ในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้รณรงค์ให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นช่วงเวลาอันดีที่จะมีผู้ใช้ความสนใจใช้แอปโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok มากขึ้น เพื่อนำเสนอไอเดียสร้างสรรค์ผลงานของตนผ่านแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย และสามารถสร้างรายได้ ซึ่งส่งผบทำให้มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 2,000 ล้านคนเลยทีเดียว
“ราชินี” ของ TikTok ที่ทั่วโลกรู้จัก
หนึ่งในผู้ที่ประสบความสำเร็จบน TikTok เป็นอย่างมาก คือ Charli D’Amelio (ชาร์ลี ดาเมลิโอ) นักเต้นสาวชาวอเมริกันวัย 16 ปี ซึ่งไดรับการขนานนามว่า “ราชินีแห่ง TikTok” โดยเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2020 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ติดตามเธอมากกว่า 50 ล้านคนแล้ว
Charli D’Amelio กำลังจะได้ไปออกรายการ The Tonight Show (เป็นครั้งที่ 2) ซึ่งเธอจะกล่าวกับพิธีกร Jimmy Fallon (จิมมี ฟอลลอน) เกี่ยวกับคลิปเต้น #DistanceDance ที่เธอได้ทำขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมรณรงค์ให้ผู้คนกักตัวอยู่ที่บ้านในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น มีผู้ชมมากถึง 13,000 ล้านครั้ง และยังเป็นการร่วมบริจาคเงินให้แก่ผู้ที่ประภัยจากวิกฤตินี้ด้วย
แน่นอนว่าชื่อเสียงบนโลกอินเตอร์เน็ตนั้นมาค่อนข้างเร็ว จากเมื่อปีก่อนที่ Charli D’Amelio ได้เริ่มโพสต์คลิปแรกบน TikTok ในตอนนี้เธอมีรายได้หลักล้าน โดยมีทีมตัวแทน, ผู้จัดการ และทนาย คอยทำงานอยู่เบื้องหลังตลอดเวลา
แม้ว่ากระแสบนโลกอินเตอร์เน็ตจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ TikTok ก็กำลังเติบโตและสร้างความสนใจให้แก่วงการภาพยนตร์ในฮอลลีวูดด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวแทนของ Charli D’Amelio ได้กล่าว่า “นี่เป็นพื้นที่เราได้ค้นพบคนที่มีความสามารถพิเศษใหม่ ๆ ได้”
TikTok ได้เริ่มเข้ามาในสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงซัมเมอร์ 2018 โดยมีกลุ่มบริษัทสัญญาติจีนอย่าง ByteDance เป็นเจ้าของ ซึ่งบรษัทจัดเก็บสถิติข้อมูล Sensor Tower ได้ประมาณการณ์ว่ามียอดดาวน์โหลดมากกว่า 2,000 ล้านครั้ง โดย TikTok ได้กลายเป็นแพลตฟอร์ที่นำเสนอวิดีโอความยาว 15 วินาที ที่ได้รับความนิยมในผู้หญิงและเด็ก โดยทางบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Comscore ได้รายงานว่าผู้ใช้ที่เป็นผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ จำนวนมากกว่า 22.6% นั้น มีอายุระหว่าง 18 – 24 ปี
ลักษณะการเติบโตของ TikTok นั้น คล้ายคลึงกับ Snapchat และ Instagram แต่ TikTok นั้น จะเน้นความเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอโซเชียลที่จะมาแข่งกับ YouTube ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ไว้
TikTok ทรงอิทธิพลขนาดไหน ?
เมื่อเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่าน ผู้คน (ในสหรัฐอเมริกา) ได้เริ่มกักตัวอยู่บ้านในช่วงวิกฤติ COVID-19 ซึ่งทำให้ยอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นอีก 51% โดยมีเวลาที่ผู้ใช้ได้ใช้แอปในเดือนมีนาคม โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 858 นาที หรือประมาณ 14 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งเป็นจังหวะที่การสร้างภาพยนตร์ในฮอลลีวูดได้หยุดชะงักลง และก็มีการโพสต์วิดีโอจำนวนมากบนแพลตฟอร์ม TikTok ให้ผู้คนได้ติดตามแทน ยกตัวอย่างเช่น Jennifer Lopez (เจนนิเฟอร์ โลเปซ) และ Alex Rodriguez (อเล็กซ์ ร็อดริเกซ), Megan Thee Stallion, Jason Derulo (เจสัน เดอรูโล) หรือแม้กระทั่งนักแสดงร่างใหญ่อย่าง Terry Crew (เทอร์รี ครูวส์) ก็ยังชื่นชอบการโพสต์วิดีโอลงบน TikTok
หลังจากที่ YouTube ได้สร้างกระแสงอย่างล้นหลามในฮอลลีวูด ในขณะนี้ก TikTok ก็จะทำในลักษณะเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น นักร้องสาวชื่อดังอย่าง Rihanna (รีแอนนา) ได้เปิดบ้าน Fetny Beauty House ที่ลอสแอนเจลิส เพื่อผู้ที่สนใจมาใช้ผลิตคอนเทนต์สำหรับ TikTok เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และความงาม, Netflix และ Warner Bros. เริ่มปล่อยวิดีโอโปรโมตผ่าน TikTok, Tabitha Brown ทำวิดีโอสอนทำอาหารมังสวิรัติบน TikTok และได้เซ็นสัญญาเป็นเงิน 6 หลัก เพื่อทำรายการโทรทัศน์ เป็นต้น
Casey Neistat (เคซี เนสตัต) ยูทูเบอร์ที่ขายแอปวิดีโอของเขาให้กับ CNN เมื่อปี 2016 ด้วยมูลค่า 25 ล้านเหรียญ ได้กล่าวว่า “ตอนนี้ ไม่มีพื้นที่ใดที่จะสร้างสร้างอิทธิต่อผู้คนได้ร้อนแรงมากกว่า TikTok อีกแล้ว”
TikTok ช่วงเริ่มต้น…
ก่อนที่จะมี TikTok นั้น ได้มีการเปิดตัวแอป Musical.ly จากประเทศจีน เมื่อปี 2014 ที่ให้ผู้ใช้ได้ ลิปซิงก์ (Lip-Sync) เพลงพอปต่าง ๆ โดยมีผู้ใช้ในสหรัฐฯ มากถึง 20 ล้านคน จากนั้นบริษัท ByteDance ก็ซื้อกิจการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 ด้วยมูลค่า 1,000 ล้านเหรียญ และได้รวม Musical.ly เข้ากับ TikTok เมื่อเดือนสิงหาคม 2018 อีกทั้งยังได้มีการเปิดตัว TikTok เวอร์ชันสำหรับประเทศจีนที่มีชื่อว่า Douyin อีกด้วย
ในช่วงเริ่มแรก TikTok ได้พยายามขยายตลาดโดยทุ่มเงินหลายล้านเหรียญให้กับเหล่ายูทูบเบอร์ หรือนักทำอินสตาแกรม ในการโพสต์คอนเทนต์บนแอป TikTok เพื่อขยายตลาดไปถึงผู้ที่ติดตามพวกเขาเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง อัลกอริทึม ของ TikTok ยังทำงานโดยการผลักดันวิดีโอที่ได้รับความนิยม ให้ผู้ชมจากกลุ่มเห็นมากขึ้น แม้แต่ผู้โพสต์ที่มีจำนวนผู้ติดตามไม่มาก ก็ยังสามารถได้รับกระแสนิยมได้ถ้าหาก อัลกอริทึม ได้ประเมินว่าวิดีโอของพวกเขาอยู่ในเกณฑ์ “ดี”
David Dobrik (เดวิด โดบริก) ที่เคยประสบความสำเร็จบนแอป Vine และมีผู้ติดตามใน YouTube ถึง 17 ล้านคน ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หันมาใช้ TikTok เรื่องจากได้รับเงินสูงกกว่า โดยเขาได้กล่าวว่า “TikTok ก็คือแอปอย่างที่ Vine ควรจะเป็น” โดยในปี 2019 นั้น ได้มีการขยายผู้ใช้ออกไปในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็น นักดนรีบีตบ็อกซ์ Spencer (ผู้ติดตาม 29 ล้านคน), ครอบครัว McFalands (ผู้ติดตาม 1 ล้านคน), การทำอาหารที่บ้านของ Newton Nguyen (ผู้ติดตาม 4.2 ล้านคน) ไปจนถึง Lil Nas X ที่ทำให้เพลง Old Town Road ได้รับควานิยมจนติดอันดับที่ 83 บนชาร์ต Billboard Hot 100 แล้วไต่ขึ้นไปถึงอันดับที่ 1 ได้สำเร็จ
สร้างกระแส TikTok
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ TikTok คือการใช้ง่าย โดยมันได้รับการออกแบบให้เข้าถึงทุกเพศ, ทุกวัย, ทุกอาชีพ ซึ่งทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ และสร้งแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ ทำตามและส่งต่อไปอีกได้ โดยจะเห็นได้จากช่วงซัมเมอร์ 2019 ที่เป็นยุคทองของ TikTok เลยก็ว่าได้
ในตอนนั้น ผู้คนเริ่มรับรู้ถึงศักภาพของแพลตฟอร์มนี้ จากนั้น Charli D’Amelio ได้โพสต์คลิปแดนซ์บนแอป ก็ตามมาด้วยนักเต้นอย่าง Addison Rae Easterling (แอดดิสัน แร อีสเทอร์ลิง) ที่ตอนนี้มีผู้ติดตามมากถึง 38 ล้านคนแล้ว รวมถึง Tomlinson อายุ 22 ปี ได้โพสต์การทำ Kombucha เป็นครั้งแรกจากได้รับฉายาว่า Kombucha Girl ได้เปลี่ยนชื่อเป็น @Brittany_Broski และมีผู้ติดตาม 3.9 ล้านคน โดยเธอเลือกที่จะเดินในเส้นทางการสร้างมีม (Meme) อย่างจริงจัง และได้ถูกไล่ออกจากธนาคารที่เธอทำงานในเวลาต่อมา
เมื่อยอดผู้ติดตาม Charli D’Amelio ได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเริ่มตัน ก็ยังมี Dixie พี่สาววัย 18 ปี มาช่วยสร้างกระแสต่อ โดยเธอที่มีผู้ติดตาม 22.7 ล้านคน และเน้นไปที่กสร้างตัวตนของเธอบนแอปนี้อย่างจริงจัง อีกทั้งพ่อกับแม่ของทั้ง 2 คน ที่ใช้ TikTok เพื่อเฝ้าดูการโพสต์ของลูกสาวทั้ง 2 คน ก็มีผู้ติดตามหลายล้านคนเลยทีเดียว
หลายคนตั้งเริ่มคำถามว่า เหตุใด TikTok จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินเดีย
TikTok มีรายได้จากไหน ?
ในช่วเริ่มแรก จำนวนผู้ใช้ TikTok นั้น เพิ่มขึ้นเป็นลำดับอย่างช้า ๆ ตามลักษณะของแอปที่ยังไม่มีสีสันอะไรมาก และยังไม่มีแบรนด์หรือคนดังมาช่วยกระตุ้น แล้ว TikTok ก็เริ่มใช้การโฆษณาในปี 2019 ซึ่งยังคงไม่ได้รับกระแสตอบรับในวงกว้าง จนกระทั่ง Netflix ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ต้องการผู้ชมเป็นคนรุ่นใหม่ ได้เริ่มใช้ TikTok ในการโฆษณาเมื่อปลายเดือนเมษายน 2019
เมื่อเริ่มมีรายได้จากการโฆษณา แพลตฟอร์มก็มิได้แยกรายได้จากโฆษณาให้กับแก่ผู้ผลิตคอนเทนต์อย่างที่ YouTube ทำ แต่จะนำไปทำการตลาดเพื่อให้แบรนด์และผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ ซึ่งเรียกว่าทาง TikTok เชื่อว่าจะทำให้เกิดรูปแบบส่วนแบ่งรายได้ที่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ TikTok ก็มองหาการสร้างรายได้ในรูปแบบอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นพอดแคสต์, การขายสิ้นค้า ไปจนถึงการอีเวนต์สด ซึ่งแหล่งข่าววงในรายงานว่า TikTok ได้เรียนรู้ความผิดพลาดจาก Vine ที่ประสบความล้มเหลวมาก่อนแล้ว โดยพนักงานของแอปจะทำงานร่วมกับผู้ใช้เพื่อให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้ติดตามได้ หรือวิเคราะห์เพื่อให้วิดีโอได้รับการเข้าถึงได้มากขึ้น และยังมีของขวัญเล็ก ๆ น้อย ส่งให้ผู้ผลิตอีกด้วย
TikTok …ไม่เล็กนะครับ
ศูนย์กลางของ TikTok นั้น เป็นคฤหาสน์ที่ถูก่เช่ามา (หลายเดือนแล้ว) ที่ตีเนินของ San Fernando Valley ซึ่งเป็นที่ตัองของ Base Camp ที่เรียกว่าบ้าน Hype House สำหรับกลุ่มผู้สร้าง
เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2020 ที่ผ่านมา ได้มีรายงานว่า Charli D’Amelio และ Addison Rae Easterling ถ็ทาบ้านเป็นสีขาวเพื่อสร้างบรรกาศสำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์รุ่นใหม่ โดย Chase Hudson อายุ 17 ปี ที่ผู้ติดตามมากถึง 19 ล้านคน ได้กล่าวว่า “เราต้องการที่จะสร้างคอนเทนต์ดี ๆ ให้ออกมาเหมือนกับเป็นครอบครัว และทำให้แฟน ๆ รู้สึกว่าเชื่อมโยงถึงอะไรบางอย่างได้”
อีกทั้งความสำเร็จของ TikTok ก็ยังทำให้เกิดโพรเจ็กต์อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นมาอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
- Wheelhouse Group ของ Brent Montgomery (เบรนท์ มอนต์โกเมอรี่) ที่กำลังสร้างซีรีส์เรียลลิตีเกี่ยวกับ Hype House ที่เป็นเหมือน Mick Mouse Club ยุคใหม่
- ครอบครัว D’Amelio ได้เซ็นสัญญากับ Industrial Media ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต American Idol โดยพวกเขาจะได้ผลิตรายการเรียลลิตีแนวครอบครัวของตนเอง
- Dixie D’Amelio พี่สาวาของ Charli D’Amelio จะมีผลงานการแสดงซีรีสดิจิทัลเรื่อง Attaway General ของบริษัท Brat
- Addison Rae Easterling พร้อมที่จะไปออดิชันเพื่อหาหนทางเข้าสู่ฮอลลีวูด
- Taylor Felt นักร้องคัฟเวอร์ที่มีคนติดตาม 3 ล้านคน บน TikTok ได้ใช้ผลงานบนแอปเพื่อให้ค่ายเพลงสนใจ และจะให้เธอได้อัดเสียง
Rob Fishman (ร็อบ ฟิชแมน) นักเขียนและเจ้าของบริษัท Brat ที่ทำงานร่วมกับนักแสดงรุ่นใหม่ ได้กล่าวว่า “TikTok เป็นเหมือนแม่เหล็กที่มีพลังสูง ซึ่งสตูดิโอภาพยนตร์ในฮอลลีวูดต้องเรียนรู้ที่จะใช้มัน และไม่วิ่งหนีจากมันไปเสียก่อน”
TikTok ก็มีดรามา
เช่นเดียวกับสื่อโซเชียลอื่น ๆ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วนั้น ต่างก็มีปัญหาดรามาเกิดขึ้นภายใน Hype House โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา Daisy Keech ได้ออกจากลุ่มภายหลังจากที่เกิดปากเสียงกันว่า เธอควรจะได้เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งหรือไม่ โดยเธอได้กล่าวว่า “ผู้หญิงมากมายที่ทำธุรกิจไม่ถูกมองว่าเป็นคนสำคัญ และไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง”
สำหรับ Charli และ Dixie D’Amelio นั้น มีรายงานว่า “เมื่อ Hype House เริ่มกลายเป็นธุรกิจ Chari และ Dixie ก็จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวในส่วนนี้ โดยพวกเธอยังคงมิตรภาพกับสมาชิกคนอื่น ๆ ต่อไป” ส่วน Chase Hudson ก็กล่าวว่า “เรามกันจะอยู่กับเป็นครอบครัว เรามักจะช่วยเหลือกันเสมอ ไม่ว่าจะมีเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
นั่นอาจกล่าวได้ว่า เมื่อฮอลลีวูดเริ่มเข้ามามีบทบาทกับ TikTok สมาชิกของ Hype House ก็เริ่มมีปมดรามาเกิดขึ้นไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการยกระดับตัวเอง, ตั้งกลุ่มใหม่, อกหัก, ถูกปฏิเสธ และสร้างชื่อเสียง
ข้อมูลอ้างอิง : hollywoodreporter
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส