“Joker” ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากผู้กำกับ The Hangover  “ทอดด์ ฟิลลิปส์” ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละครวายร้ายสุดคลาสสิกและคู่ปรับตลอดกาลของแบทแมน “โจ๊กเกอร์” โดยในเวอร์ชันของฟิลลิปส์ เขาได้พาเราดำดิ่งไปสำรวจจิตใจของชายคนหนึ่งนามว่า “อาร์เธอร์ เฟล็ก” ผู้ดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางความฟอนเฟะของสังคมเมือง Gotham ที่ค่อย ๆ กัดกร่อนจิตใจเขาไปทีละน้อย ทีละน้อย จนเขาได้กลายร่างเป็นปีศาจร้ายภายใต้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอันขันขื่น

มันเป็นภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมที่เปิดเปลือยจิตใจของตัวละครตัวนี้ได้อย่างน่าทึ่ง ห้วงอารมณ์ของความสับสน ปวดร้าย โดดเดี่ยว และป่วยไข้ ถูกถ่ายทอดผ่านการสำรวจรายละเอียดของตัวละครที่ค่อย ๆ คลี่คลายออกมาทีละนิด ผ่านการแสดงอันประณีตและลุ่มลึก (จนชวนขนลุก) ของวาคีน ฟินิกส์ ท่ามกลางงานสร้างสุดประณีตทั้งบทภาพยนตร์ที่ขัดเกลามาอย่างดี การกำกับภาพ การออกแบบงานสร้าง การตัดต่อ และแน่นอนงานเสียงและดนตรีประกอบอันสะท้อนเสียงจากภายในจิตใจอันแสบเจ็บปวดและปั่นป่วนของอาร์เธอร์ ชายผู้ป่วยไข้อันเป็นผลพวงจากพิษร้ายในสังคม

Hildur Guðnadóttir คือนักดนตรีและนักแต่งเพลงสาวชาวไอซ์แลนด์วัย 37 ปีผู้ผ่านงานเพลงประกอบภาพยนตร์มาแล้วอย่างโชกโชน เธอคือผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ซึ่งเสียงของเธอได้ทำหน้าที่ในการชักพาเสียงจากภายจิตใจของอาร์เธอร์ออกมาให้พวกเราได้รับรู้ว่ามันรวดร้าวรุนแรงมากแค่ไหน

Hildur Guðnadóttir

 มีอยู่สองสามสิ่งที่ Hildur Guðnadóttir เหมือนกันกับตัวละคร อาร์เธอร์ เฟล็ก อย่างแรกนั่นคือเธอยิ้มและหัวเราะบ่อยมาก อีกอย่างหนึ่งคือเธอเองก็มีความดำมืดอยู่ภายในจิตใจเช่นกัน แต่แทนที่เธอจะเลือกปลดปล่อยมันด้วยความรุนแรง นักแต่งเพลงและมือเชลโลสาวจากไอซ์แลนด์เลือกที่จะปลดปล่อยความดำมืดภายในจิตใจของเธอออกมาผ่านเสียงดนตรี

“งานเพลงเดี่ยวของฉันเริ่มต้นขึ้นจากการมองเข้าไปภายในจิตใจ แล้วใช้เวลาอยู่กับตนเองและเครื่องดนตรีโดยไม่ต้องมีบทสนทนาภายนอกใด”

เธอเอ่ย

“ดนตรีของฉันส่วนใหญ่มันคือห้วงแห่งความคิดนึกตรึกตรอง และมันมักจะนำพาฉันไปสู่ด้านมืดเสมอ บทสนทนาภายในจิตใจของฉันมันค่อนข้างจะดาร์กพอสมควรเลยล่ะ”

Play video

 

Guðnadóttir  เริ่มเดินถือเชลโลไปมาและเริ่มแต่งเพลงตั้งแต่มีอายุห้าขวบ แม่ของเธอได้ตั้งชื่อให้เธอก่อนที่เธอจะเกิดซึ่งมีความหมายว่า “สงคราม หรือ บุตรสาวแห่งพระเจ้า” และเธอได้ประกาศออกมาด้วยความมั่นใจตั้งแต่วัยเยาว์ว่าเธอจะต้องโตขึ้นเป็นมือเชลโลอย่างแน่นอน “ ฉันเป็นคนไอซ์แลนด์” เธอหัวเราะ “และเราทุกคนดราม่ากันทั้งนั้นล่ะ”

Play video

Guðnadóttir ได้ลองทำงานดนตรีเชิงทดลองที่ผสมผสานความเป็นอะคูสติกและอิเล็กทรอนิกส์เข้าไว้ด้วยกัน และทำงานเดี่ยวออกมาหลายอัลบั้มซึ่งแฝงไว้ด้วยแววหม่น นอกจากนี้เธอยังได้ร่วมงานกับนักแต่งเพลงชาวไอซ์แลนด์คนอื่น ๆ อีกมากมายอาทิเช่น  โยฮัน โยฮันส์สัน (Jóhann Jóhannsson) นักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อก้องผู้ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว โดยเธอได้เล่นเชลโลให้กับงานเพลงประกอบภาพยนตร์ส่วนใหญ่ของเขาซึ่งรวมไปถึง Sicario และ Arrival ด้วย นอกจากนี้เธอยังได้ร่วมประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ชิ้นสุดท้ายของโยฮัน โยฮันส์สันเรื่อง Mary Magdalene ในปี 2018 และได้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์และทีวีซีรีส์อีกหลายเรื่อง แล้วก็เธอคนนี้นี่แหละที่ชนะรางวัล Emmy จากการแต่งเพลงประกอบมินิซีรีส์เรื่อง Chernobyl ของทาง HBO  ซึ่งเธอบันทึกเสียงในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ปิดตัวไปแล้วและแปรเปลี่ยนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้กลายเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Play video

 

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “Joker”  ทอดด์ ฟิลลิปส์ (Todd Phillips) ได้ขอให้เธอใส่ใจไปที่ความรู้สึกของ อาร์เธอร์ เฟล็ก ชายผู้เจ็บปวดคนหนึ่งที่ได้กลายมาเป็นจอมวายร้ายโจ๊กเกอร์ ซึ่งเธอนั้นเข้าใจอาร์เธอร์ดี เธอบอกว่าแท้จริงแล้วเขา “เพียงแค่พยายามอย่างยิ่งที่จะเป็นคนดี”

“ฉันนั่งลงกับเชลโลเพื่อที่จะหาทางในการถ่ายทอดเสียงจากภายในและห้วงความคิดของเขา”

“เขาพยายามที่จะสร้างความเบิกบานให้กับโลกใบนี้ แต่เขาก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะสภาวการณ์ภายนอกทั้งหลายที่ส่งผลกระทบต่อความวุ่นวายภายในจิตใจของเขา”

“ มันทำให้ฉันรู้สึกเห็นใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ฉันคิดว่าเขาควรมีโอกาสได้สัมผัสด้านที่อ่อนโยนของชีวิตบ้าง”

หลังจากที่ได้อ่านและได้พูดคุยกันเรื่องบทกับผู้กำกับ เธอก็ได้แต่งบทเพลงอันหม่นเศร้าแต่นุ่มนวลให้กับชายผู้หมองหม่น โดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงา และเจ็บปวดกับห้วงความคิดและความรู้สึกอันหม่นมืด เธอได้ถ่ายทอดเสียงที่อยู่ข้างในของ อาร์เธอร์ เฟล็ก ออกมา

“ฉันนั่งลงกับเชลโลเพื่อที่จะหาทางในการถ่ายทอดเสียงจากภายในและห้วงความคิดของเขา” เธอกล่าว “ และฉันเพียงแต่ฉวยจับความรู้สึกนี้ไว้ หลังจากที่ฉันได้อ่านบทของหนังเรื่องนี้ และทันใดที่ฉันได้เล่นโน้ตตัวแรก มันกระทบใจฉันอย่างแรง มันเป็นปฏิกิริยาที่รุนแรงมากและฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่านี่แหละคือสิ่งที่ใช่เลย”

Guðnadóttir  แต่งเพลงธีมของตัวละครก่อนที่หนังเรื่องนี้จะมีการถ่ายทำเสียอีก (ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยพบบ่อยนัก เพราะนักแต่งเพลงส่วนใหญ่มักจะเขียนเพลงหลังจากที่มีการถ่ายทำแล้ว) ซึ่งทอดด์ ฟิลลิปส์ ตัดสินใจที่จะเปิดเพลงที่เธอแต่งในขณะที่ถ่ายทำฉากสำคัญ นั่นก็คือช่วงเวลาที่อาร์เธอร์ได้ข้ามเส้นอันเปราะบางของชีวิตและกำลังก้าวเข้าไปสู่การเป็นวายร้ายโจ๊กเกอร์ ซึ่งมันได้เปลี่ยนหนังทั้งเรื่องไปเลย

“ก่อนนี้เราเกือบจะถ่ายฉากนี้ด้วยวิธีที่แตกต่างจากที่มันเป็นอย่างสิ้นเชิง” Lawrence Sher ผู้กำกับภาพของ Joker เล่าให้ฟัง

“มันจะเป็นฉากที่เหมือนกับหนังทั่วไป เขาเดินเข้ามาข้างใน กำลังทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่เขาได้ทำลงไป เขาพยายามที่จะซ่อนอาวุธ และมันเป็นวิธีเล่าที่เป็นขนบมากเลย”

หลังจากนั้น ทอดด์ ฟิลลิปส์ ก็เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาโดยกระทันหัน

“ทอดด์เปิดเพลงธีมในทุก ๆ เทค ในฉากที่ตัวละครของ วาคีน ฟีนิกซ์ กำลังอยู่ในห้องน้ำ มันเป็นจุดสำคัญที่เขากำลังจะเริ่มแปรสภาพไปสู่การเป็นโจ๊กเกอร์ ซึ่งเขาถ่ายทอดมันออกมาผ่านการเต้น เพลงประกอบที่ใช้เป็นท่วงทำนองบรรเลงที่ไม่ได้เอื้อแต่เพียงการแสดงของวาคีนเท่านั้น หากแต่ยังส่งอิทธิพลต่อการกำกับภาพอีกด้วย มันได้สร้างพลังให้กับห้อง ๆ นี้และทำให้ฉากนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมา”

Play video

Play video

ในตอนที่ Guðnadóttir ได้เห็นฉากนี้มันเหมือนกับว่าทุกอย่างได้วนกลับมาครบรอบบริบูรณ์ในที่สุด

“มันเป็นความรู้สึกแบบเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับฉันตอนที่เล่นโน้ตตัวแรก โน้ตอันเป็นท่วงทำนองที่มาจากข้างในจิตใจของตัวละคร ฉันไม่รู้จะพูดอย่างไรเลยมันคือบทสนทนาที่ไร้คำพูดอันงดงาม”

เพลงธีมนั้นถูกบันทึกเสียงโดยเชลโลไฟฟ้าซึ่งมีชื่อเรียกว่า “halldorophone” ซึ่งเธอได้มีส่วนช่วยในการพัฒนามันขึ้นมา

Play video

 

“เสียงอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ที่ได้ยินจากหนังเรื่องนี้ ล้วนแล้วแต่ถูกบันทึกเสียงสด และมันมาจากเจ้าเครื่องดนตรีชิ้นนี้ที่ถูกเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องขยายเสียง”

นอกจากนี้เธอยังมาพร้อมกับแนวคิดว่าจะใช้ออร์เคสตราเป็นตัวแทนความบ้าคลั่งข้างในจิตใจของอาร์เธอร์

เพลงที่ใช้ในช่วงตอนต้นของหนัง คุณจะได้ยินแต่เสียงเชลโล แต่เมื่อเรื่องราวในภาพยนตร์ดำเนินไปเรื่อย ๆ เสียงออร์เคสตราจะดังขึ้น ดังขึ้นและมันได้ดูดกลืนเสียงของเชลโลเข้าไป เปรียบได้กับความรู้สึกเห็นอกเห็นใจที่เรามีต่อตัวละครตัวนี้ถูกแทนที่ด้วยเสียงของเชลโล ส่วนด้านมืดภายในจิตใจและความปั่นป่วนวุ่นวายภายในถูกแทนด้วยเสียงออร์เคสตรา ซึ่งในช่วงแรกนั้นเราแทบจะไม่ได้ยินมันเลย แต่แล้วมันก็ค่อย ๆ กลืนกินเข้ามา ๆ เรื่อย ๆ เฉกเช่นเดียวกับความมืดดำที่ค่อย ๆ กัดกร่อนจิตใจของอาร์เธอร์นั่นเอง

สามารถฟังบทเพลงประกอบภาพยนตร์ Joker ผลงานของ Hildur Guðnadóttir แบบเต็ม ๆ ได้แล้ววันนี้

Apple Music

 

Source

Composer Hildur Guðnadóttir Finds The Humanity In ‘Joker’

Wikipedia

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส