Black Widow หรือ นาตาชา โรมานอฟ โลดแล่นอยู่ในจักรวาลหนังมาร์เวลมาแล้วถึง 9 ปี ปรากฏตัวมาแล้วถึง 8 เรื่อง เพิ่งจะได้ฤกษ์มีหนังเดี่ยวของตัวเองก็เมื่อตอนที่ตัวละในเส้นเรื่องหลักของเธอได้พลีชีพเพื่อมวลมนุษย์ไปแล้ว นับเป็นเส้นทางซูเปอร์ฮีโรของมาร์เวลที่มาแปลก ที่หนังเดี่ยวของตัวเองมาหลังจากที่คนดูได้ดูฉากสุดท้ายของเธอไปแล้ว
จะว่าไปชื่อของ Black Widow ก็เป็นสมาชิกอเวนเจอร์สที่มีคนดูรักและติดตามเธออยู่มาก อาจจะด้วยภาพลักษณ์ที่สุดเท่ของสคาร์เล็ต โจแฮนสัน ด้วยนั่นแหละ ทำให้มีเสียงเรียกร้องจากแฟน ๆ ให้มาร์เวลสร้างหนังเดี่ยวของเธอเสียที แต่จากบทเรียนในอดีตที่หนังซูเปอร์ฮีโรหญิงล้วนคว่ำต่อเนื่องกันมาแล้วหลายเรื่องตั้งแต่ Catwoman, Aeon Flux, Elektra ทำให้สตูดิโอไม่กล้าที่จะเสี่ยงให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง แต่การที่สตูดิโอตัดสินใจให้ไฟเขียวกับโพรเจกต์หนังเดี่ยวของเธอก็ต้องขอบคุณอานิสงส์จากความสำเร็จของ Wonder Woman และ Captain Marvel นั่นล่ะ ที่เป็นสัญญาณว่าคนดูพร้อมรับซูเปอร์ฮีโรหญิงอีกครั้งแล้ว
วันนี้หนัง Black Widow ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อย อยู่ในขั้นตอนหลังการถ่ายทำ ซึ่งกว่าจะได้ฤกษ์ก็เดือนพฤษภาคม 2020 เลย เกือบ 6 เดือนนั่นแน่ะ หนังจะพาเราไปพบกับปฏิบัติการในอดีตของเธอ ก็ต้องอดีตแน่อยู่แล้วล่ะ เพราะวิญญาณเธอป่านนี้ยังอยู่บนดาว วอร์เมียร์ เลยมั้ง ใน Black Widow จะเล่าเหตุการณ์ในช่วงระหว่าง Civil War กับ Infinity War ที่เธอใช้เวลาช่วงนี้กลับไปเยี่ยมครอบครัวในรัสเซีย ทำให้เราได้รู้จักเรื่องราวส่วนตัวของเธอมากขึ้น มาร์เวลได้ปล่อยตัวอย่างแรกออกมาเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ความยาว 2.08 นาที ได้เห็นตัวละครใหม่ ๆ มากมาย ซึ่งบางตัวอาจจะโยงใยมาเกี่ยวกับหนังในเฟส 4 เฟส 5 ก็เป็นได้ แล้วในตัวอย่างแรกนี่ล่ะ ก็เผยประเด็นน่าสนใจมากมาย ที่มีทั้งการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในอดีต และน่าจะปูทางไปถึงหนังในอนาคต มีหลาย ๆ จุดที่เราอยากจะหยิบยกมาวิเคราะห์กันต่อจากนี้
1. นี่มันเหมือนตอนที่อยู่ในบูดาเพสต์กันเลยนะ
ช็อตเปิดในตัวอย่างแรกของ Black Widow เป็นภาพมุมกว้างของเมืองใดสักเมืองหนึ่ง มีตึกรามบ้านช่อง แม่น้ำ และอนุสาวรีย์ เห็นแค่นี้ใครจะไปรู้ล่ะเนอะ ว่านี่มันเมืองอะไร มีความสำคัญอย่างไร ถึงเอามาเป็นภาพเปิดตัวอย่างหนัง ภาพนี้ต้องสาวกระดับแฟนพันธุ์แท้เท่านั้นถึงจะ…อ๋อ! เพราะจุดเด่นในภาพนี้ก็คือ อนุสาวรีย์ผู้หญิงที่ชูอะไรสักอย่างขึ้นเหนือศีรษะ อนุสาวรีย์นี้มีชื่อว่า “Liberty Statue” เป็นเทพีที่ดูแลปกป้องเมือง บูดาเพสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี
ยังไม่..อ๋อ ใช่มั้ย ว่าแล้วบูดาเพสต์มันมีอะไรสำคัญกับ Black Widow ล่ะ หยิบมาใส่หนังทำไม งั้นต้องพากันย้อนอดีตไปสักหน่อย ใน Avergers ภาคแรกปี 2012 นาตาชา โรมานอฟ และ คลินต์ บาร์ตัน เป็นซูเปอร์ฮีโร คู่หูที่ออกศึกร่วมกันอยู่บ่อยครั้ง อย่างในภาคแรกนี้ เธอและคลินต์ ก็แท็กทีมกันต่อสู้กับกองทัพชิทัวรี ที่มาโจมตีโลก ระหว่างที่ต่อสู้กันอย่างเมามันส์นั้น ทั้งคู่ก็ยังพูดคุยกันไปด้วยอย่างอารมณ์ดี นาตาชา เป็นคนเปิดประโยคสนทนาว่า “นี่มันเหมือนตอนที่อยู่ในบูดาเพสต์กันเลยนะ” แล้วคลินต์ก็ตอบกลับมาทันทีว่า “เธอกับชั้นนี่มีความทรงจำถึงบูดาเพสต์ต่างกันมากนะ”
ประโยคนี้ล่ะครับ ที่มีความนัยซ่อนอยู่ เหมือนจะไม่มีอะไรสลักสำคัญกับเนื้อหาหลักมากมายนัก คนดูก็เข้าใจเพียงว่า นาตาชา กับคลินต์ น่าจะเคยออกปฏิบัติการกร่วมกันมาแล้วในบูดาเพสต์ ซึ่งเป็นปฏิบัติการย่อย ๆ ของทีมอเวนเจอร์ส ที่ไม่ถูกหยิบมาเล่าเป็นฉากในหนัง แต่การที่เมืองบูดาเพสต์ ถูกหยิบเป็นฉากหลังในหนัง Black Widow แบบนี้ล่ะก็ เราน่าจะได้เห็นกันล่ะว่า มันมีประเด็นสำคัญอย่างไรในปฏิบัติการที่ว่านั้น แล้วก็เป็นไปได้สูงว่าเราน่าจะได้เห็น Hawkeye มาปรากฏตัวในบทรับเชิญ
2.การกลับมาของโจทก์เก่า
ต่อเนื่องไปในตัวอย่างหนัง หลังจากโชว์ฟุตเตจเก่า ๆ กับผองเพื่อนในทีมอเวนเจอร์ส เราก็เห็นนาตาชา ลงรถไฟมาที่สถานีบูดาเพสต์ จากนั้นก็ตัดภาพไปเป็นขบวนรถคอนวอยทหาร ที่วิ่งต่อแถวเรียงยาวไปยังจุดหมายที่ไหนนั้นเรายังไม่ทราบ แต่อีกแพร้บเดียวเท่านั้น เราก็เห็นผู้นำขบวนรถคอนวอยนี้ ซึ่งก็คือ นายพลแธดเดียส “ธันเดอร์โบลต์” รอส ผู้ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับอเวนเจอร์สมายาวนาน และก่อนหน้านั้นก็เป็นตัวร้ายในหนัง The Incredible Hulk
นายพลรอส มีบทบาทอย่างมากใน Captain America: Civil War เขาก็เป็นตัวตั้งตัวตีในฝ่ายรัฐบาล ที่สนับสนุนให้ซูเปอร์ฮีโร จะต้องลงทะเบียนอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐ จุดเริ่มต้นความแตกหักของเหล่าอเวนเจอร์ส ในวันนั้น นาตาชา โรมานอฟ ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับ Iron Man ผู้สนับสนุนกฏหมายลงทะเบียนซูเปอร์ฮีโร แต่เมื่อถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ที่เธอต้องเผชิญหน้ากับ สตีฟ โรเจอร์ และบัคกี้ บาร์น ซึ่งกำลังหลบหนี เธอก็ตัดสินใจปล่อยทั้งสองไป การกระทำของเธอไม่อาจพ้นสายตาของนายพลรอสไปได้ ทำให้สถานภาพของเธอในฝั่งรัฐบาลนี้ไม่ปลอดภัยเสียแล้ว
สุดท้ายใน Avengers: Infinity War เราก็ได้เห็นนาตาชา โรมานอฟ เปลี่ยนข้างมาอยู่กับ สตีฟ โรเจอร์ส และ แซม วิลสัน ที่หลบซ่อนอยู่ในสก็อตต์แลนด์ จากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ยืนยันได้ว่าระหว่างนายพลรอส ต้องมีเรื่องราวที่อยากสะสางกับนาตาชา โรมานอฟ อย่างแน่นอน
3.Taskmaster ตัวร้ายของเรื่องนี้
ตัวอย่างเพียงแค่ 2 นาทีนี่ แต่ก็ให้เราได้เห็นตัวละครใหม่ ๆ มากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ Taskmaster (ทาสก์มาสเตอร์) อีกหนึ่งวายร้ายตัวฉกาจจากจักรวาลการ์ตูนมาร์เวล ที่ถูกสร้างสรรค์มาตั้งแต่ปี 1980 ในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูนนั้น ทาสก์มาสเตอร์ เป็นวายร้ายที่ต่อกรกับเหล่าอเวนเจอร์สทั้งทีม แต่เมื่อทาสก์มาสเตอร์ไม่ถูกเลือกให้ปรากฏตัวใน Avengers ทั้ง 3 ภาค ทางมาร์เวลก็เลยเลือกให้มาทำหน้าที่ในหนังเดี่ยวของ Black Widow แทน
ทาสก์มาสเตอร์ เป็นซูเปอร์วายร้ายที่มีความสามารถพิเศษน่าสนใจ ตรงที่สามารถลอกเลียนความสามารถพิเศษของทุกผู้ทุกคนได้ ทั้งวิชาการต่อสู้ และการใช้อาวุธต่าง ๆ นานา เพียงแค่มองเห็นแค่แว้บเดียวก็สามารถจดจำและนำมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์ อย่างในตัวอย่างแรกของ Black Widow นี้ เราก็เห็นแล้วว่า ทาสก์มาสเตอร์ เปิดตัวมาพร้อมกับธนูในมือ แค่นี้เราก็รู้แล้วว่าทาสก์มาสเตอร์ลอกเลียนความสามารถนี้มาจากใคร ก็น่าจะเป็นอีกหลักฐานสนับสนุนว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูง ที่เราน่าจะได้เห็น คลินต์ บาร์ตัน มาร่วมพะบู๊กับเพื่อนซี้ และอีกหนึ่งข้อสงสัยที่ยังไม่มีการเปิดเผยจากมาร์เวล ว่านักแสดงคนไหนน้อ ที่อยู่ภายใต้หน้ากาก Taskmaster และยังไม่สามารถฟันธงได้อีกว่า Taskmaster เวอร์ชันนี้จะยังคงเป็นผู้ชายเหมือนในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูนหรือไม่
4.ราเชล ไวซ์ ในบท Iron Maiden
พอเป็นหนังเดี่ยวของ Black Widow ทีมงานก็ต้องทำการบ้านด้วยการคัดเลือกคาแรกเตอร์เด่น ๆ จากหนังสือการ์ตูน Black Widow ว่าจะเอาใครมาปรากฏตัวในเวอร์ชันภาพยนตร์บ้าง ในตัวอย่างนี้เราก็ได้เห็น 3 ตัวละครเด่นจากหนังสือการ์ตูนกันแล้ว
รายแรกคือ เยเลนา เบโลวา รับบทโดย ฟลอเรนซ์ พิวจ์ นักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่ที่กำลังมีงานชุก Fighting with My Family, Midsommar ในตัวอย่างนี้เธอเปิดตัวด้วยการประมือกับ นาตาชา โรมานอฟ ในห้องพักแคบ ๆ ที่เผยต่อมาว่าเป็นการทักทายกันของเพื่อนเก่า
รายต่อมาคือ อเล็กซี โชสตาคอฟ ฉายา the Red Guardian รับบทโดย เดวิด ฮาร์เบอร์ ที่แจ้งเกิดมาจากทีวีซีรีส์ฮิต Stranger things แล้วก็เพิ่งเจ๊งบ๊งไปกับ Hellboy เวอร์ชันใหม่ อเล็กซี ปรากฏมาในชุดฟอร์มที่เหมือนกับ กัปตันอเมริกาเวอร์ชันรัสเซีย
และรายสุดท้ายคือ เมลินา วอสโตคอฟ ที่ได้ ราเชล ไวซ์ นักแสดงระดับออสการ์มารับบทเลยเชียว, ทั้งเมลินา และเยเลนา นั้นคือศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสถาบัน “Red Room” องค์กรที่ผลิตนักฆ่าของรัสเซีย ที่เดียวกันกับ นาตาชา โรมานอฟ สำเร็จวิชามานั่นแหละ
ทั้ง 3 รายหน้าใหม่นี้ รายที่น่าจับตามองมากสุดก็คือ เมลินา วอสโตคอฟ นี่ล่ะ เธอมีบทบาทอย่างมากในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูน เธอมีฉายาว่า Iron Maiden เป็นศิษย์พี่ที่มีความอาฆาตแค้นกับ นาตาชา โรมานอฟ ถึงกับพยายามฆ่าเธออยู่หลายครั้ง ก็เชื่อได้แน่ว่า เมลินา ในหนังก็น่าจะต้องมีบทบาทไม่น้อย ถึงได้เลือกเอานักแสดงมากฝีมืออย่าง ราเชล ไวซ์ มารับบทนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้แน่นอนว่า เมลินาเวอร์ชันนี้จะถอดบุคลิกเรื่องราวมาจากหนังสือการ์ตูนเป๊ะเลยหรือไม่ แต่ตอนนี้เดากันไว้ก่อนเลยว่า เมลินา คือหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่อยู่ภายใต้หน้ากาก Taskmaster แล้วล่ะ
5.Red Guardian ปะทะ Taskmaster
เดวิด ฮาร์เบอร์ ในบท อเล็กซี โชสตาคอฟ หรือ Red Guardian นั้น ดูวี่แววแล้ว น่าจะมาในภาพลักษณ์ที่ใกล้เคียงกับ นายอำเภอ จิม ฮอปเปอร์ จาก Stranger Things นั่นล่ะ คือมาในบทบาทผู้ใหญ่น่ารักใจดี แม้จะมีอดีตที่คร่ำหวอดในวงการมาอย่างยาวนาน จากภาพลักษณ์ของ Red Guardian ที่เราเห็นในตัวอย่างคือ เดวิด มาพร้อมกับหนวดเครารุงรัง ยิ้มแย้มใจดี เป็นเสน่ห์แบบเดิมที่ทำให้คนดูรักเค้าใน Stranger Things นั่นล่ะ ซึ่งก็ทำให้คนดูหลายคนเสียน้ำตาให้เค้ามาแล้ว
พอแนะนำตัว Taskmaster แล้ว ก็แนะนำตัว Red Guardian ต่อ พอถึงช่วงท้ายแล้วเราก็ได้เห็นฉากคู่นี้ต่อสู้กัน ระหว่างนักสู้สูงวัยที่ผ่านศึกมามาก ดูได้จากชุดเกราะที่ซอมซ่อ ต่อสู้กับวายร้ายที่พิษสงฉกาจฉกรรจ์ ผลแพ้ชนะนั้นคงคาดเดาไม่ยาก ซึ่งมันทำให้อดคาดเดาไม่ได้ว่า หนังน่าจะมาทางดราม่าเสียแล้ว ถ้ารักถ้าชอบ Red Guardians ก็ขอให้เป็นการคาดเดาที่ผิดก็แล้วกันเนอะ
6.ผู้สืบทอดตำแหน่ง Black Widow
หลังจากการประมือกันอย่างรุนแรงเมื่อแรกเจอ นั้นสรุปว่านั่นคือการทักทายประสานักฆ่าจาก Red Room แล้วสุดท้ายเราก็ได้ยินนาตาชา เรียก เยเลนา ว่า Sis หรือ น้องสาวนั่นเอง ซึ่งรายนี้ไม่น่าจะต้องสงสัยว่าเธอจะเป็นมิตรหรือศัตรู เพราะช่วงท้าย ๆ ในตัวอย่างนี้ก็ได้ฉากแอ็กชันที่เล่นใหญ่ ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นฉากไคลแมกซ์ของเรื่องนี้ล่ะ ในฉากนี้เราได้เห็น นาตาชา ดิ่งพสุธาลงสู่ฐานทัพของเหล่าวายร้าย มีเหล่าสมุนในชุดเกราะพร้อมปืนกลที่ดิ่งไล่หลังเธอลงมา ทำหน้าที่ยืนยันแล้วว่า เยเลนา ได้ทำหน้าที่ระวังหลังให้ นาตาชา อย่างจริงจัง ด้วยการยิงปืนจรวดใส่ฝ่ายตรงข้าม
ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเนื้อหาส่วนนี้จะยังคงเดินตามเรื่องราวในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูน ซึ่งเยเลนา ก็คือผู้มารับช่วง Black Widow ต่อจาก นาตาชา โรมานอฟ ซึ่งการแนะนำตัวเธอเข้ามาในจักรวาลหนังมาร์เวล ก็เป็นช่วงเวลาที่สอดคล้องกับการที่ นาตาชา โรมานอฟ ได้สละชีพไปแล้วใน End Game แล้วอีกหลักฐานที่ดูสอดคล้องก็คือการเลือก ฟลอเรนซ์ พิวจ์ มารับบทนี้ ซึ่งเหมาะสมทั้งวัยและชื่อเสียง ฟลอเรนซ์ ซึ่งกำลังอยู่ในช่่วงขาขึ้นของอาชีพนักแสดง และในวัยเพียง 23 ปี ถ้าให้เธอรับช่วง Black Widow ก็สามารถอยู่กับจักรวาลหนังมาร์เวลไปได้อีกนาน
บทวิเคราะห์ทั้งหลายทั้งปวงข้างต้นนั้นอิงตามเนื้อหาจากหนังสือการ์ตูน และรูปแบบการตลาดที่เราคุ้นเคยของมาร์เวล ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูง แต่กว่าเราจะได้รู้คำตอบที่แน่ชัด ก็เกือบ ๆ กลางปีหน้านู่นเลย กว่าจะถึงตอนนั้น เราก็จะได้เห็นตัวอย่างที่ 2 ที่ 3 ออกมาอย่างแน่นอน บางข้อสงสัยน่าจะได้รับการเฉลยตั้งแต่ในตัวอย่างต่อไปก็เป็นได้ แต่ถึงตอนนี้ก็นับว่า Black Widow เป็นอีกหนึ่งหนังมาร์เวลเฟส 4 ที่น่าสนใจล่ะครับ ผู้อ่านคิดเห็นเป็นอย่างไร พ้องตามหรือแตกต่างแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลยครับ