Our score
7.6The Kings Avatar For the Glory เทพยุทธ์เซียนกลอรี่
จุดเด่น
- งานภาพเว่อวังและสวยขึ้นกว่าฉบับซีรีส์
- ได้เห็นข้อมูลใหม่ ๆ ในตัวเรื่องมากขึ้น
- ฉากดราม่าสะเทือนไตดี
- เอาใจแฟนเดิมมาก
จุดสังเกต
- ไม่เคยดูมาก่อน จะไม่สนุกเลย ดราม่าเยอะจนน่าเบื่อ
- แอ็กชันน้อย มีฉากใหญ่ครั้งเดียว
-
ความสมบูรณ์ของบท
7.5
-
คุณภาพการพากย์
7.5
-
คุณภาพการผลิต
8.5
-
ความสนุกน่าติดตาม
7.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
7.5
เรื่องย่อ เมื่อ E-Sports ได้กลายเป็นกีฬาที่ได้รับการยอมรับเป็นอันดับที่ 78 ภายในประเทศจีน การแข่งขันของลีกของเกมส์กลอรี่ครั้งแรกก็ได้เริ่มเปิดฉากขึ้น เยี่ยชิว และ ซูมู่ชิว ในวัย 18 ปี ได้เข้าร่วมทีมอีสปอร์ตชื่อ “เจียซื่อ” โดยการแข่งครั้งนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเค้าจะเข้าไปถึงในรอบรายการสุดท้ายของการแข่งขันแต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น…พวกเขาจะแก้ปัญหาครั้งนี้เพื่อก้าวสู้การเป็นแชมป์เกมส์กลอรี่ครั้งนี้ได้หรือไม่?
The King’s Avatar หรือ Quánzhí Gāoshǒu (全职高手) หรือในไทยรู้จักดีในนาม เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ นับเป็นหนึ่งในคอนเทนต์แรงจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่เบิกศักราชของตัวเองจากนิยายออนไลน์เมื่อปี 2013 จากปลายนิ้วและมันสมองของ หูเตี๋ยหลาน จนถูกต่อยอดความฮิตมาถึงฉบับรูปเล่มที่ในไทยก็มีสำนักพิมพ์สยามฯ ซื้อสิทธิ์มาแปล และยังมีการต่อยอดไปอีกหลายสื่อทั้ง แอนิเมชันซีรีส์ ไลฟ์แอ็กชันซีรีส์ และอื่น ๆ โดยเฉพาะตัวแอนิเมชันซีซันแรกเมื่อปี 2017 จำนวน 12 ตอนนั้นประสบความสำเร็จไม่น้อยมีกลุ่มแฟนติดตามพอสมควรและสามารถหาชมได้ทางบริการสตรีมมิงอย่าง WeTV (โดย 3 ตอนแรกมีให้ชมฟรีบนยูทูบด้วย) ส่วนทางฝั่งไลฟ์แอ็กชันก็ถูกเน็ตฟลิกซ์คว้ามาลงแถมได้ทำยาว ๆ ถึง 40 ตอนเลยทีเดียว เรตติ้งก็ไม่ธรรมดาเพราะตัวแอนิเมชันสามารถทำคะแนนบน imdb ไปได้ถึง 7.8/10 และตัวไลฟ์แอ็กชันก็ได้คแนนไปถึง 8.2/10 ด้วย และระหว่างที่เราได้แต่รอซีซันที่ 2 ซึ่งมีแพลนจะตามออกมาเร็ว ๆ นี้ เรายังมีโอกาสดีที่ได้ดูแอนิเมชันฉบับมูฟวี่ของเรื่องนี้ก่อนด้วยในชื่อ The King’s Avatar: For the Glory
ความสำเร็จของตัวแอนิเมชันซีรีส์เรื่องนี้ก็คงเป็นการผสมผสานแนวเทพเซียนที่ฮิตมาก ๆ ในหนังจีนกำลังภายในยุคใหม่ แล้วยังเอาเข้ากับการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตที่กำลังมาแรงไม่แพ้กันโดยเฉพาะในจีนที่มีค่ายยักษ์อย่าง Tencent สนับสนุนด้วยแล้ว โดยตัวเกมกลอรี่ที่อยู่ในเรื่องก็ยังเป็นการกวาดเกมแนว เกมรบผู้เล่นหลายคน (MOBA), เกมภาษา (RPG) และเกมต่อสู้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) ที่เป็นที่นิยมในแนวของตัวเองมาผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกัน และยังมีลีกการแข่งขันขนาดใหญ่เรียกว่าเหมือนวงการอีสปอร์ตในโลกจริงเลยล่ะ ทั้งนี้จากที่ดูฉบับแอนิเมชันมาก็พอเข้าใจได้ว่าหูเตี๋ยหลานใช้หัวใจของนิยายกำลังภายในแบบที่คนชอบมาพัฒนาแบบร่วมสมัย ด้วยพลอตแบบยอดจอมยุทธ์ที่ถูกขับออกจากสำนักอย่างไม่เป็นธรรม (ผู้เล่นอันดับหนึ่งของเกมถูกขับออกจากทีมที่สังกัด) และเขาก็เร้นกายปลอมตัวเป็นคนธรรมดาและอาศัยทำงานในโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ เพื่อฝึกวิชาให้ต้นกล้าหน้าใหม่มีวรยุทธแข็งแกร่งขึ้นเพื่อกลับไปปราบอธรรม (ซ่อนชื่อและมาเป็นคนเฝ้าร้านเน็ตคาเฟ่คอยสอนผู้เล่นหน้าใหม่ที่มีแววเพื่อปั้นทีมกลับไปสู่สนามแข่ง) ช่วงเวลาของการให้เทพตบเกรียนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมาปากดีหาเรื่องก็เป็นตลกปนมันที่สร้างความอิ่มเอมให้เราสนุกอยู่ได้เสมอ ทั้งการที่ตัวเอกต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามและท้าทายสำหรับเราด้วย
ทว่าสำหรับในฉบับหนังแอนิเมชันฉายโรงนี้ จะกลับไปเล่าถึงก่อนการกำเนิดของเทพ เยี่ยชิว หรือพระเอกของเรา ในช่วงก่อนที่จะมาเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของเกม เล่าถึงการมีเพื่อนที่กอดคอร่วมฝันจะสร้างความยิ่งใหญ่ให้ลีกการแข่งขันในฐานะโปรเกมเมอร์มาด้วยกัน โดยตั้งทีมรวมคนต่างนิสัยใจคอมาตะลุยลีกการแข่ง ทว่ากลับมีอุปสรรคเกิดขึ้นตามมามากมาย โดยเฉพาะเรื่องไม่คาดฝันที่พลิกเรื่องราวอย่างจังในช่วงกลางเรื่อง ซึ่งดูจากภาพรวมการเล่าเรื่องจะเปลี่ยนจากแนว แอ็กชัน คอมเมดี้ เชือดเฉือน มากลายเป็นหนังแนวดราม่าเป็นหลักไปเลย สรุปเอาง่าย ๆ เลยว่าถ้าไม่ใช่แฟนเดิมของแฟรนไชส์มาดูครั้งแรกคือมีหลับล่ะ แต่ในฐานะคนที่ติดตามแอนิเมชันซีรีส์มามันก็มีจุดที่น่าสนใจที่ฉบับทีวีซีรีส์ไม่ได้ให้ข้อมูลไว้เยอะพอควร โดยเฉพาะปูมหลังของเยี่ยชิวที่บอกตรง ๆ ว่ามีเซอร์ไพรส์เยอะเหมือนกัน นอกจากนี้ยังจะได้เจอตัวละครใหม่ ๆ เพียบที่เชื่อว่าจะมีบทบาทสำคัญ ๆ ในซีซันที่ 2 และเราจะได้ว้าวกับการที่หนังจบลงแล้วไปเชื่อมต่อกับแอนิเมชันซีซั่น 1 ได้แบบเข้าใจมากขึ้นด้วย
ส่วนด้านที่ต้องชื่นชมว่าคนจีนเก่งเอามาก ๆ คือการผลิตแอนเมชันแบบ 2 มิติผสม 3 มิติ ได้คุณภาพสูงใกล้เคียงเบอร์ใหญ่ในปัจจุบันอย่างญี่ปุ่นแล้ว ยิ่งในเวอร์ชันหนังโรงนี่มีการปรับลายเส้นให้พิถีพิถันขึ้นอีก ต้องบอกว่าสุดยอดมาก ๆ ยิ่งฉากในเกมการต่อสู้ต่าง ๆ มีฉากใหญ่ ๆ ที่น่าจดจำโดยเฉพาะไคลแม็กซ์ช่วงท้ายที่เป็นรอบชิงแชมป์ ทั้งยังการกลายร่างซูเปอร์ไซย่านี่คือตื่นเต้นสุด ๆ จุดที่น่าเสียดายในเรื่องแอ็กชันก็มีตรงที่หนังเล่าข้าม ๆ การแข่งช่วงแรกที่ไม่สำคัญไปเยอะมาก คือได้ดูสู้จริงจังก็เกือบจบเรื่องจริง ๆ แถมการอธิบายกติกาใด ๆ ในเกมสำหรับคนดูครั้งแรกก็เรียกได้ว่ามึนพอสมควร เหมือนว่าสร้างมาเอาใจแฟนเดิมมากกว่าสร้างแฟนกลุ่มใหม่อย่างชัดเจนเลย
อย่างไรก็ดีนี่เป็นแอนิเมชันที่โปรดักชันสวยมากเรื่องหนึ่ง มีความเป็นสไตล์จีนชัดเจน และน่าจะเหมาะกับคนที่เคยชื่นชอบแอนิเมชันซีรีส์ หรือดูไลฟ์แอ็กชันมาก่อนมากกว่าที่จะได้รู้เกร็ดรายละเอียดต่าง ๆ มากขึ้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส