แจ็ค สแปร์โรว กลับมาผจญภัยอีกครั้งเพื่อตามล่าศาตราวุธศักดิ์สิทธิ์เข้าต่อกรกับปีศาจร้าย
เพื่อช่วยลบคำสาปของผู้เป็นพ่อ เฮนรี เทอร์เนอร์ (เบรนตัน ทเวทส์) จำต้องออกตามหา ตรีศูล ศาสตราวุธอันเป็นที่หมายปองของเหล่าโจรสลัดและนักเดินเรือทั่วท้องทะเล แต่งานนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อได้เข็มทิศของ กัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ (จอห์นนี่ เด็ปป์)โจรสลัดขี้เมา และอาศัยฝีมือการอ่านแผนที่ดวงดาวจาก คารินา สมิธ (คายา สโคเดลาริโอ) สาวกำพร้าที่ออกตามหารากเหง้าตัวเอง แต่นอกจากคลื่นลมและสภาพเรือแล้ว แจ็ค สแปร์โรว์และพรรคพวกยังต้องต่อกรกับไฟแค้นของกัปตัน ซาลาซาร์ (ฆาเวียร์ บาร์เด็ม)อสูรต้องสาปผู้หมายล้างบางเหล่าโจรสลัด และ กัปตันบาร์บอสซา (เจฟฟรีย์ รัช) มิตรรักคู่อาฆาตของแจ็คที่หมายปองในตรีศูลเช่นเดียวกัน
ก่อนดูไปทบทวนความหลังกับสรุปเรื่องเรื่อง Pirates of the Caribbean 4 ภาคก่อนหน้านี้
เดิมพันครั้งใหญ่ของโปรดิวเซอร์ของ เจอรี่ บรัคไฮเมอร์
การเดินทางของหนังชุด Pirates of the Caribbean ใน 4 ภาคที่ผ่านมา ถือเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จที่สุดของโปรดิวเซอร์หนังแอ็คชั่นมือทองอย่าง เจอรี บรัคไฮเมอร์ และทำให้เขายังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับดิสนีย์ โดยสูตรสำเร็จที่ทำให้หนังดัดแปลงจากเครื่องเล่นในดิสนีย์แลนด์ชุดนี้ประสบความสำเร็จคือการปลุกวิญญาณโจรสลัดแห่งท้องทะเลพาผู้ชมผจญภัยไปกับ แจ็ค สแปร์โรว์ กัปตันขี้เมาที่กลายเป็นภาพจำของนักแสดงหนุ่ม จอห์นนี่ เด็ปป์ ผสมผสานกับเรื่องราวความรักต่างฐานะของ วิล เทอร์เนอร์ และ อลิซาเบธ สวอนน์ ที่ได้พ่อหนุ่มเลโกลัสจากหนังพันธมิตรแห่งแหวนอย่าง ออร์แลนโด บลูม และ เป็นบทสร้างชื่อให้ทั่วโลกได้รู้จักกับสาวสวยแม่กุหลาบแห่งเกาะอังกฤษอย่าง เคียร่า ไนท์ลีย์ จนทำให้หนังภาคแรกในชื่อตอน The Curse of The Black Pearl ออกฉายในปี 2003 ประสบความสำเร็จอย่างดีจนมีภาคต่อตามมาอีก 2 ภาคในปี 2006 และ 2007 กลายเป็นหนังไตรภาคโจรสลัดกับคู่รักแห่งอังกฤษภายใต้การกำกับของ กอร์ เวอร์บินสกี้ และทิ้งช่วงห่างไปอีก 4 ปี เจอรี บรัคไฮเมอร์ ก็นำภาค 4 ออกฉายในชื่อตอน On Stranger Tides โดยให้ผู้กำกับหนังเพลงออสการ์เรื่อง Chicago อย่าง ร็อบ มาร์แชล มากุมบังเหียนนำแจ็ค สแปร์โรว์กลับมาผจญภัยหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัยโดยทิ้งเรื่องราวของครอบครัวเทอร์เนอร์ ซึ่งหนังก็ถูกสับจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั้งบทหนังที่มีช่องโหว่และมุกตลกของตัวละครแจ็ค สแปร์โรว์ที่เริ่มฝืดเฝือ ดังนั้นการกลับมาในภาคที่5 ตอน Dead Men Tell No Tale หรือบ้านเราใช้ชื่อตอน Salazar’s Revenge จึงถือเป็นเดิมพันครั้งใหญ่ทั้งต่ออนาคตของหนังโจรสลัดชุดนี้และอาชีพโปรดิวเซอร์ของ เจอรี่ บรัคไฮเมอร์ อีกครั้ง
กลับสู่เรื่องเล่าสูตรยอดนิยม
โชคดีที่บทหนังของ เทอรี่ รอสซิโอ ที่อยู่กับหนังชุดนี้มาตั้งแต่ภาคแรกกับ เจฟฟ์ นาธานสัน ที่ดิสนีย์วางตัวให้เขียนภาคหกของ Pirates of The Caribbean และ The Lion King ภาคหนังไลฟ์แอ็คชั่น กลับไปหารากเหง้าเดิมที่ทำให้คนดูตกหลุมรักหนังชุดนี้ทั้งการกลับไปสานต่อเรื่องราวของวิล เทอร์เนอร์ มาผสมผสานกับการผจญภัยครั้งใหม่ สร้างตัวละครผู้ร้ายที่น่ากลัวมากขึ้น และฉลาดพอที่จะวาง แจ็ค สแปร์โรว์ ให้กลับเป็นตัวละครสมทบตามเดิม แถมนำความโรแมนติก แบบหนังภาคแรกมาใส่ให้ตัวละครที่แทบเป็นร่างทรงของ วิล และอลิซาเบธ อย่าง เฮนรี และ คารินา เพียงแต่นำเสนอให้เป็นแบบหนังโรแมนติก แบบตลกถกเรื่องเพศ หรือ Screwball Comedy แต่กระนั้นบทหนังก็ยังไม่ลืมที่จะใช้ประโยชน์จากตัวละครที่เป็นอัตลักษณ์ของหนังโจรสลัดชุดนี้ โดยเฉพาะการใส่ฉากลานประหารที่ทำให้คนดูทั้งขำทั้งเสียวแทนแจ็ค สแปร์โรว์ที่ต้องเอาคอหลบให้พ้นกิโยตินที่หลุดมาจากแท่นประหารซึ่งฉากนี้นำเสนอออกมาได้บันเทิงมากพอจะกลบช่วงที่แจ็ค สแปร์โรว์พยายามเล่นมุกคนเมาน่ารำคาญก่อนหน้านี้ได้ดีทีเดียว
ลองของใหม่กับผู้กำกับนอกฮอลลีวูด
สำหรับผู้กำกับภาคนี้อาจถือเป็นการลองของใหม่ก็ว่าได้อย่าง โจคิม รอนนิง และ เอสเพ็น แซนเบิร์ก ที่เคยกำกับ KON-TIKI หนังเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศจากนอร์เวย์ ปี 2012 ที่เกี่ยวกับการล่องแพของนักสำรวจชาวนอร์เวย์ในมหาสมุทรแปซิฟิกในปี 1947 มาคอยเป็นไต๋ก๋งพานาวา Pirates of the Caribbean ล่องมหาสมุทรเป็นคำรบที่5 ซึ่งทั้งคู่ก็สามารถควบคุมจังหวะการเล่าเรื่องได้อย่างลื่นไหลและลงตัว ทั้งการนำเสนอการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น ผสมฉากเขย่าขวัญที่ทำเอาลุ้นไม่ติดเบาะ และการสร้างบรรยากาศโรแมนติกของหนุ่มสาวที่ช่วยเติมความหวานให้เรื่องราวได้อย่างลงตัว ถือเป็นการคืนชีพและสานต่อแฟรนไชส์ให้กลับมาน่าติดตามอีกครั้งได้ดีทีเดียว
จอห์นนี่ เด็ปป์ เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนุ่มหล่อสาวสวย
ในด้านนักแสดง ถือเป็นโชคดีของ จอห์นนี เด็ปป์ ที่บทหนังภาคนี้ทำให้แจ็ค สแปร์โรว์ ออกมาในสัดส่วนที่ไม่เด่นจนน่ารำคาญแต่ไม่ได้ถูกละเลยจนมองไม่เห็น มิหนำซ้ำยังมีฉากที่ทำให้คนดูได้หัวเราะและเอาใจช่วยเขาได้ไม่แพ้ภาคแรกๆเลยทีเดียว ส่วนเจฟฟรีย์ รัช ก็กลับมาสานต่อบทบาทกัปตันบาร์บอสซ่าได้อย่างมีสีสันไม่น้อย และคงไม่ต้องพูดถึง ฆาเวียร์ บาร์เด็ม ที่ซีจีหน้าเละยังไม่เท่าการแสดงออกทางสายตาที่เพิ่มความน่ากลัวให้ตัวละครได้อย่างสุดพลัง ส่วน ในด้านโรแมนติก หนังทำให้คนดูฟินไม่น้อยเนื่องจากได้นักแสดงหน้าตาดีทั้งหนุ่ม เบรนตัน ทเวทส์ หรือพ่อณเดชแห่งหนังสงครามเทวดา God of Egypt มาประกบสาวสวยลูกครึ่งอังกฤษ-บราซิลอย่าง คายา สโคเดลาริโอ จากหนังชุด The Maze Runner และซีรีส์ต้นแบบฮอร์โมนวัยว้าวุ่นอย่าง SKINS โดยทั้งคู่ก็ขยันบริหารเสน่ห์ใส่คนดูและยังแสดงคู่กันได้อย่างน่ารักน่าชังอีกด้วย
สำหรับแฟนของ Pirates of the Caribbean น่าจะบันเทิงกับภาคนี้ได้ไม่ยาก ด้วยส่วนผสมที่คุ้นเคยไม่ระคายลิ้น แถมยังสามารถแนะนำคนที่ไม่เคยดูให้มาลองผจญภัยกับโจรสลัดขี้เมาและเหล่าลูกเรือสุดเพี้ยนที่ทั้งขำทั้งระทึก ด้วยฉากน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย รับรองว่าคุ้มค่าตั๋วแน่นอนครับ