แปลกแต่จริง ว่าผู้กำกับนามไม่คุ้นหูอย่าง อลัน สมิธธี (Alan Smithee) คือ คนเดียวกับคนที่เคยกำกับหนังไต่สวนในศาลสุดคลาสสิกที่เด็กเรียนฟิล์มต้องเคยดูอย่าง 12 Angry Men (1957) เคยดัน อัล ปาชิโน ให้เข้าชิงออสการ์นำชายในบทที่กลายเป็นมาสคอตหลังรถบรรทุกบ้านเราอย่าง Serpico (1973) และกำกับหนังเข้าชิงออสการ์อย่าง Mulholland Dr. (2001) นอกจากนี้ยังเคยเขียนบทหนังอาชญากรรมสุดระทึกอย่าง Heat (1999) และหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Spider-Man 3 (2007) ด้านการแสดงเขายังเคยแสดงบทสำคัญในหนังสงครามคลาสสิกอย่าง Apocalypse Now (1979) ตัวร้ายนักวางระเบิดใน Speed (1994) และหนึ่งในตัวสำคัญของทีวีซีรีส์เรื่อง 24 (2001-2010) ด้วย
ย้อนประวัติกลับไปก่อนปี 1968 สมาคมผู้กำกับหนังแห่งอเมริกา หรือ Directors Guild of America (ย่อว่า DGA) ได้ออกกฎที่บังคับให้ผู้กำกับทุกคนต้องใช้ชื่อจริงในผลงานตนเอง ทั้งนี้ด้วยปรัชญาที่นิยมในยุคนั้นว่า ผู้กำกับหนังคือศิลปินผู้สร้างงานหนังอย่างแท้จริง ไม่ต่างจากแวดวงวรรณกรรมที่นักเขียนเป็นเจ้าของผลงานหนังสือต่าง ๆ (ลองหาเพิ่มเติมเรื่อง Auteur Theory หรือทฤษฎีประพันธกร) ดังนั้นชื่อของผู้กำกับดัง ๆ จึงถูกเอามาใช้โปรโมทหนังเรื่องใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะคนเชื่อถือชื่อเสียงและผลงานเก่า ๆ ซึ่งวัฒนธรรมนี้ก็ยังส่งมาถึงปัจจุบันนะครับ เห็นได้จากโปสเตอร์หนังต่าง ๆ แม้ว่าปรัชญาเรื่องศิลปินเจ้าของหนังตัวจริงจะไม่ค่อยมีใครเอาเป็นจริงเป็นจังแล้วก็ตาม
คราวนี้มันเกิดปัญหาขึ้นกับหนังเรื่องหนึ่งครับ คือเรื่อง Death of a Gunfighter (1969) ที่ตอนแรกนั้นกำกับโดยผู้กำกับ โรเบิร์ต ทอตเตน แต่ระหว่างที่ถ่ายทำไปได้แล้ว 25 วัน นักแสดงนำอย่าง ริชาร์ด วิดมาร์ค เกิดไม่พอใจตัวผู้กำกับอย่างแรง ซึ่งเทียบชื่อเสียงความดังแล้ววิดมาร์คที่เคยได้รางวัลลูกโลกทองคำย่อมสำคัญกว่าผู้กำกับหนังทีวีอย่างทอตเตนเอามาก ๆ ในมุมมองของสตูดิโอ ทอตเตนจึงต้องเป็นฝ่ายออกจากโปรเจ็กต์นี้ไป และผู้กำกับที่ถูกเลือกมาแทนก็คือยอดฝีมือ ดอน ซีเกล ที่ภายหลังมีผลงานตัวท็อปอันน่าจดจำอย่าง Dirty Harry (1971) นั่นเอง
ถามว่าเรื่องการที่หนังถูกเปลี่ยนผู้กำกับกลางคันเคยเกิดขึ้นมาก่อนไหม? จริง ๆ คือเกิดขึ้นมานับไม่ถ้วนครับ ทว่าที่เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ไม่เคยเกิดมาก่อนก็คือ หลังจากดอน ซีเกล ถ่ายหนังไปราว 10 วัน และเอามาตัดต่อจนหนังเสร็จสมบูรณ์ ดอน ซีเกลก็พบว่าหนังต้องใช้ฟิล์มฟุตเทจจากของเขาและทอตเตนเกือบจะครึ่ง ๆ เท่ากัน ดังนั้นด้วยเกียรติเขาจึงขอปฏิเสธการรับเครดิตในหนังเรื่องนี้เพียงลำพัง ซึ่งอีกทางหนึ่งทอตเตนเองก็ไม่อยากให้ใช้ชื่อตัวเองเพราะหนังถูกขโมยไปจากมือเขาตั้งแต่กลางทาง ทำให้หนังเรื่องนี้จึงไม่มีชื่อผู้กำกับ ร้อนไปถึง DGA เลยต้องออกมาไกล่เกลี่ยและสุดท้ายก็ได้ชื่อสมมติขึ้นมาใช้แทนผู้กำกับทั้งสอง คือ อลัน สมิธธี นี่เอง
อันนี้ไม่ยืนยันนะครับ แต่เชื่อกันว่า อลัน สมิธธี นี้เป็นการเล่นสับตัวอักษรจากคำว่า The Alias Men หรือแปลได้ว่า กลุ่มคนนามสมมติ แต่อีกทางหนึ่งก็เชื่อว่าเลือกมาจากชื่อทั่วไปที่มีใช้กันเยอะ เนื่องจากไอ้ชื่อ Alan Smith นี้เป็นหนึ่งในชื่อโหลของวงการที่มีคนในฮอลลีวูดชื่อนี้ให้พรึ่บ ทาง DGA อยากให้ทราบความต่างเลยมีการเติมตัว e ลงท้ายเพิ่มอีกตัวให้สามารถแยกแยะได้ เป็นที่มาของ Alan Smithee ซึ่งบางทีก็สะกดเพี้ยนเป็น Allen Smithee บ้างก็มี แต่ก็เข้าใจได้ว่าคือนามแฝงเดียวกัน
ผลตอบรับของหนัง Death of a Gunfighter ออกมาค่อนข้างได้รับคำชื่นชมพอสมควรทีเดียว นักวิจารณ์หลายคนที่ไม่ทราบก็พูดว่า ผู้กำกับหน้าใหม่คนนี้ฝีมือน่าสนใจทีเดียว ดอน ซีเกล เองยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเคยแนะนำเพื่อนที่อยากเป็นผู้กำกับหนัง ให้เปลี่ยนมาเป็นชื่อ อลัน สมิธธี เพื่อสร้างโอกาสได้ทำหนังที่เข้าวงการได้ยากแสนยาก โดยอาศัยจากชื่อเสียงของหนังเรื่องนี้ด้วยซ้ำ แต่ต่อมาส่วนใหญ่เรามักจะเข้าใจว่ามันต้องเป็นหนังที่มีปัญหามากกว่าดี เพราะ อลัน สมิธธี กลายเป็นเครื่องมือให้ DGA ช่วยเหลือสมาชิกหรือผู้กำกับหนังอเมริกาที่ประสบปัญหากับตัวหนังจากการถูกแทรกแซงของสตูดิโอหรือเหตุอื่น ๆ ที่ไม่เก่ียวกับฝีมือของผู้กำกับนั้น ๆ เพื่อให้รักษาชื่อเสียงที่ดีเอาไว้ได้ ดังนั้นไม่ใช่ใครก็จะใช้ชื่อนี้ได้นะครับต้องขออนุญาตต่อ DGA เป็นกรณี ๆ ไป
ถ้าลองไปดูชื่อหนังที่ใช้ชื่อนี้กำกับจะเจอเรื่อง Fade-In (1968) ที่มาก่อนหนัง Death of a Gunfighter ด้วย นั่นก็เพราะผู้กำกับอย่างจัด เทย์เลอร์ ได้ร้องขอสมาคมให้เปลี่ยนชื่อในภายหลังถึงสองผลงานที่เขาไม่อยากจำทั้ง Fade-In และ City in Fear (1980) ด้วย และกรณีที่ขอสมาคมแล้วไม่ได้รับการอนุญาตก็มีครับ ที่โด่งดังเลยคือ American History X (1998) ที่ผู้กำกับ โทนี เคย์ มีปัญหาออกข่าวใหญ่โตถึงความไม่ลงรอยในการตัดต่อหนังฉบับสมบูรณ์กับทางสตูดิโอและนักแสดงนำอย่าง เอ็ดเวอร์ด นอร์ตัน จนถึงขั้นจะขอถอนชื่อออก แต่เมื่อร้องขอไปที่สมาคมแล้วกลับถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ของผู้คนโดยกว้างแล้วการใช้ชื่อปลอมในครั้งนี้ไม่สามารถช่วยรักษาชื่อเสียงของเคย์ได้อยู่ดี
เป็นว่าได้รู้จักผู้กำกับชื่อ อลัน สมิธธี กันแล้ว เวลาไปเจอชื่อนี้ในหนังเรื่องไหนก็เอาไปคุยได้ระดับหนึ่งเลยครับ ในตอนต่อไปสัปดาห์หน้าเราจะมาดูกันว่าแล้วมีคนดังคนไหนเคยใช้ชื่อปลอมนี้ จุดจบของชื่ออลัน สมิธธีในยุคปัจจุบันเกิดจากอะไร และมีชื่อปลอมไหนอีกที่น่าสนใจในฮอลลีวูด ต้องติดตามกันใน ไม่ต้องรู้ก็ได้แต่เท่: Alan Smithee ผู้กำกับที่ฮอลลีวูดเกลียดขี้หน้าที่สุด (ตอนจบ) วันพฤหัสหน้าทาง What The Fact ได้เลยครับ