เพิ่งแนะนำกันไปกับเพลงใหม่ของ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข กับเอ็มวีที่เป็นผลงานของทีม Hello Filmmaker ที่เคยมีผลงานเด่น ๆ มาแล้วทั้งงานเอ็มวี งานไวรัล งานหนังสั้น งานโฆษณา และยังเป็นการกลับมาร่วมงานกับแสตมป์อีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้เคยทำเอ็มวีเพลง ให้ตายสิพับผ่า กันมาแล้ว ความน่าสนใจของเอ็มวีใหม่นี้คงเป็นคอนเซ็ปต์ที่ว่า พลังของสิ่งที่มองไม่เห็น และสัญญะต่าง ๆ ที่สอดแทรกตลอดการเล่าเรื่อง วันนี้ WTF เลยเอาสัญญะที่เห็นมาตีแผ่แบบสุดสยิวกัน
- การปรากฏตัวของ ทู สิราษฏร์ อินทรโชติ พระเอกจากหนังสั้น The Only One ที่น่าจะเป็นภาพจำหนึ่งของทีม Hello Filmmaker ก็มาเป็นคามิโอ แสดงลายเซ็นของทีมงานนั่นเอง นอกจากนี้การจ้องมองยังถูกเอามาใช้อย่างต่อเนื่องในเอ็มวีนี้ ก็เป็นการแสดงนัยยะทางเพศที่กระทำต่อเพศตรงข้ามด้วย
- นางเอกปรากฏตัวในชุดสีแดง ที่ใคร ๆ ต้องเหลียวมองในความสวย สีแดงในหนังยังถูกใช้เพื่อแสดงถึงความดึงดูดทางเพศ ความรัก ความลุ่มหลง แล้วยังหมายถึงความอันตรายได้อีกด้วย
- ผู้ชายที่สะดุดบันไดเลื่อนขณะเลื่อนขึ้น แสดงถึงการเจริญขึ้นด้วยปัญญาแต่ก็ต้องถูกขัดขวางด้วยอุปสรรค
- ผู้ชายที่นั่งเล่นมือถือตรงบันไดก็เช่นกัน แสดงถึงความสวยงามของเธอนั้นสามารถดึงความสนใจไปจากมือถือที่คนปัจจุบันสนใจมากที่สุด จนเกิดเป็นสังคมก้มหน้าได้ด้วย
- แสตมป์นั่งมองดูมอนิเตอร์ ถึงกับตะลึงมอง ตรงนี้มุมกล้องเลือกพยายามซ่อนแหวนแต่งงานที่มือซ้ายด้วย อืม…ไม่เอา ๆ อย่าแปลเลย เดี๋ยวพี่แสตมป์จะมีปัญหาครอบครัว 555 แต่สแตมป์ก็เป็นตัวแทนของคนมีครอบครัวที่เป็นแฟมิลี่แมนได้ด้วยล่ะนะ
- แกฟเฟอร์ (ช่างจัดไฟกองถ่าย) ยืนแบบย้อนแสงทำให้หน้ามืดแสดงความหมกมุ่นลุ่มหลง ซึ่งคนทำงานด้านการจัดแสงให้สว่างยังถึงกับหน้ามืดได้แสดงว่าความสวยเธอนั้นมีมากขนาดนั้น ส่วนกระจกพร่ามัวก็แสดงถึงความลุ่มหลง และการแอบมองได้ด้วย
- กล้องโลมไล้ตามนางเอกที่กำลังคลานขึ้นเบาะในเพลงท่อนที่ร้องว่า..I will follow..(จะตามเธอ) ตรงนี้มีทฤษฎีของฝั่งสตรีนิยมอธิบายถึงการที่ดาราผุ้หญิงมักตกเป็นวัตถุทางเพศที่ถูกกล้องโลมเลียแทนสายตาเพศชาย ซึ่งมีมากในหนังยุคฮอลลีวูดคลาสสิกด้วย นอกจากนี้จะเห็นว่ามีโปสเตอร์ Dangerous World Tour in Bangkok ของราชาเพลงป๊อปอย่าง ไมเคิล แจ๊คสัน ด้วย ก็หมายถึงอันตรายในการลุ่มหลง และยังสื่อถึงความนิยมแบบฉาบฉวย (ป๊อป) ด้วย
- แสตมป์ (นั่งซ้าย) ผู้ช่วยผู้กำกับ (นั่งกลาง) ผู้กำกับ (นั่งขวา) และเหล่าทีมงานเบื้องหลังที่อยู่เหนือความมายาของหนังเอ็มวีนี้ก็ยังต่างหลงตะลึง ฉากนี้ยังมีลมพัดใส่คนมองเป็นครั้งแรกด้วย ลมเป็นสัญญะของการลุ่มหลง ราวเสียงลมกระซิบของปีศาจ
- ภาพวาด The Birth of Venus วีนัสจัดเป็นเทพีแห่งความงาม ด้านซ้ายคือเทพลมตะวันตกผู้นำสู่ฤดูใบไม้ผลิอันแสนอบอุ่นนาม เซฟไฟร์ (Zephyr) จะเห็นว่ากำลังอุ้มกอดคนรักแต่ก็ยังเป่าลมมอบแก่วีนัสผู้งดงามด้วย
- เจ้าหน้าที่ตำรวจ รปภ. คนในเครื่องแบบ อาชีพที่เคร่งในวินัยก็ไม่อาจหลุดรอดเสน่ห์นี้ไปได้
- พระสงฆ์กับดอกบัวผลิบาน แสดงการ “ตื่น” รู้ อย่าแปลเพิ่มเลยเดี๋ยวดราม่า 55
- ใบเมเปิ้ล เป็นสัญญะถึงปัญญา ความรัก แต่ในเอ็มวีเป็นใบที่ร่วงหล่นก็คงหมายถึงการทำงานที่ลดลงของปัญญา ปล่อยความหลงให้ควบคุมกายใจ
- ม้ายูนิคอร์น ในตำนานที่เล่าสืบกันมาเชื่อว่าสาวพรหมจารีเท่านั้นจึงจะสามารถหัดให้ยูนิคอร์นเชื่องได้ แต่นี่ม้าคึกมาก 555 แถมเขาของยูนิคอร์นยังเด่นยาว แสดงถึงอวัยวะเพศชาย หรืออาจแปลถึงความฝันแฟนตาซีก็ได้เช่นกัน
- คลื่นน้ำซัดสาด น้ำก็ถูกเปรียบเป็นสัญญะของกามาในหลายบริบทอยู่แล้ว
- เด็กนักเรียนกับฉากบอลตุงประตู อันนี้เอามาล้อจากข้อสอบสุดดราม่าในตอนนู้น ไม่ต้องแปลเนอะ ไปเตะบอลกัน
- ต้นไม้โด่เด่กลางดวงอาทิตย์ลุ่มร้อน พลุที่แตกกระจายสวยงาม และจรวดที่กำลังพุ่งทะยาน ……มาเป็นฉาก Erection ทีเดียว จินตนาการกันไปสิ
- ผู้ชายใส่เสื้อ I want to ride… ฉันอยากขี่.. และแท่งบุหรี่ยังแสดงนัยยะทางเพศชายด้วย
- ตอนจบผู้ชายที่นอนเหงื่อซึมบนเตียง หันหน้ามามองนางเอกและนางเอกถามว่ารักเธอเพราะอะไร อันนี้ชัดเจน หลังเขาเสร็จกิจกรรมบางอย่างแล้ว ความหมกมุ่นลุ่มหลงของผู้ชายก็ลดลง เรียกว่าสติมาปัญญาเกิดพอเจอคำถามแบบความสัมพันธ์ที่จริงจังแบบนั้นเลยไม่กล้าตอบ แน่ะจบได้คิดนะเนี่ย
อาจจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยได้นะครับ สำหรับสัญญะบางอันเพราะก็แล้วแต่ประสบการณ์และการตีความของแต่ละคน แต่อย่างหนึ่งที่บอกได้คือ เอ็มวีเพลงนี้คิดมาละเอียดมาก ไม่ใช่ว่าใส่ภาพหรือเรื่องราวตามอำเภอใจแน่ ๆ คงตั้งใจสื่อถึงเรื่องทางเพศแบบเลี่ยงหลบอย่างฉลาด ทำให้นึกถึงฉากในตำนานของหนัง อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก เรื่อง North by Northwest (1959) ที่ใช้ฉากรถไฟเข้าอุโมงค์แทนฉากร่วมรักที่เป็นเรื่องต้องห้ามบนจอได้อย่างมีชั้นเชิง ก็ต้องขอชื่นชมเลยครับ จรวดทะยานมาก ๆ