ที่มา: Variety, Entertainment Weekly

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส