ฤดูกาลสำหรับคนทีวีเวียนมาบรรจบอีกครั้ง กับการประกาศรางวัล ไพรม์ไทม์ เอ็มมี อวอร์ดส ครั้งที่ 75 ประจำปี 2024 (75th Primetime Emmy Awards) รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการโทรทัศน์ ที่ดำเนินการจัดและคัดเลือกรายชื่อผู้ชนะโดย โดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางโทรทัศน์ (Academy of Television Arts & Sciences – ATAS) เพื่อประกาศรายชื่อรายการทีวี และทีวีซีรีส์ที่มีความเป็นเลิศในรอบปี 2023 ที่ผ่านมา
ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นในค่ำคืนของวันที่ 15 มกราคม หรือเช้าตรู่ของวันที่ 16 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย ณ โรงละคร Peacock Theater ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยได้ แอนโธนี แอนเดอร์สัน (Anthony Anderson) พิธีกรและนักแสดงตลกมารับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ และถ่ายทอดสดสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกผ่านเครือข่ายของสถานีโทรทัศน์ Fox
โดยปกติแล้ว การประกาศผลรางวัล Primetime Emmy Awards จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน แต่ด้วยผลพวงจากการประท้วงหยุดงานของสมาชิกนักแสดง ภายใต้สมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ (SAG – The Screen Actors Guild) และสหพันธ์ศิลปินโทรทัศน์และวิทยุแห่งอเมริกา (AFTRA – American Federation of Television and Radio Artists) เพื่อเสนอข้อเรียกร้องต่อพันธมิตรผู้ผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์ หรือ AMPTP (Alliance of Motion Picture and Television Producers) ที่เกิดขึ้นในปี 2023 ทำให้ ATAS และ Fox ตัดสินใจเลื่อนการจัดงานมาจัดในเดือนมกราคมปีนี้แทน
โดยในปีนี้ถือเป็นปีที่ซีรีส์ซีรีส์ดราม่าตลกร้าย ‘Succession’ จากค่าย HBO สามารถคว้ารางวัลใหญ่ และรางวัลจากสาขรวมทั้งหมด 6 รางวัล ยึดหัวหาดสาขาซีรีส์ประเภทดราม่ายอดเยี่ยม รวมทั้งสาขาของนักแสดง ตั้งแต่ คีแรน คัลกิน (Kieran Culkin) ที่คว้ารางวัลรางวัลนักแสดงนำชาย และ ซาราห์ สนูก (Sarah Snook) ที่คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิง และ แมธธิว แม็กเฟเดียน (Matthew Macfadyen) คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชาย หลังจากเพิ่งคว้ารางวัลลูกโลกทองคำไปหยก ๆ รวมทั้งยังสามารถคว้ารางวัลด้านการกำกับและเขียนบทมาครองได้อีกด้วย
ในฟากซีรีส์ตลก ซีรีส์ที่มาแรงในปีนี้อีกเรื่องอย่าง ‘The Bear’ ที่หลังจากกวาดรางวัลรางวัลลูกโลกทองคำมาแล้ว ก็สามารถตีป้อมยืดรางวัลสาขาตลกได้เช่นกัน ตั้งแต่รางวัลซีรีส์ประเภทตลกยอดเยี่ยม รวมทั้ง เจเรมี อัลเลน ไวต์ (Jeremy Allen White) ที่สามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำชาย อาโย เอเดบิรี (Ayo Edebiri) คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิง อีบอน มอสส์-บาครัค (Ebon Moss-Bachrach) ที่สามารถคว้ารางวัลรางวัลนักแสดงสมทบชาย และคว้ารางวัลด้านการกำกับ-เขียนบทไปครอง รวมกับรางวัลย่อยอื่น ๆ ทั้งหมด 10 รางวัล
ส่วนซีรีส์ดราม่าหัวร้อน ‘Beef’ ของ Netflix ผลงานจากบ้าน A24 ก็สามารถยึดรางวัลฝั่งของลิมิเต็ดซีรีส์ได้เช่นกันตั้งแต่สาขารางวัลลิมิเต็ดซีรีส์ และซีรีส์จบในตอนยอดเยี่ยม รวมทั้งคู่นักแสดงนำอย่าง สตีเวน ยอน (Steven Yeun) และ อาลี วอง (Ali Wong) ก็ยังคงกอดคอคว้ารางวัลรางวัลนักแสดงนำชาย และรางวัลนักแสดงนำหญิงได้อย่างเหนียวแน่น และแน่นอนว่า ‘Beef’ ก็ยึดรางวัลรางวัลด้านการกำกับ-เขียนบทของสาขาลิมิเต็ดซีรีส์ไปครอง รวมรางวัลจากสาขาย่อยอื่น ๆ ทั้งหมด 8 รางวัล
รายชื่อผู้ได้รับรางวัล Primetime Emmy Awards ครั้งที่ 75
- รางวัลซีรีส์ประเภทตลกยอดเยี่ยม
‘The Bear’ (FX)
- รางวัลซีรีส์ประเภทดราม่ายอดเยี่ยม
‘Succession’ (HBO)
- รางวัลลิมิเต็ดซีรีส์ และซีรีส์จบในตอนยอดเยี่ยม
‘Beef’ (Netflix)
- รางวัลรายการประเภทเรียลลิตีแข่งขันยอดเยี่ยม
‘RuPaul’s Drag Race’ (MTV)
- รางวัลรายการประเภททอล์กโชว์ยอดเยี่ยม
‘The Daily Show with Trevor Noah’ (Comedy Central)
- รางวัลรายการประเภทสคริปต์วาไรตี้ยอดเยี่ยม
‘A Black Lady Sketch Show’ (HBO)
- รางวัลนักแสดงนำชาย ประเภทซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม
เจเรมี อัลเลน ไวต์ (Jeremy Allen White) ‘The Bear’
- รางวัลนักแสดงนำหญิง ประเภทซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม
ควินตา บรันสัน (Quinta Brunson) ‘Abbott Elementary’
- รางวัลนักแสดงนำชาย ประเภทซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม
คีแรน คัลกิน (Kieran Culkin) ‘Succession’
- รางวัลนักแสดงนำหญิง ประเภทซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม
ซาราห์ สนูก (Sarah Snook) ‘Succession’
- รางวัลนักแสดงนำชาย ประเภทลิมิเต็ดซีรีส์และซีรีส์จบในตอนยอดเยี่ยม
สตีเวน ยอน (Steven Yeun) ‘Beef’
- รางวัลนักแสดงนำหญิง ประเภทลิมิเต็ดซีรีส์และซีรีส์ซีรีส์จบในตอนยอดเยี่ยม
อาลี วอง (Ali Wong) ‘Beef’
- รางวัลนักแสดงสมทบชาย ประเภทซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม
อีบอน มอสส์-บาครัค (Ebon Moss-Bachrach) ‘The Bear’
- รางวัลนักแสดงสมทบหญิง ประเภทซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม
อาโย เอเดบิรี (Ayo Edebiri) ‘The Bear’
- รางวัลนักแสดงสมทบชาย ประเภทซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม
แมธธิว แม็กเฟเดียน (Matthew Macfadyen) ‘Succession’
- รางวัลนักแสดงสมทบหญิง ประเภทซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม
เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์ (Jennifer Coolidge) ‘The White Lotus’
- รางวัลนักแสดงสมทบชาย ประเภทลิมิเต็ดซีรีส์และซีรีส์จบในตอนยอดเยี่ยม
พอล วอลเตอร์ ฮาวเซอร์ (Paul Walter Hauser) ‘Black Bird’
- รางวัลนักแสดงสมทบหญิง ประเภทลิมิเต็ดซีรีส์และซีรีส์จบในตอนยอดเยี่ยม
นีซี แนช เบตส์ (Niecy Nash-Betts) ‘Dahmer – Monster: The Jeffrey Dahmer Story’
- รางวัลการกำกับ ประเภทซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม
‘The Bear’ ตอน ‘Review’ (FX)
กำกับโดย คริสโตเฟอร์ สตอเรอร์ (Christopher Storer)
- รางวัลการกำกับ ประเภทซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม
‘Succession’ ตอน ‘Connor’s Wedding’ (HBO)
กำกับโดย มาร์ก มายลอด (Mark Mylod)
- รางวัลการกำกับ ประเภทลิมิเต็ดซีรีส์และภาพยนตร์เฉพาะกิจยอดเยี่ยม
‘Beef’ ตอน ‘Figures Of Light’ (Netflix)
กำกับโดย อีซองจิน (Lee Sung Jin)
- รางวัลบทละคร ประเภทซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม
‘The Bear’ ตอน ‘System’ (FX)
เขียนบทโดย คริสโตเฟอร์ สตอเรอร์ (Christopher Storer)
- รางวัลบทละคร ประเภทซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม
‘Succession’ ตอน ‘Connor’s Wedding’ (HBO)
เขียนบทโดย เจสซี อาร์มสตรอง (Jesse Armstrong)
- รางวัลบทละคร ประเภทลิมิเต็ดซีรีส์และภาพยนตร์เฉพาะกิจยอดเยี่ยม
‘Beef’ ตอน ‘The Birds Don’t Sing, They Screech in Pain’ (Netflix)
เขียนบทโดย อีซองจิน (Lee Sung Jin)
- รางวัลบทยอดเยี่ยมประเภทรายการวาไรตีโชว์
‘Last Week Tonight With John Oliver’ (HBO)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส