Our score
7.2terminator darkfate : คนเหล็ก วิกฤตชะตาโลก
จุดเด่น
- หนังสนุกมาก ฉากแอ็กชันจัดเต็มตลอดทั้งเรื่อง
- ลินดา แฮมิลตัน กลับมารับบทซาราห์ คอนเนอร์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
- แม็กเคนซี เดวิส สวยเท่
จุดสังเกต
- บทภาพยนตร์เหมือนซ้ำรอยกับ Judgement Day อีกรอบ
- การพยายามยัดเยียด T800 เข้ามาในเรื่อง ดูไร้เหตุผลที่สุด
- แกเบรียล ลูนา เป็น Rev-9 หุ่นร้ายที่ไม่รู้สึกน่ากลัว
-
ตรรกะ, ความสมบูรณ์ของบท
2.0
-
คุณภาพนักแสดง
7.0
-
คุณภาพการผลิต
9.0
-
ความสนุกน่าติดตาม
8.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
10.0
การกลับมาแท็กทีมกันของ ลินดา แฮมิลตัน และอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ในบท ซาราห์ คอนเนอร์ และหุ่นเหล็ก T-800 ภาพที่คนดูคิดถึงตั้งแต่ 27 ปีที่แล้ว นับว่าป็นจุดขายของหนัง Terminator : Dark fate ที่น่าจะเรียกแฟนเก่าให้กลับมาตัวละครที่รักบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง แม้ทั้งคู่จะเข้าสู่วัยร่วงโรยกันไปมากแล้ว วันนี้ ลินดา อายุ 62 ปี ส่วนอาร์โนลด์ อายุ 72 ปีแล้ว
เมื่อหนังกลับมาอยู่ในมือเจมส์ คาเมรอน ผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ Terminator อีกครั้ง หลังลิขสิทธิ์อยู่ในมือของ Fox มากว่า 20 ปี เจมส์ ตัดสินใจเพิกเฉยให้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาค 3-4-5 ให้คิดเสียว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนละไทม์ไลน์ก็แล้วกัน ส่วน Terminator : Dark fate นั้น เป็นเรื่องราวที่สานต่อจาก T2 ที่เขากำกับไว้ แต่ภาคนี้เจมส์ ยังติดพันกับโพรเจกต์ใหญ่กว่า นั่นก็คือ Avatar 2 ก็เลยรับหน้าที่อำนวยการสร้างและร่วมเขียนบทภาพยนตร์ แต่ยกหน้าที่กำกับให้ ทิม มิลเลอร์ ผู้กำกับจาก Deadpool มารับหน้าที่แทน
เหมือนกับสอนให้อดีตผู้กำกับในภาค 3-4-5 ได้ดูกันว่า Terminator มันต้องจัดหนักจัดเต็มกันแบบนี้ ว่าแล้วหนังก็ไม่รีรอ แต่เปิดฉากแอ็กชันดุเดือดตั้งแต่ 10 นาทีกันเลย เป็นฉากที่เราเห็นในตัวอย่างหนังนั่นแหละ ที่ซาราห์ คอนเนอร์ เปิดตัวด้วยมาดเท่ อัดกระสุนใส่หุ่น Rev-9 แบบไม่ยั้งมือ และนับตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป หนังก็แทบไม่เว้นว่างให้คนดูพักกันนาน ระดมอัดฉากแอ็กชันต่อเนื่องตลอดเวลา 2 ชั่วโมง 8 นาทีของหนัง จัดมาให้แบบแฟนเก่าแฟนใหม่ได้หายคิดถึงบรรยากาศหนังคนเหล็กสู้กันไปเลย
เห็นได้ชัดว่าทีมงานเขียนบท ทำการบ้านกันมาอย่างดีมาก เพราะการกลับมาครั้งนี้เป็นโจทย์ที่ยากพอดู คนดูได้ดูคนเหล็กกันมาแล้ว 5 ภาค กับอีก 1 ทีวีซีรีส์ จะทำอย่างไรให้มีความแปลกใหม่ แล้วสามารถดึงคนดูกลับมาซื้อตั๋วดูคนเหล็กครั้งที่ 6 นี้ได้ ลำพังหุ่นเหล็กเก่า ๆ แก่ ๆ กับป้าซาราห์ คงยังไม่น่าสนใจพอ แล้วหุ่นแก่ ๆ ก็ไม่น่าจะมีพิษสงหรือบู๊ได้สะใจคนดูนัก ก็เลยต้องเพิ่มหุ่นเหล็กฝ่ายดีเข้าไปอีกตัว นั่นก็คือ “เกรซ” หุ่นเหล็กสาวที่ถูกส่งมาจากโลกอนาคต ส่วนหุ่นฝ่ายร้ายก็เป็นโจทย์ยากอีกเช่นกัน มาตรฐานที่เจมส์ คาเมรอน สร้างไว้เองเมื่อ 27 ปีที่แล้ว กับหุ่น T-1000 ที่หลอมร่างตัวเองเป็นของเหลวได้ ปลอมแปลงร่างได้ก็เป็นเทคโนโลยีสุดยอดมากแล้ว จะสร้างหุ่นรุ่นใหม่อย่างไรให้มันตื่นตาตื่นใจได้มากกว่า T-1000 อีกล่ะ ผลลัพธ์ก็เลยออกมาเป็นหุ่นรุ่น Rev-9 ที่เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการแยกเนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มโครงเหล็กออกมาเป็นร่างหนึ่งได้ แต่ยังคงความสามารถในการปลอมแปลงร่าง และกลายเป็นของเหลวได้เช่นเดิม รอบนี้มาตัวเดียว ก็เหมือนมา 2 ตัวเลย
ตัวละครเยอะขึ้น ก็เลยทำให้ฉากแอ็กชันดูมีสีสันมากขึ้น กลายเป็นเกมตะลุมบอน 4 รุม 1 ซึ่งเจ้า Rev-9 ก็ดูมีพิษสงที่ยืนหยัดรับมือฝ่ายดีทั้ง 4 คนได้แบบไม่สะทกสะท้านเลย ก็เหมือนหนังตอบโจทย์คนดูได้ตรงเป้า คนดูต้องการเห็นความมันส์ดุเดือดจากหนังคนเหล็ก ภาคนี้ก็เลยมีให้แบบจุใจ แล้วเล่นใหญ่ทุกฉาก เครื่องบินชนกันกลางอากาศ ขับรถไล่ล่าชนระเนระนาดกันบนทางด่วน ลามไปต่อสู้กันถึงใต้น้ำ จะว่าไปฉากหลังในการต่อสู้แต่ละครั้งนี่จำเป็นมากที่จะช่วยยกระดับความตื่นตาตื่นใจ เพราะทิ้งช่วงจาก T2 เมื่อ 27 ปีก่อนมาถึงวันนี้เราไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับภาพหุ่นตัวร้ายหลอมร่างตัวเองเป็นของเหลวอีกต่อไปแล้ว
ว่ากันที่สีสันของภาคนี้ ตัวที่เป็นหัวใจหลักเลยก็คือ ซาราห์ คอนเนอร์ การที่ป้าหายไปจากจอถึง 27 ปีแล้วกลับมาในมาดคุณป้าสายดุนี่เป็นการกลับมาอย่างทรงคุณค่าตัวจริง ลินดา แฮมิลตัน ตอกย้ำให้เห็นกันชัด ๆ ว่าเธอคือ ซาราห์ คอนเนอร์ ตัวต้นแบบต้นฉบับที่ไม่มีใครแทนที่ได้เหมาะสมไปกว่าเธออีกแล้ว ส่วนเวอร์ชันขุ่นแม่มังกร นี่อยากจะลบไปจากความทรงจำเป็นที่สุด อยากปรบมือเป่าปากปรี๊ดป้าลินดา เป็นซาราห์ที่เท่สุด ลินดาสามารถถ่ายทอดตัวตนของซาราห์ คอนนเนอร์ ให้สัมผัสได้ว่านี่คือคุณยายวัย 62 ที่แจ๋วจริง ดุจริง แม้ว่าแวบแรกจะสะดุดไปหน่อยกับริ้วร้อยที่ยับย่นตามวัย 62 ของป้าลินดา แต่พอได้ดูหนังแล้ว ความเหี่ยวย่นบนหน้าป้าไม่ได้ทำให้ความเท่ของป้าลดน้อยลงไปแม้แต่นิดเลย
แม็กเคนซี เดวิส คนเหล็กสาว สมาชิกใหม่ในภาคนี้ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมจริง เธอเป็นสาวที่มีมีเอกลัษณ์ด้วยหุ่นสูงโปร่งถึง 178 ซม. ทำให้เธอมีพื้นเพมาจากการเป็นนางแบบอยู่แล้ว แม็กเคนซี อยู่ในวงการมายาวนานมาก แต่ก็ยังไม่มีบทที่ส่งให้เธอไปสู่ตำแหน่งนักแสดงแถวหน้าเลย แต่ก็มั่นใจได้ว่าบท “เกรซ” คือบทสำคัญที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอแล้ว และจะทำให้ผู้ชมจดจำเธอได้มากขึ้น ด้วยลุคสาวผมสั้นนี้ เป็นลุคที่เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เธอได้บทเป็นสาวแว่นผู้เชี่ยวชาญภาคพื้นดินใน The Martian และหุ่นยนต์สาวใน Bladerunner 2049 ก็ยังดูไม่เข้าตาเท่ากับลุคนี้ เห็นได้ชัดว่าแม็กเคนซี เตรียมพร้อมกับบทเกรซมาอย่างดีมาก หุ่นเธอสวยแล้วดูแข็งแรงมาก ฉากประทับใจที่สุดคือฉากต่อสู้ท้ายเรื่อง ที่เธอได้โซ่เส้นใหญ่มาเป็นอาวุธคู่มือ ฉากควงโซ่ด้วยความเร็วสูง นี่ดูเท่และทรงพลังมาก ฟันร่าง rev-9 เป็นชิ้น ๆ ดุเดือดจริง ๆ
ส่วนแกเบรียล ลูนา ขอพูดถึงแบบผ่าน ๆ แล้วกันนะ ด้วยลีลาการแสดงการใช้สีหน้าแววตา ดูจะเดินตามรอย โรเบิร์ต แพททริก ในบท T-1000 มากเกินไป แล้วก็ล้มเหลวในการสร้างรังสีอำมหิตอย่างที่ตัวร้ายควรมี การปรากฏตัวของ Rev-9 จึงยังไม่ดูน่ากลัวเท่าที่ควร
ทั้งหมดทั้งหลายที่กล่าวชื่นชมมานี่คือฉากแอ็กชันล้วน ๆ คนดูอยากดูฉากแอ็กชัน หนังมีให้จนเกินพอใจ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้กลับเกิดบนเนื้อเรื่องที่ดูไปแล้วก็ร้อง “เฮ้ออออออออออออ” อย่างมาก หนังถูกกำหนดโจทย์ยากมาก ๆ มาให้ตั้งแต่ก่อนเขียนบทภาพยนตร์แล้วว่าภาคนี้ จะมี อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ กลับมาในบท T-800 แม้ว่าหนังจะสานต่อจากภาค T2 แต่ตอนจบของภาค 2 เราก็เห็น T-800 ทำลายตัวเองไปในบ่อหลอมเหล็กแล้ว
ทีมเขียนบททั้ง 6 คน ต้องระดมไอเดียหาแนวทางว่าจะเอา T-800 กลับมาอย่างไรดีในภาคนี้ แล้วไอเดียสุดท้ายที่ถูกเลือกมาใช้ถ่ายทำจริงก็แบบว่า…………………. โคตรที่จะไร้เหตุผลอย่างที่สุด มันเป็นดาบสองคมที่ต้องแลก การที่ต้องเอา T800 ยัดใส่กลับมาในเรื่องราวเพื่อใช้ชื่ออาร์โนลด์ มาเป็นจุดขายเรียกคนดู แต่ก็ต้องยอมแลกกับตรรกะที่ไร้เหตุผลแบบนี้แหละ ก็เลยกลายเป็นการดูหนังที่สนุกเพลิดเพลินไปได้กับฉากแอ็กชันเบื้องหน้า แต่มีเรื่องราวการปรากฏตัวของ T800 ที่ชวนคาใจค้างคาอยู่แบบนั้น มันน่าผิดหวังว่านี่คือ Terminator ที่กลับมาอยู่ในมือผู้ให้กำเนิด เราเคยยี้ให้กับภาค 3-4-5 แต่กลายเป็นว่าบทที่มาจากเจมส์ คาเมรอน เองก็ไม่ได้มีเหตุและผลที่ดูเข้าที่เข้าทางไปมากกว่าภาคก่อน ๆ เลย บางทีการเลือกเดินหน้าโดยที่ไม่ต้องพะวงกับการยัดเยียด T800 เข้ามาในเรื่อง หนังน่าจะมุ่งไปในทิศทางที่ดีกว่านี้นะ
เมื่อพยายามอย่างที่สุดในการเอา อาร์โนลด์ กลับมารับบท T800 ในวัยนี้ ก็จำเป็นต้องใช้ให้คุ้มค่า อาร์โนลด์ ก็เลยต้องเจอฉากบู๊แบบหนักหน่วง แล้วอีกหน้าที่หนึ่งที่อาร์โนลด์ได้รับก็คือตัวสร้างเสียงหัวเราะให้กับเรื่องราว หนังปูบรรยากาศมาเครียดตั้งแต่นาทีแรกของหนัง เพิ่งจะได้ยินเสียงหัวเราะกันก็ตอนที่ T800 ปรากฏตัวออกมานี่ล่ะ ก็เป็นเสียงหัวเราะแบบคริ คริ ไปกับความน่าเอ็นดูของหุ่น T800 ที่อยากจะดำเนินชีวิตแบบมนุษย์ ไม่ได้หัวร่องอหายแบบหนังตลกขนาดนั้นหรอกนะ แต่ก็ยังดีที่หนังมีช่วงให้ผ่อนคลายได้บ้าง
ส่วนเส้นเรื่องหลักก็ไม่ได้มีความแปลกใหม่ ผู้นำฝ่ายปฏิวัติจากโลกอนาคตที่โดนจักรกลยึดครอง ส่งมนุษย์จักรกลหญิงจากโลกอนาคตมาปกป้องบุคคลสำคัญในอดีต ที่เป็นเป้าหมายของจักรกลสังหาร เนื้อหามันก็เดินตาม T2 กันแบบเป๊ะ ๆ เปลี่ยนแค่ตัวละครที่เป็นเป้าหมาย สร้างหุ่นฝ่ายดีและฝ่ายร้ายให้เป็นรุ่นใหม่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้นเอง นี่ขนาดว่า 1 ใน 6 ทีมเขียนบทนี่มีชื่อ เดวิด เอส.โกเยอร์ ผู้เขียนบทไตรภาค Batman ของเสด็จพ่อโนแลนอยู่ด้วยแล้วนะ
ส่วนคำถามคาใจ ที่ผมตั้งใจไปฟังคำตอบในหนังว่า เจมส์ คาเมรอน จะเลือกอธิบายการชราภาพของ T800 อย่างไร เพราะใน Terminator Genisys (2015) ได้อธิบายเหตุผลกลไกในประเด็นนี้ไว้ว่า เนื้อเยื่อรุ่นใหม่ของ T800 ผ่านการสังเคราะห์พิเศษให้เหมือนเนื้อเยื่อมนุษย์มากที่สุด มีการเสื่อมสภาพตามวัยได้เช่นเดียวกัน แต่ใน Terminator : Dark fate เจมส์ ก็ฉลาดที่จะ “ไม่พูดถึง” ประเด็นนี้ เพราะมนุษย์แต่ละคนที่เจอ T800 ก็มีแต่ตั้งคำถามว่า “ทำไมยังอยู่ที่ยุคนี้” แต่ไม่มีใครถามว่า “ทำไมถึงแก่” นี่นา โจทย์มันตอบยากไป งั้นอย่าพยายามไปอธิบายมันเลย ดูเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถือซะว่าภาค 5 ตอบไปแล้วก็แล้วกันนะ
สรุป Terminator : Dark fate เป็นคนเหล็กที่โคตรมันส์ สะใจ คุ้มทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ ได้ดูทั้งฉากใหญ่วินาศสันตะโร ได้ดูทั้งฉากคนเหล็กตะลุมบอนกันแบบดุเดือด 2 ชั่วโมง 8 นาที ไม่มีช่องให้ลุกไปห้องน้ำได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถือว่าไปเสพความบันเทิง พยายามสลัดตรรกะและเหตุผลแบบดันทุรังของบทหนังทิ้งไปให้ได้ แล้วจะดูหนังได้สนุกมากขึ้น