[รีวิวซีรีส์] ‘Love Alarm แอปเลิฟเตือนรัก’ เมื่อเรารับรู้ความรู้สึกใครอีกคนได้ในระยะ 10 เมตร

Our score

7.6

Love Alarm แอปเลิฟเตือนรัก

จุดเด่น

นักแสดงหลักเล่นออกมาได้มีเสน่ห์และน่ารักมากๆ
การดำเนินเรื่องชวนติดตามทุกตอน
ด้านโปรดักชั่นทั้งบรรยากาศและองค์ประกอบในภาพออกแบบมาอย่างดี ทำให้ราเชื่อทุกในเหตุกาณ์ในเรื่องว่ามันเกิดขึ้นจริง

จุดสังเกต

ยังมีความไม่สมเหตุสมผลของบทอยู่บ้างในบางจุด
ถ้าใครไม่ชินกับการแสดงในแบบของเกาหลี จะแอบมีความรู้สึกว่ามันโอเวอร์แอ็กติ้งไปหน่อยในบางฉาก

คุณภาพงานสร้าง

7.0
คุณภาพนักแสดง

8.0
ตรรกะความสมบูรณ์ของบท

7.0
ความสนุกน่าติดตาม

9.0
คุ้มเวลา ค่าตั๋ว

7.0

“…หากแอปแจ้งเตือนความรู้สึกได้ ความรักจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นจริง ๆ เหรอ?”

Play video

เพิ่งมีงานเปิดตัวไปได้ไม่นานสำหรับ ‘Love Alarm แอปเลิฟเตือนรัก’ ซีรีส์เกาหลีกระแสปังที่กำลังมีกระแสหนักมากในบ้านเราตอนนี้ แต่เดิม Love Alarm คือการ์ตูนออนไลน์ชื่อดังบนเว็บไซต์การ์ตูนอย่าง WEBTOON เขียนโดยนักวาดการ์ตูนมากฝีมืออย่าง ชอนกเยยอง ซึ่งถือว่า Love Alarm เป็นการ์ตูนที่มีผู้ติดตามอ่านมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ทั้งพล็อตเรื่องที่ใหม่และน่าสนใจของ Love Alarm จึงไปเตะตาผู้สร้างและถูกนำมาต่อยอดเป็นซีรีส์ไลฟ์แอ็กชัน ผ่านการกำกับโดยผู้กำกับคนเก่งอย่าง อีนาจอง ผู้กำกับสาวเกาหลีใต้ที่มีผลงานมาแล้วมากมาย แถมคราวนี้ยังได้ทีมนักแสดงรุ่นใหม่กระแสแรงอย่าง คิมโซฮยอน , จองการัม และซงคัง ที่เราแสนจะคุ้นหน้าคุ้นตาจากหลาย ๆ เรื่อง มาร่วมกันสร้างผลงานสุดน่าประทับใจครั้งนี้ไปพร้อม ๆ กันอีกด้วยค่ะ!

เรื่องย่อ :

‘Love Alarm แอปเลิฟเตือนรัก’
ประเภท : โรแมนติก / ไซไฟ (นิด ๆ)
ในโลกอนาคตที่มีแอปพลิเคชันอย่าง Love Alarm ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงความรู้สึกของ User หรือผู้ใช้งานของแต่ละเครื่อง แล้วคอยแจ้งเตือนความรู้สึกของแต่ละคนให้ได้รับรู้ว่า ในระยะรัศมี 10 เมตรในทุก ๆ ที่ที่เราไปนั้น มีใครกำลังแอบชอบเราอยู่บ้าง ภาพจึงถูกเล่าในมุมมองชีวิตของ คิมโจโจ เด็กสาวนิสัยดี ยิ้มเก่ง พูดน้อย ผู้มีชีวิตที่ยากลำบากจากการที่พ่อแม่จากไป จนทำให้ตัวเองถูกส่งมาอยู่กับญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่นั่นก็คือป้าและลูกพี่ลูกน้องที่ดูเหมือนไม่ค่อยจะยินดีกับการมาของเธอเท่าไหร่ แถมยังต้องทำงานใช้หนี้จำนวนมหาศาลที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ และหาเลี้ยงตัวเองให้เรียนจบให้ได้ไปวัน ๆ (โห รันทดไปมั้ย) จนเธอได้มาเจอกับ ฮวังซอนโอ เด็กหนุ่มหน้าตาดีดีกรีนายแบบ แถมยังบ้านรวย สาวสวย ๆ วิ่งเข้าหาเพียบ แต่คนที่ซอนโอสนใจกลับเป็นคิมโจโจเพียงผู้เดียว แถมไม่ได้มีเพียงแค่เขาคนเดียวที่กำลังสนใจในตัวเธอ เพราะ อีฮเยยอง เพื่อนรักตั้งแต่เด็กของซอนโอผู้หน้าตาดีเหมือนนิสัย ก็แอบชอบโจโจมานานแล้วเหมือนกัน ความรักวุ่น ๆ หวานละมุนปนซึ้งของพวกเขาทั้ง 3 คน จึงเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว…

ความรู้สึกหลังดู : ‘Love Alarm แอปเลิฟเตือนรัก’

เคยคิดมาตลอดเหมือนกันว่า “จะบอกชอบใครสักคนนี่มันยากจัง ถ้ามีเครื่องมือช่วยให้ใครคนนั้นรู้ความรู้สึกเราได้เอง …ก็คงดีเหมือนกันเนอะ” สรุปว่ามีจริง ๆ แหะ แต่มีในโลกของซีรีส์เรื่อง ‘Love Alarm แอปเลิฟเตือนรัก’ ที่มีให้ดูแล้ววันนี้ในช่องทางของ Netflix และหลังจากที่รู้ว่าซีรีส์เรื่องนี้มีพล็อตที่น่าสนใจขนาดนี้ ทางเราก็เลยรีบเข้าไปตั้งหน้าตั้งตาดูอย่างไม่คาดหวังอะไรมากนัก เพราะปกติไม่ได้ติดตามซีรีส์เกาหลีเป็นประจำอยู่แล้ว

หลังจากที่ดูไปได้สักพัก ความรู้สึกแรกก็คือ Love Alarm มีแพทเทิร์นการเล่าเรื่องที่คล้าย ๆ กับซีรีส์วัยรุ่นเกาหลีทั่วไป เล่าเรื่องแบบเรียบ ๆ เรื่อย ๆ แต่ทว่าในทุก ๆ ครั้งที่จบไปในแต่ละตอนก็จะทิ้งปมบางอย่างทำให้เรากลับรู้สึกอยากดูตอนต่อไปแทบทุกครั้ง ดูจบก็ดูต่ออีกแบบหยุดไม่ได้จริง ๆ และด้วยพลังอำนาจของเคมีตัวละครที่เราดูแล้วต้องตกหลุมรักเอามากมากกกกก โดยเฉพาะตัวละครหลักทั้งสามคนอย่าง คิมโจโจ ฮวังซอนโอ และ อีฮเยยอง ที่ถือว่าเป็นความดีงามแรก ๆ ของเรื่องที่อยากจะพูดถึง

เพราะในพาร์ตของความรักนั้น ซีรีส์เล่าออกมาได้อย่างชัดเจนถึงความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละคร เช่น คิมโจโจที่มีแฟนอยู่แล้วแต่กลับไม่เคยรู้ใจตัวเองเลยว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยรักเขาเลย หรือฮวังซอนโอที่ชีวิตแทบไม่เคยตกหลุมรักใคร ก็ต้องมาตกอยู่ในหลุมรักของผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ไม่เคยแสดงออกถึงความชอบในตัวเขาเหมือนสาวคนอื่น ๆ ดังนั้นการพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา จึงเป็นการแสดงออกถึงความรักของคนต้องการความรักแบบเขา แอปพลิเคชันของยุคอย่าง Love Alarm จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เรื่องราวอันยุ่งเหยิง จนแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้ของคนทั้ง 3 คน ได้เจอกับความชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง และนั่นคือเสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้ที่เชื่อว่าหากใครได้ดู (โดยเฉพาะหญิงสาว) ก็จะต้องประทับใจในการเล่าเรื่องราวความสลับซับซ้อนในความสัมพันธ์ของทุกตัวละคร ให้ออกมาชัดเจนและเรียบง่ายได้น่าติดตามมากจริง ๆ

ซึ่งถ้าหากไม่นับความดีงามของนักแสดง และความสวยงามของงานภาพและเพลงประกอบ หรือแม้กระทั่งเรื่องของการสอดแทรกประเด็นสังคมที่สำคัญ ๆ อย่างการใช้โซเชียลอย่างหนักของคนในยุคปัจจุบัน จนมันกลายเป็นว่าเราแทบจะเอาชีวิตทั้งชีวิตไปฝากไว้ที่มัน จนมันกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตไปซะงั้น ก็ถือว่าซีรีส์หยิบประเด็นออกมาพูดได้อย่างชัดเจนและเห็นภาพมาก ๆ ส่วนนี้ต้องนับถือเลยล่ะ… แต่ก็ยังต้องยอมรับว่าซีรีส์เรื่อง Love Alarm ยังคงมีจุดบอดบ้างในบางเรื่อง เช่น ตรรกะบางอย่างของตัวละครที่ยากจะเข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมถึงตัดสินใจแบบนี้ฟะ! (ถ้าใครได้ดูแล้วก็คงจะพอรู้ว่าเรื่องอะไร) ที่แม้ว่าเหมือนจะมีอยู่ไม่เยอะ แต่ก็เป็นแผลที่ใหญ่พอที่จะค้างคาอยู่ในใจคนดูไปได้สักพักเลยทีเดียว

และเมื่อดูซีรีส์เรื่องนี้จบ เรากลับมานั่งคิดทบทวนเล่น ๆ กับตัวเองว่า เราได้อะไรบ้างจากการดูซีรีส์เรื่องนี้… “มันจะดีกว่าจริง ๆ เหรอถ้าโลกนี้มีแอปแบบนี้อยู่?” เพราะเมื่อนึกถึงเวลาที่เรากำลังแอบชอบใคร การที่ได้อยู่ใกล้ ๆ ได้แอบมองเขาอยู่ในระยะ 10 เมตร โดยที่เขาไม่รู้ตัวนั้น มันคงเป็นระยะปลอดภัยที่ทำให้เรามีความสุขมากกว่าการที่จะเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเปิดเผยให้เขารู้ความในใจเราได้ตลอดเวลา อาจจะเป็นเพราะเรามองว่า ‘ความรู้สึกของเราเราย่อมรู้ดีที่สุด’ และเราจะพูดมันออกมาก็ต่อเมื่อวันที่เรามั่นใจว่า ‘เราชอบเขาจริง ๆ’ เพราะมันคงจะดูโรแมนติกมากกว่าถ้า ‘คำว่ารักถูกพูดออกมาจากปากคนที่รู้สึก’ จริงไหม?