Our score
9.4Knives Out
จุดเด่น
- เล่าเรื่องน่าติดตาม แปลกใหม่
- หักมุมได้มีชั้นเชิง มีลูกล่อลูกชนดี
- พอติดเครื่องแล้วเดินเรื่องฉับไวดี
- นักแสดงหลักพลิกบทบาทเยี่ยม
- จับประเด็นคม สอดแทรกลงตัวดี
จุดสังเกต
- องก์แรก ๆ มีช่วงเนือยบ้าง
- เฉลยตัวคนร้ายง่ายไปหน่อย
-
ความสมบูรณ์ของบท
9.5
-
คุณภาพงานสร้าง
9.5
-
คุณภาพนักแสดง
9.5
-
ความสนุกน่าติดตาม
9.0
-
คุ้มเวลา ค่าตั๋ว
9.5
เป็นอีกหนึ่งในหนังแววดีช่วงปลายปีที่หลายคนจับตามองเลยสำหรับ Knives Out โดยเฉพาะไลน์อัปนักแสดงนี่ต้องบอกว่าคับคั่งมาก ๆ แถมได้ ไรอัน จอห์นสัน ผู้กำกับเนื้อหอมมานั่งแท่นกำกับด้วย ซึ่งด้วยสไตล์ของแก กับบทบาทเรื่องราวในเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับปริศนาฆาตกรรมในแบบฉบับของ อากาธา คริสตี้ แล้ว เรียกว่าเข้าทางเลย
Knives Out เล่าเรื่องราวคดีปริศนาฆาตกรรมในวันรวมญาติของ ‘ตระกูลธรอมบีย์’ ซึ่งผู้ตายคือ ‘ฮาร์ลาน ธรอมบีย์’ นักเขียนนิยายชื่อดังที่มีผลงานตีพิมพ์มากกว่า 80 ล้านเล่มทั่วโลก ถูกพบเป็นศพปริศนาในคฤหาสน์หรูของตัวเอง ซึ่งผู้ต้องสงสัยก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นทุกคนในครอบครัว ขณะเดียวกันก็มีบุคคลลึกลับว่าจ้างให้นักสืบมากฝีมืออย่าง เบอนัวต์ บลองก์ (แดเนียล เคร็ก) เข้ามารับคดีนี้ แต่ยิ่งเมื่อสืบลึกลงไป เขาก็ได้พบกับปมปริศนาที่ซับซ้อนของครอบครัวธรอมบีย์ที่เชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกับการตายของฮาร์ลานเต็มไปหมด
แล้วใครคือฆาตกรตัวจริง!?
แม้ว่าพล็อตและโครงเรื่องของ Knives Out แทบจะถอดแบบออกมาจากหนังสือนิยายในยุค 80-90 ของอากาธาแทบทุกระเบียดนิ้ว แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมาก ๆ เลยก็คือ มันมีความร่วมสมัยที่หนังใส่มาได้แบบลงตัวสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนหรือว่าแอปฯ โซเชียล บวกกับไลฟ์สไตล์ของตัวละครในครอบครัวที่จับต้องได้ในยุคนี้
ผมชอบวิธีการเล่าเรื่องของ Knives Out ที่เลือกเฉลยบางปมให้คนดูรู้ก่อน แล้วเดินเรื่องให้ลุ้นว่านักสืบพวกนั้นจะจับไต๋คนร้ายได้ไหม ไม่ใช่เล่าโดยยึดมุมมองของฝ่ายนักสืบเป็นหลักเหมือนหนังสืบสวนสอบสวนทั่วไป
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีความตลกร้ายแบบขำแรงปะปนอยู่จนบางทีก็ถามตัวเองระหว่างดูว่า “นี่มันหนังสืบสวนหรือหนังตลกโปกฮาวะเนี่ย”(ฮา) คือเซนส์มุกก็เจ๋ง ตัวละครทุกตัวมีมิติ มี สตอรี มีกลิ่นอายหนังสไตล์ฮิตช์ค็อก เดาทางยาก ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าไว้ใจคนในครอบครัวนี้ไม่ได้เลยสักคน แม้แต่ฝั่งนักสืบเอง ก็แอบดูยากว่าจะออกทรงเกรียนแบบ จอห์นนี อิงลิช หรือเท่ ๆ คูล ๆ แบบ เจมส์ บอนด์ เรียกว่า เรื่องนี้ ป๋า แดนเนียล เคร็ก สลัดคราบความเป็น 007 ออกไปแทบทั้งหมดจริง ๆ บางทีอาจบอกได้ว่านี่เป็นอะไรที่ดูเข้าทางแกมากกว่า เจมส์ บอนด์ ที่แกเล่นรวมกันเสียอีก ดูแววแล้วถ้าไม่เป็นพระเอกก็จับแกไปเล่นตลกได้นะ (ฮา)
Knives Out เป็นหนังฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนที่แทบไม่มีบรรยากาศให้รู้สึกตึงเครียด ไม่มีฉากบู๊แอ็กชัน แต่กลับค่อย ๆ น่าติดตามขึ้นเรื่อย ๆ แล้วอีกปมนึงที่น่าสนใจมาก ๆ คือการเสียดสีและจิกกัดวัฒนธรรมอเมริกันและมุมมองที่มีต่อผู้อพยพ ในทำนองประชดประชันเจ็บ ๆ คล้ายจะเย้ยคอนเซปต์ ‘ดินแดนเสรีภาพ’ ที่รัฐบาลสหรัฐฯ propaganda ต่อเวทีโลกมาตลอด ผมชอบตรงที่หนังจงใจไม่ได้ขยี้มากนัก แต่คนดูสามารถไปตีความต่อเมสเซจตรงนี้ได้เองอย่างแจ่มชัด เข้าใจความเจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ในการดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้มีที่ซุกหัวนอนของคนกลุ่มนี้
อีกคนหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ คริส อีแวนส์ ที่มารับบทเรื่องนี้แล้ว แทบไม่มีมุมไหนให้นึกถึง สตีฟ โรเจอร์ส ที่เราคุ้นเคยกันเลย เพราะเรื่องนี้แกมาแนวคูล ๆ กวนโอ๊ย สบถเก่งมาก (ฮา) มีบทบาทสำคัญที่จะเข้ามาเปลี่ยนรสชาติและทวีความสนุกขึ้นในองก์หลัง ๆ เรียกว่าสลัดลุคกัปตันแมน ๆ ออกไปให้เราได้เห็นเขาในลีลาที่แปลกตาออกไปจริง ๆ
เสน่ห์ของ Knives Out ไม่ได้อยู่ที่ความเข้มข้น ความเป๊ะปังของการไขคดี หรือว่าตัวคนร้ายคือใคร แต่มันคือหนังทริลเลอร์ที่มีความสนุกและเสน่ห์ด้วยบทฉลาด ๆ ชวนติดตาม และความเจ๋งของมันคือการเดินเรื่องที่สนุก มีชั้นเชิง มีความหักมุมที่หลอกแบบเหนือ ๆ แต่ไม่เวอร์วังเกินไป เป็นหนึ่งในหนังที่คอหนังสไตล์ไหนก็ดูสนุก อาจมีบางองค์ประกอบเรื่องการบริหารตัวละครที่หลุด ๆ ไปบ้างบางช่วง แต่ต้องบอกว่ารวม ๆ แล้วหนังเรื่องนี้กลับมีเสน่ห์บางอย่างให้น่าติดตามและอยากกลับมาดูซ้ำสอง