‘Maestro’หนังชีวประวัติของ เลนเนิร์ด เบิร์นสไตน์ ( Leonard Bernstein) วาทยากรเพลงที่ได้รับการยกย่องในระดับโลก หนังเล่าความสัมพันธ์ของเขาและภรรยา เฟลิเซีย มอนเตเลเกร (Felicia Montealegre) นักแสดงหญิงที่รับบท แครีย์ มัลลิแกน (Carey Mulligan)
หนังเริ่มสตรีมมิงทาง Netflix มาตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 และเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักวิจารณ์ จนได้คะแนนบนเว็บไซต์ Rottentomatoes ไปถึง 80% นอกจากนั้น ทั้งคูเปอร์และมัลลิแกนยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แม้จะมีเสียงชื่นชมมากมาย แต่หนังก็ยังได้รับเสียงวิจารณ์ในเชิงลบอยู่ดี เมื่อมีกลุ่มผู้ชมจำนวนมากออกมาตำหนิเรื่องจมูกปลอมของคูเปอร์ บางคนลากโยงไปถึงเปรียบถึงเรื่อง ‘Blackface’ หรือการล้อเลียนคนผิวดำในเชิงดูถูกเหยียดหยาม แต่ในกรณีนี้ ครอบครัวเบิร์นสไตน์ก็ออกมาปกป้องคูเปอร์
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงทางภาพลักษณ์แล้ว ในฐานะที่ต้องรับบทเป็นวาทยากรระดับโลกเช่นนี้ คูเปอร์จึงต้องเรียนวิธีควบคุมวงออร์เคสตราให้ออกมาดูสมจริงอีกด้วย ซึ่งคูเปอร์ถึงกับต้องใช้เวลา 6 ปีในการเรียนเรื่องนี้ เพื่อใช้ในฉากที่ปรากฎในหนังเพียงแค่ 6 นาที 21 วินาทีเท่านั้น เหตุที่เขาต้องทุ่มเทเวลาถึงเพียงนี้ เพราะคูเปอร์ยอมรับว่าเขารู้สึกกังวลกับฉากนี้มาก
“ในการแสดงฉากนั้นผมรู้สึกกังวลมากเพราะเราแสดงสด”
“นั่นมันคือวง ลอนดอน ซิมโฟนี ออร์เคสตรา เลยนะ ผมบันทึกการแสดงสดจริง ๆ ซึ่งผมต้องควบคุมพวกเขาเองจริง ๆ แล้วผมใช้เวลา 6 ปี ในการเรียนรู้วิธีควบคุมวงเพื่อเวลาในหนัง 6 นาที 21 วินาที”
“ผมมีโอกาสได้ดูเทปที่ เล็นเนิร์ด เบิร์นสไตน์ ควบคุมวง ลอนดอน ซิมโฟนี ออร์เคสตรา ที่มหาวิหารอีลี ในปี 1976 ผมเลยจำเป็นต้องศึกษาวิธีการเหล่านี้”
คูเปอร์เล่าต่อไปว่าเขามี “ครูที่ยอดเยี่ยม” ก็คือ ยานนิค เนเซต-เซกวิน (Yannick Nézet-Séguin) ผู้อำนวยการวง Metropolitan Opera
“ผมรู้ตัวดีว่าผมกลัวมาก ผมกลัวถ้าผมไม่สามารถทำงานนี้ได้สำเร็จ ผมก็จะไม่สามารถรื่นรมย์ไปกับการแสดงฉากเหล่านี้ได้ ซึ่งทุกคนล้วนรู้สึกรื่นรมย์ไปกับมัน”
และการทุ่มเทอย่างใหญ่หลวงนี้ ก็ส่งผลให้ แบรดลียร์ คูเปอร์ ได้เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำชายเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ส่วน 3 ครั้งก่อนหน้านี้มาจากเรื่อง ‘Silver Linings Playbook’, ‘American Sniper’ และ ‘A Star Is Born’ นอกจากนั้นคูเปอร์ยังเคยเข้าชิงออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง American Hustle
ส่วนหนัง ‘Maestro’นั้น ได้เข้าชิงออสการ์ทั้งหมด 7 สาขา รวมไปถึงรางวัลใหญ่อย่าง ‘ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม’ และ ‘บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม’ พิธีประกาศผลในปีนี้จะมีขึ้นในคืนวันที่ 10 มีนาคม ที่ โอเวชัน ฮอลลีวูด