แม้ว่าจริง ๆ แล้ว ‘Eternals’ (2021) ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรพลังเทพเจ้า ผลงานการกำกับของผู้กำกับหญิงรางวัลออสการ์ โคลอี เจา (Chloé Zhao) ที่ออกฉายในช่วงเฟส 4 ของ MCU จะเป็นหนังที่ค่อนข้างออกไปทางเสียงแตก เพราะมีคนดูส่วนหนึ่งที่ชื่นชอบในความแปลกแตกต่างของหนังเรื่องนี้ ทั้งการถ่ายภาพทิวทัศน์ในสถานที่จริงได้ออกมาอลังการ CGI ที่ดูกลมกลืนเนียนตา เรื่องราวของมหากาพย์การกำเนิดอีเทอร์นอลส์ กลุ่มสิ่งมีชีวิตอมตะที่ได้รับหน้าที่ให้มาปกป้องโลกมนุษย์จากการรุกรานของเหล่าเดเวียนส์ (Deviants) เซเลสเชียล (Celestial) เผ่าพันธุ์ทรงพลังจากยุคโบราณ และตัวละครใหม่ ๆ อีกหลายตัว
แต่ในภาพโดยรวม หนังเรื่องนี้ก็ยังไปไม่ถึงความสำเร็จในวงกว้างอย่างที่หนัง MCU เคยเป็นมา ทำรายได้แบบพอคืนทุนที่ 402 ล้านเหรียญ ทำให้ตัวหนังได้คำวิจารณ์ในเชิงลบถึงปานกลาง ได้คะแนนฝั่งนักวิจารณ์จากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ฝั่งมะเขือเน่าที่ 47% และตัวหนังก็มักจะตกเป็นเป้าของการถูกวิจารณ์เกี่ยวกับความล้มเหลวของ MCU โดยเฉพาะเฟส 4 อยู่เสมอ ทำให้โอกาสที่จะมีภาคต่อในอนาคตจึงยังไม่ค่อยชัดเจน
แล้วไหนจะบรรดาตัวละคร และปมเรื่องที่ยังถูกทิ้งค้างและไม่ได้สานต่อ ทั้งตัวละครกลุ่มอีเทอร์นอลส์ที่มีชีวิตอยู่ เรื่องราวของเซเลสเชียล และบรรดาตัวละครใหม่ ๆ ใน End-Credit 2 ตัวที่ถูกกลืนหายไปกับ Multiverse Saga ไปแล้ว ทั้ง อีรอส (Eros) น้องชายของ ธานอส (Thanos) รับบทโดย แฮร์รี สไตล์ส Harry Styles) ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะไปปรากฏในหนังเรื่องไหนอีก และ เดน วิตแมน หรือ แบล็กไนต์ (Black Knight) ที่มีอัปเดตล่าสุดว่า น่าจะไม่ได้ไปต่อกับหนังเดี่ยว ‘Blade’ ฉบับของ MCU เหมือนอย่างที่ลือกัน
นอกจากผลกระทบจากคำวิจารณ์ที่มีต่อตัวสตูดิโอโดยตรงแล้ว สะเก็ดคำวิจารณ์เหล่านั้นก็ยังกระเด็นมาถึงเหล่าบรรดานักแสดงจากหนังเรื่องนี้อีกต่างหาก ล่าสุด คูเมล นานจิเอนี (Kumail Nanjiani) นักแสดงหนุ่มเชื้อสายอเมริกัน-ปากีสถาน เจ้าของบทบาท คิงโก (Kingo) อีเทอร์นอลส์ผู้ผันตัวไปเป็นดาราบอลลีวูด ได้ออกมาบอกเล่าถึงความเจ็บปวดจากคำวิจารณ์จากหนังเรื่องนี้ที่เขาต้องเผชิญมาตลอด จนทำให้เขาถึงกับต้องเข้ารับการปรึกษากับจิตแพทย์ ในพอดแคสต์ ‘Inside of You with Michael Rosenbaum’
นานจิเอนีเปิดใจว่า แม้เขาจะยังคงภูมิใจในหนังเรื่องนี้ ทั้งในแง่ของการทำงาน และทั้งในแง่ของผลงาน “ผมคิดว่าถ้าหนังเรื่องนี้เข้าฉายในโรงหนัง มันจะฮิตมากแน่ ๆ ผมได้ทำงานกับผู้กำกับรางวัลออสการ์ หนึ่งในผู้กำกับที่บ้าที่สุด มีนักแสดงที่เป็นตำนานทั้ง แองเจลินา โจลี (Angelina Jolie), ซาลมา ฮาเย็ก (Salma Hayek), แล้วก็มีหน้าใหม่ที่น่าทึ่ง ไบรอัน ไทรี เฮนรี (Brian Tyree Henry), แบร์รี คีโอแกน (Barry Keoghan) ผมคิดว่ามันจะออกมาปังแน่นอน การเข้าไปร่วมในนั้นมันยอดเยี่ยมมากสำหรับผม เพราะผมคิดว่ามันจะออกมาสนุกกับการแสดงหนังเรื่องนี้แน่ ๆ “
“ผมมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำงานกับหนังเรื่องนั้น และผมรู้ว่านี่แหละคือความรู้สึกของการทำงาน แต่ยังไงก็ตาม เมื่อภาพยนตร์ออกฉาย และบทวิจารณ์ไม่ดี มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับม และผมก็ตระหนักว่า สิ่งที่ผมคาดหวัง มันขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากสิ่งที่คนอื่นคิดกับมันนั่นเอง”
แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ก็ทำให้หนังเรื่องนี้ต้องพบกับคำวิจารณ์ที่ถาโถมมาอย่างรวดเร็ว “ตอนนั้น Marvel คิดว่าคำวิจารณ์หนังเรื่องนี้น่าจะออกมาดี เพราะฉะนั้น พวกเขาเลยขยับ Embargo (วันที่สตูดิโอกำหนดให้นักวิจารณ์เผยแพร่บทวิจารณ์หนังได้) เลื่อนขึ้นมาเร็วขึ้น แล้วพวกเขาก็ส่งหนังไปตามเทศกาลหนังต่าง ๆ และส่งพวกเราไปทัวร์โปรโมตทั่วโลกเพื่อโปรโมตหนังเรื่องนี้ในวันที่คำวิจารณ์ถูกปล่อยออกมาแล้ว”
“แล้วบทวิจารณ์มันออกมาแย่มาก ๆ เลย และผมก็อ่านมันมากเกินไปด้วย ผมอ่านทุกบทวิจารณ์และตรวจสอบกับมันมากเกินไป สิ่งเหล่านั้นเข้ามาในหัวของผมมากเกินไป แล้วมันเป็นช่วงหลังการระบาดด้วย ผมคิดว่ามันเริ่มมีอะไรแปลก ๆ อยู่ว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงโดนโจมตีมากขนาดนั้น และผมก็คิดว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคุณภาพหนังที่แท้จริงมากนัก มันเป็นอะไรที่ยากมาก ๆ และผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับผม และภรรยา (เอมิลี กอร์ดอน – Emily Gordon) เลย ผมคงไม่สามารถทำงานแบบนี้ต่อไปได้แน่ ๆ มีอะไรที่แม่-ต้องเปลี่ยนจริงจังแล้วล่ะ ผมเลยเริ่มปรึกษากับจิตแพทย์”
“และตอนนี้ผมก็ยังปรึกษาจิตแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ผมเข้ารับการปรึกษาอย่างเคร่งครัดมาก ๆ เอมิลีบอกว่า ผมมีความบอบช้ำทางจิตใจจากเรื่องนี้ จริง ๆ แล้วผมกับเอมิลีเพิ่งไปกินข้าวเย็นกับนักแสดงคนอื่น ๆ ในหนังเรื่องนี้ แล้วเราก็ต่างพูดกันว่า ‘มันเป็นอะไรที่ยากมากใช่มั้ยล่ะ’ และพวกเขาก็บอกว่า ‘ใช่ มันยากมากจริง ๆ ‘ ผมคิดว่าเราทุกคนก็เคยผ่านเรื่องทำนองนี้กันมาแล้ว”
ที่มา: Entertainment Weekly, New York Post
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส