ปัจจุบันนี้ อีวาน แม็กเกรเกอร์ (Ewan McGregor) นักแสดงที่เรารู้จักกันดีจากการรับบทเป็นอาจารย์ โอบีวัน เคโนบี (Obi-Wan Kenobi) ในไตรภาคต้น (Prequel Trilogy) ของจักรวาล สตาร์ วอร์ส (Star Wars) มีลูก 5 คนด้วยกัน ประกอบไปด้วยลูกสาว 4 คน 2 คนแรกคือ คลารา แม็กเกรเกอร์ (Clara McGregor) และ เอสเธอร์ แม็กเกรเกอร์ (Esther McGregor)

รวมทั้งบุตรบุญธรรมชาวมองโกเลีย จามยัน แม็กเกรเกอร์ (Jamyan McGregor) และ อานูค แม็กเกรเกอร์ (Anouk McGregor) มาตอนช่วงที่เขาอยู่กับภรรยาคนแรก อีฟ มาฟรากิส (Eve Mavrakis) ส่วนตอนนี้เขาเพิ่งจะมีลูกชายคนสุดท้อง ลอรี แม็กเกรเกอร์ (Laurie McGregor) กับภรรยาคนปัจจุบัน แมรี อลิซาเบธ วินสเตด (Mary Elizabeth Winstead)

ซึ่งล่าสุดนี้ อีวานและลูกสาวคนโตอย่างคลารา วัย 28 ปี ที่กำลังได้ดิบได้ดีในการเป็นนางแบบและนักแสดง เพิ่งจะมีผลงานร่วมกันในหนังอินดี้ Road Movie เรื่อง ‘Bleeding Love’ (2023) ที่คลาราเป็น 1 ในทีมเขียนบท และยังร่วมแสดงกับพ่อของเธอ ในเรื่องราวที่เกี่ยวกับการออกเดินทางของพ่อที่เดินทางพาลูกสาวติดยาของเขาไปบำบัด และกำลังจะเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์

ล่าสุด อีวานและคลาราได้มาพูดคุยโปรโมตหนังเรื่องนี้กับ จิมมี คิมเมล (Jimmy Kimmel) ในรายการทอล์กโชว์ ‘Jimmy Kimmel Live!’ นอกจากจะมาเปิดเผยเบื้องหลังของหนังเรื่องนี้ที่น่าสนใจ อาทิ ตอนแรกเธอไม่ได้มีไอเดียอยากได้พ่อของเธอมาร่วมแสดง แต่อยากได้ นิโคลัส เคจ (Nicolas Cage) มากกว่า นอกจากนี้ คลารายังเล่าถึงประสบการณ์การดูผลงานการแสดงของพ่อในอดีต

Ewan McGregor The Pillow Book (1995)

คลารา: “ตอนที่ฉันยังเด็กมาก ๆ ฉันโตมากับ ‘Star Wars’ และที่โรงเรียนก็มีแฟนคลับมากมาย…”

อีวาน: “ตอนนั้นพ่อปล่อยให้ลูกดู ‘Moulin Rouge!’ (2001) ตั้งแต่ 9 ขวบ”

คลารา: “โอ้พระเจ้า…หนูยังจำได้เลย…”

อีวาน: “ตอนนั้นผมจำได้ว่าผมใส่แผ่น DVD ไว้คาเครื่อง แล้วผมก็ออกไปทำอย่างอื่นในบ้าน แล้วผมก็ได้ยินคลาราร้องไห้คร่ำครวญ แล้วก็กรี๊ด ผมก็แบบ… พ่อมาแล้ว ๆๆ พระเจ้า…พ่อขอโทษ ๆ แล้วเธอก็บอกว่าไม่ต้องปิดค่ะพ่อ ไม่เป็นไร เธอไม่อยากให้ผมปิดมันน่ะ”

คลารา: “ฉันจำได้ว่ามันทำให้ฉันซาบซึ้งมาก ๆ ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ฉันเคยดูเลย ใช่ แต่ฉันชอบมันมาก แต่มันทำให้ฉันร้องไห้เยอะมากตอนเด็ก ๆ “

แต่มีผลงานหนังของพ่อเรื่องหนึ่งที่เธอได้ดู นั่นก็คือ ‘The Pillow Book’ (1995) ผลงานหนังดราม่าอีโรติก กำกับโดย ปีเตอร์ กรีนอะเวย์ (Peter Greenaway) ซึ่งอีวานต้องรับบทเป็น เจอโรม นักแปลชาวอังกฤษ ที่มีความสัมพันธ์กับ นากิโกะ (วิเวียน วู – Vivian Wu) นางแบบชาวญี่ปุ่นที่กำลังออกตามหาประสบการณ์ทางเพศจากคู่รักหลายคู่ที่เธอได้พบเจอ

ในหนังเรื่องนี้ ทั้งอีวานและวู ต้องเปลือยร่างให้เห็นกันแบบหมดจด พร้อมกับการแสดงฉากอีโรติกที่มีความเป็นนู้ดที่ผสานงานศิลปะหลายแขนง ผสมกับเทคนิคการจัดแสง มุมกล้อง การใช้ Superimpose การจำลองภาพของเอเชียในอุดมคติ มากกว่าการขายฉากโป๊แบบโจ๋งครึ่ม และตัวหนังยังได้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ในปี 1996 ด้วย

ซึ่งถ้าเธอได้ดูคนเดียวในบ้านก็คงไม่น่าอึดอัดเท่าไหร่ แต่เธอต้องดูหนังเรื่องนี้ร่วมกับเพื่อน ๆ เพราะหนังเรื่องนี้ ถูกนำมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนวิชาเพศศึกษา

“ตอนนั้นฉันเรียนในระดับมัธยมปลาย ฉันเข้าห้องเรียนวิชาเพศศึกษา และครูของฉันก็เข้ามาหาฉัน ตอนนั้นประมาณปลายภาคเรียนแล้วล่ะ แล้วเขาก็บอกว่า ‘ฟังนะ คือครูมีหนังเรื่องหนึ่งที่มักจะใช้สอนเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร คือมันเป็นหนังที่พ่อของหนูแสดงน่ะ แล้วในนั้นก็มีฉากเปลือยอยู่บ้าง แต่ครูอยากให้หนูไปดูก่อนที่จะเอาไปดูในชั้นเรียน’ ซึ่งฉันก็ตอบว่า ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ได้คิดอะไรมากเรื่องนี้”

“แล้ว (พอเข้าห้องเรียน) ก็เปิดหนังดูกัน หนังเรื่องนั้นคือ ‘The Pillow Book’ ซึ่งเป็นหนังที่ยอดเยี่ยม แต่พอฉันต้องดูหนังเรื่องนั้นตอนอายุ 17 ปี กับเพื่อนชั้นมัธยมปลาย มันให้ฟีลเหมือนว่าพวกเขากำลังนั่งดูฉันที่กำลังนั่งดูหนังเรื่องนั้นมากกว่า”

คิมเมล: (ถามอีวาน) “คุณแสดงฉากเปลือยในหนังเรื่องนั้นเยอะไหมครับ ? “

อีวาน: “โคตรเยอะ…”

คลารา: “เปลือยแบบเห็นข้างหน้าเลย ตลอดเวลา!”

Ewan McGregor The Pillow Book (1995)

อีวาน: “มันเป็นหนังที่สวยงามนะครับ ครูของเธอเคยส่งอีเมลมาหาผมก่อนเหมือนกันเพื่อจะถามว่าเธอกำลังจะเอาสิ่งนี้ไปให้ลูกสาวคุณดูในชั้นเรียน คุณจะโอเคไหม ? ผมก็ตอบไปว่า ‘ผมไม่อยากเป็นเหตุผลที่จะไม่เปิดหนังเรื่องนั้นให้เด็ก ๆ ดูนะครับ เพราะมันเป็นหนังที่สวยงาม’ แล้วผมก็ย้ำอีกว่า ‘แต่คุณต้องรับประกันนะว่านักเรียนจะโตพอที่จะไม่เอาเรื่องนี้ไปล้อคลารา หรือทำให้เธอรู้สึกแย่’ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้ทำจริง ๆ “

แม้ว่าเธอเองจะไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้ และเพื่อน ๆ ของเธอไม่ได้เอาเรื่องนี้มาหยอกล้อ แต่เธอเองก็พบว่าเพื่อน ๆ ของเธอเองก็คงกระอักกระอ่วน คลารากล่าวถึงเพื่อนของเธอสั้น ๆ ว่า “ฉันคิดว่าพวกเขาก็คงรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยเหมือนกันนะคะ”


ที่มา: Entertainment Weekly, New York Post

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส