What the Fact ได้รวบรวมข้อมูลตัวเลขรายได้ของภาพยนตร์ไทยที่เคยมีการบันทึกไว้ในช่องทางต่าง ๆ มารายงานกันในวันนี้ โดยตามระบบการบันทึกรายได้ของหนังไทยตลอดมานั้น ยังอ้างอิงการเก็บข้อมูลจากการฉายในโรงที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนข้อมูลตัวเลขที่ขายไปยังสายหนังในจังหวัดอื่น ๆ นั้นเป็นไปตามที่แต่ละค่ายจะเปิดเผยออกมา (ซึ่งมักจะไม่เปิดเผยมากกว่า)
ในจำนวน 20 อันดับนี้ มีหนังของค่ายสหมงคลฟิล์ม ที่เป็นเบอร์หนึ่งยักษ์ใหญ่ของผู้สร้างหนังไทยอยู่ 8 เรื่องก็คือ หนังชุดภาพยนตร์แห่งสยามประเทศ (สุริโยไท และตำนานสมเด็จพระนเรศวรอีก 5 ภาคจากทั้งหมด 6 ภาค) และหนังต้มยำกุ้ง นำแสดงโดยจา พนม ตามมาด้วยค่าย GTH/GDH ที่ครองสถิติ 8 เรื่องเท่ากัน นำโดยหนังพี่มาก..พระโขนง (ที่หากจะนับรวมหนังนางนาก ของค่ายไท เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของค่าย GTH ตอน GTH ยังไม่ถือกำเนิดเข้าไปด้วย ทีมนี้ก็จะถือสถิติใน 20 อันดับถึง 9 เรื่อง)
นอกจากนั้นหากไม่นับทีมนักแสดงและท่านมุ้ย ผู้กำกับหนังชุดสยามประเทศ ผู้กำกับที่มีหนังติดอันดับถึง 2 เรื่องก็คือ เมษ ธราธร จาก ไอฟาย..แต้งกิ้ว..เลิฟยู้ และ ATM เออรัก..เออเร่อ ซึ่งก็ทำให้นางเอก ไอซ์-ปรีชญา มีหนังร้อยล้านติดอันดับอยู่ใน 20 อันดับนี้เช่นกัน อีกคนก็คือนางเอกญาญ่า-อุรัสยา ที่เข้าการจัดอันดับนี้จากหนังปี 2561 ทั้งสองเรื่องคือ นาคี 2 และน้อง.พี่.ที่รัก ส่วนพระเอกที่มีหนังติดอันดับมากสุดก็คือ เบอร์หนึ่งของค่าย GDH อย่างซันนี่ สุวรรณ เมธานนท์ จาก ไอฟาย..แต้งกิ้ว..เลิฟยู้ และ น้อง.พี่.ที่รัก ส่วนแฟรนไชส์ที่มีหนังมากกว่าสองเรื่องติดอันดับอีกชุดก็คือ หลวงพี่เท่ง ภาคแรก และหลวงพี่แจ๊ส 4G รายละเอียดของแต่ละเรื่องจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย
(อ่าน 25 อันดับหนังไทยทำเงินสูงสุด อัปเดตปี 2566 ได้ทางลิงก์นี้)
อันดับ 20 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 4 ศึกนันทบุเรง (131.60 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2554
- นักแสดง: พันเอกวันชนะ สวัสดี, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, นพชัย ชัยนาม, อินทิรา เจริญปุระ, จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, สรพงษ์ ชาตรี, ดอม เหตระกูล, นภัสกร มิตรเอม, ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ
- ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (สุริโยไท, เสียดาย 1-2, มือปืน 2 สาละวิน, ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น)
- ค่ายหนัง: สหมงคลฟิล์ม
- ทำไมถึงดัง: หนังภาค 4 จากทั้งหมด 6 ภาคของหนังตำนานสมเด็จพระนเรศวร หากไม่นับภาค 1 และ 2 ที่ดูจะลงตัวในแง่ของการเป็นหนังมากกว่าการบอกเล่าเรื่องราวตามตำนาน ภาคนี้ที่เว้นระยะห่างจาก 2 ภาคแรกเป็นภาคที่สนุกที่สุดในจำนวน 4 ภาคหลัง จนหลายคนแซวว่า มีแค่ภาค 1 2 และ 4 ก็พอแล้ว
- เรื่องย่อ: ผลจากการปราชัยของหงสาวดีในภาค 3 ยุทธนาวี จากศึกพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งทำให้พระเจ้านันทบุเรงทรงตระหนักในพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวร จึงทรงยกทัพใหญ่มาบุกอโยธยา นำโดยพระมหาอุปราชา มังจาปะโร และลักไวทำมู กิตติศัพท์ความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของพระเจ้าหงสาที่ยกทัพเข้ามานี้ อโยธยาเอาพระนครเป็นที่มั่น จัดทัพเป็นกองโจรคอยเที่ยวตัดลำเลียงเสบียงอาหารข้าศึก ในตอนท้ายของเรื่อง สมเด็จพระนเรศวรทรงออกไปตีค่ายหลวงพม่า พม่าจึงใช้ทหารล่อให้พระองค์ไล่ตีเข้ามาจนถึงบริเวณที่ลักไวทำมูซุ่มรออยู่ แต่สมเด็จพระนเรศวรจึงใช้พระแสงทวนแทงลักไวทำมูตายสุดท้ายกองทัพพม่าจึงถอยทัพกลับไป แต่ขณะเดียวกันพระราชมนูทหารเอกก็ถูกจับตัวไปเป็นเชลย
อันดับ 19 Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน (134.15 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2562
- นักแสดง: นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ, ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, เจสัน ยัง
- ผู้กำกับ: ชยนพ บุญประกอบ (Suckseed ห่วยขั้นเทพ, เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ)
- ค่ายหนัง: GDH
- ทำไมถึงดัง: หนังร้อยล้านเรื่องล่าสุดของค่าย GDH ที่หวังจะแจ้งเกิดนักแสดง นาย-ณภัทร ในหนังที่รับบทนำเต็มตัวเรื่องแรก แล้วก็ประสบความสำเร็จ ด้วยเพราะมีนางเอกอย่าง ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก จาก สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก (2553) ปี 2562 เป็นปีที่มีผลงานดัง ๆ มากมาย หนังอาจดูง่ายไม่เหมือนหนังอย่าง เพื่อนสนิท (2548) ที่เป็นหนังแอบรักเพื่อนสนิทเหมือนกัน แต่ก็เบาสมองและดูเพลินจนจบ
- เรื่องย่อ: “ปาล์ม” คือ หนึ่งในคนที่ติดอยู่ในเฟรนด์โซนของ “กิ๊ง” เพื่อนสนิทของเขามานานเป็น 10 ปี ปาล์มเคยพยายามจะออกจากเขตแดนพิเศษนี้ ด้วยการสารภาพรักกับกิ๊งไปตอน ม.ปลาย แต่ถูกกิ๊งปฏิเสธง่าย ๆด้วยคำว่า “เป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว” นับจากวันนั้น ปาล์มกับกิ๊งก็เป็นยิ่งกว่าเพื่อนสนิท ทุกครั้งที่ปาล์มเลิกกับแฟนไม่ว่ากี่คนต่อกี่คน กิ๊งก็จะคอยด่าเตือนสติ และถ้ากิ๊งมีปัญหาทะเลาะกับแฟน สจ๊วตอย่างปาล์มก็พร้อมจะบินไปหาทันที ไม่ว่ากิ๊งจะอยู่ที่ไหน จะพม่า มาเลย์ หรือฮ่องกง จนเมื่อกิ๊งมีปัญหากับพี่เท็ด แฟนคนปัจจุบัน นี่อาจเป็นโอกาสครั้งสำคัญและครั้งสุดท้ายที่จะได้พิชิตใจกิ๊ง ถ้าไม่ออกจากเฟรนด์โซนก็ต้องถึงเวลาตัดใจจากกิ๊งและเลิกเป็นเพื่อนกันเสียที
อันดับ 18 แฟนฉัน (137.30 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2546
- นักแสดง: แน็ค-ชาลี ไตรรัตน์, โฟกัส จีระกุล, แจ็ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์, ชวิน จิตรสมบูรณ์
- ผู้กำกับ: คมกฤษ ตรีวิมล (เพื่อนสนิท), ทรงยศ สุขมากอนันต์ (ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น), วิทยา ทองอยู่ยง (น้อง.พี่.ที่รัก), นิธิวัฒน์ ธราธร (คิดถึงวิทยา), อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (รถไฟฟ้า มาหานะเธอ), วิชชา โกจิ๋ว
- ค่ายหนัง: 365 ฟิล์ม โดย จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์ส / ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ / หับ โห้ หิ้น ฟิล์ม
- ทำไมถึงดัง: ลบคำสบประมาทของวงการหนังไทยที่บอกว่า “หนังเด็กไม่เคยทำเงิน” ในเวลานั้นไม่เคยมีใครคิดว่าหนังจากค่ายหนังที่ยังไม่ทันรวมตัวได้สนิทของ 3 ยักษ์ใหญ่อย่างฝ่ายผลิตหนังไทยในเครือค่ายเพลงแกรมมี่ ค่ายหนังไทยผู้คร่ำหวอดอย่างค่าย ไท ที่มีผลงานทำเงินเป็นหนังอย่าง สตรีเหล็ก (2543) และบริษัทโปรดักชันอย่างหับ โห้ หิ้น จะดันเด็กจบใหม่ 6 คนจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (โดยการชักนำของรุ่นพี่อย่างจิระ มะลิกุล) ทำหนังย้อนวัยหวาน (ช่วงปี 2528) ที่เรียกกันว่า Nostalgia Theme ออกมาได้โดนใจคนวัย 30-40 ปีที่เป็นกำลังซื้อสำคัญในตอนนั้น ให้ได้กลับไปฟังเพลงของวงสาว สาว สาว หรือ 18 กะรัต ได้ไปเห็นบ้านเมืองเมื่อ 20 ปีก่อนที่ไม่มีโอกาสได้เห็นอีกแล้ว และหวนนึกถึงคนในความทรงจำสีจางที่อาจจะได้พบหรือไม่ได้พบกันอีก
- เรื่องย่อ: เจี๊ยบในวัยผู้ใหญ่ตัดสินใจเลี้ยวรถกลับไปงานแต่งงานของน้อยหน่าเพื่อนสนิทวัยเด็กเมื่อ 30 ปีก่อนที่ต่างจังหวัดทั้งที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว ภาพความหลังย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ ทั้งเรื่องราวของแก๊งเด็กผู้ชายเด็กผู้หญิงที่ไม่ค่อยญาติดีและชอบแกล้งกัน มิตรภาพความผูกพันของเจี๊ยบและน้อยหน่าดูจะเป็นสิ่งต้องห้ามระหว่างทั้งสองแก๊ง จนกระทั่งเจี๊ยบต้องเลือกว่าจะคบกับเพื่อนผู้ชายหรือน้อยหน่าต่อไป
อันดับ 17 รถไฟฟ้า มาหานะเธอ (138.63 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2552
- นักแสดง: เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, คริส หอวัง, แพตตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา, โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ
- ผู้กำกับ: อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (หมากเตะรีเทิร์นส์, รัก 7 ปี ดี 7 หน ตอน 21/28)
- ค่ายหนัง: GTH
- ทำไมถึงดัง: แม้ว่าเคน-ธีรเดช ดาราหนุ่มที่กำลังฮอตสุด ๆ จากวงการละครโทรทัศน์ในเวลานั้น จะเคยเล่นหนังมาบ้างทั้ง โกซิกซ์: โกหก กะล่อน ปลิ้นปล้อน ตอแหล (2543) และ ข้างหลังภาพ (2544) แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้ (รวมถึงหนังเรื่องอื่น ๆ ทั้งหมดของเคนด้วย) นี่จึงเป็นหนังล้างคำสาปของเคนแท้ ๆ และก็ยังแจ้งเกิดนางเอกคริส หอวังในฐานะนางเอกเต็มตัว โดยตัวละครของเธอเป็นตัวแทนของสาวโสดวัย 30 ทั้งประเทศ
- เรื่องย่อ: “เหมยลี่” เมาหัวราน้ำระหว่างขับรถกลับบ้าน แต่ก็ขับรถไถข้างทางจนกระจกข้างรถกระเด็นออกไป เธอได้พบกับ “ลุง” (เคน-ธีรเดช) ผู้เข้ามาช่วยดูเครื่องยนต์รถที่สตาร์ตไม่ติดให้ หลังจากนั้นลี่ก็ได้พบกับลุงอีกครั้งบนสถานีรถไฟฟ้า ครั้งนี้ลี่ทำแว่นตาเรย์แบนของลุงหล่นไปจนพัง ลี่ได้ปรึกษารุ่นน้องแถวบ้านที่ชื่อ “เพลิน” (แพตตี้-อังศุมาลิน) ที่ให้ช่วยแนะนำวิธีจีบลุงให้สำเร็จ ระหว่างนั้นเอง ก็มีเหตุให้ลี่เก็บกระเป๋าของลุงเอาไว้ ในนั้นลี่พบของหลายอย่าง รวมถึงฟิล์มถ่ายรูปของแฟนเก่าของลุงที่ตอนนี้กลายเป็นดาราดังไปแล้ว รูปของลุงกับแฟนเก่าเกิดหลุดไปตอนลี่ไปล้างฟิล์ม แต่ลุงก็บอกว่าไม่เป็นไร และอธิบายให้ลี่เข้าใจว่าเขาเลิกกันเพราะเวลาไม่ตรงกัน ซึ่งก็อาจจะเป็นปัญหาเดียวกันถ้าเหมยลี่จะคบกับลุง เพราะลุงจะไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมนีในอีก 2 วัน ทำให้เหมยลี่ต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าจีบลุงต่อไหม
อันดับ 16 ตุ๊ดซี่ส์ & เดอะ เฟค (140.01 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2562
- นักแสดง: ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต, ปิงปอง ธงชัย, เพชร เผ่าเพชร, เต๋อ รัฐนันท์, พีค ภัทรศยา, กรรณ สวัสดิวัตน์, เจเจ กฤษณภูมิ
- ผู้กำกับ: กิตติภัค ทองอ่วม
- ค่ายหนัง: GDH
- ทำไมถึงดัง: หนังที่เข้าทำเนียบ 100 ล้านเรื่องล่าสุดของประเทศไทยและของ GDH กับการสานต่อนำซีรีส์ที่มีที่มาจากแฟนเพจดังของ “ช่า บันทึกของตุ๊ด” และทำเป็นซีรีส์มาแล้ว 2 ซีซันมาต่อยอดเป็นหนังใหญ่ เสริมทัพความปังด้วยนักแสดงระดับแม่เหล็กของวงการอย่าง “แม่ชม-ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ที่ก็เคยมีหนังตลก 100 ล้านอย่าง คุณนายโฮ (2555) มาแล้ว ยิ่งทำให้หนังทะยานข้ามหลัก 100 ล้านและกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดของปี 2562 ที่เพิ่งผ่านมา (อ่านรีวิวฉบับเต็มของ WTF ได้ที่นี่)
- เรื่องย่อ: งานเข้าเหล่าแก๊งตุ๊ดทันทีเมื่อ “เคที่” (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) ซุปตาร์เบอร์ต้นของเมืองไทยดันประสบอุบัติเหตุจากเหงื่อเจ้ากรรมของ “อีกอล์ฟ” (ปิงปอง ธงชัย) จนโคม่า งานนี้นางเลยแท็กทีม 2 เพื่อนตุ๊ดทั้ง “กัส” (เพชร เผ่าเพชร) ที่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง “วิน” (กรรณ สวัสดิวัตน์) แฟนใหม่แสนดี กับ “ท็อป” (เจเจ กฤษณภูมิ) แฟนเก่าสุดหล่อชวนใจสั่น, “คิม” (เต๋อ รัฐนันท์) ศจีสาวตกสวรรค์แถมจมูกพังกลางอากาศ และอีก 1 เพื่อนดี้อย่าง “แน็ตตี้” (พีค ภัทรศยา) ที่แม่ขู่จะยกมรดกให้แมวหากนางไม่ยอมมีลูก ทั้งสี่ต้องร่วมภารกิจแปลง “เจ๊น้ำ” (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) แม่ค้ากะหรี่ที่มีเพียงใบหน้าที่ไปศัลย์ฯ มาจนเหมือนคุณเคที่ มาเฟคเป็นซุปตาร์เบอร์หนึ่งของเมืองไทยในงานถ่ายโฆษณาชิ้นสำคัญก่อนจะถูกฟ้องจนหมดตัว
อันดับ 15 หลวงพี่เท่ง (141.86 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2548
- นักแสดง: เท่ง เถิดเทิง, สาวิกา ไชยเดช, โน้ต เชิญยิ้ม, สมชาย ศักดิกุล, ถั่วแระ เชิญยิ้ม, มรกต มณีฉาย, เอ็ดดี้ ผีน่ารัก, หม่ำ จ๊กมก, สราวุฒิ พุ่มทอง, เฉื่อย เถิดเทิง
- ผู้กำกับ: โน้ต เชิญยิ้ม
- ค่ายหนัง: พระนครฟิลม์
- ทำไมถึงดัง: หนังที่ทำเงินสูงสุดของปี 2548 ด้วยความฉลาดที่เอาหนังตลกมารวมกับเรื่องราวของพระ สร้างสรรค์เป็นความสนุกที่เข้าถึงผู้ชมกลุ่มชาวบ้านได้อย่างดี ทำให้หนังที่เป็นงานกำกับของโน้ต เชิญยิ้ม กลายเป็นหนังดัง (ทำเงินที่สุดของค่ายพระนครฟิลม์ที่อยู่คู่วงการหนังไทยช่วง ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน) นำแสดงโดยตลกร้อยล้อน “เท่ง เถิดเทิง” จากรายการโทรทัศน์ชิงร้อยชิงล้าน และหนังก็มีภาคต่อที่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวกันออกมาภาค 2 นำแสดงโดยโจอี้ บอย ภาค 3 โดยน้อย วงพรู และ ภาค 4- 5 (โดยค่าย M Pictures) นำแสดงโดย แจ๊ส ชวนชื่น
- เรื่องย่อ: “หลวงพี่เท่ง” (เท่ง เถิดเทิง) อดีตนักเลงเก่าที่กลับตัวเปลี่ยนใจมาบวชเป็นพระ ท่านย้ายมาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งชาวบ้านกำลังเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา ด้วยการหันไปพึ่งพาความเชื่อทางไสยศาสตร์ของแก๊งลวงโลกที่มี “พ่อเพิ่ม” (สมชาย ศักดิกุล) และ “พะเนียง” (สาวิกา ไชยเดช) ลูกสาวที่หลอกเป็นเจ้าเข้าทรง หลวงพี่เท่งตั้งใจจะพัฒนาจิตใจของชาวบ้านให้ดีขึ้นให้ได้ โดยมี “มัคทายกส่ง” (โน้ต เชิญยิ้ม) และ “เพี้ยน” หรือ “คุณมานะ” (สราวุฒิ พุ่มทอง) 2 ลูกศิษย์วัดคอยช่วย แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อพะเนียงเกิดเปลี่ยนใจจะเลิกหลอกลวงชาวบ้าน พ่อเพิ่มจึงร่วมมือกับ “นายพัฒนา” (เฉื่อย เถิดเทิง) นักการเมืองท้องถิ่นที่จะลงสมัคร อบต. ใส่ความหลวงพี่เท่งให้ออกไปพ้นจากวัด
อันดับ 14 น้อง.พี่.ที่รัก (146.81 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2561
- นักแสดง: ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ญาญ่า–อุรัสยา เสปอร์บันด์, นิชคุณ หรเวชกุล
- ผู้กำกับ: วิทยา ทองอยู่ยง (เก๋า..เก๋า, บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้))
- ค่ายหนัง: GDH
- ทำไมถึงดัง: ตอกย้ำความแรงของนางเอกอันดับหนึ่งของเมืองไทยอีกคนอย่าง ญาญ่า–อุรัสยา ที่ครองปี 2561 ด้วย 2 อันดับหนังทำเงินสูงสุดของปีกับเรื่องนี้และ นาคี 2 หนังรักความสัมพันธ์ในครอบครัวเมื่อตกมาอยู่ในมือของค่าย GDH และในมือของผู้กำกับ บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน หนังครอบครัวสุดซึ้งของค่ายเดียวกัน ก็กลายเป็นความสำเร็จที่นอนมา นี่เป็นหนังจากหนึ่งในหกผู้กำกับแก๊งแฟนฉันที่ทำเงินสูงสุด (อ่านรีวิวฉบับเต็มของ WTF ได้ที่นี่)
- เรื่องย่อ: เรื่องราวของน้องสาวแสนสวย พี่ชายแสนหวงที่คั่นกลาง และแฟนหนุ่มแสนน่ารัก สายสัมพันธ์ของพี่น้องที่อาจจะรักกันแบบซึน ๆ จนกลายเป็นทั้งความดราม่าและความตลกฮาไปพร้อมกัน เมื่อน้องสาวที่มีพี่ชายไม่เอาอ่าว และพยายามขัดขวางความรักของน้องสาวทุกทาง เธอจะต้องสู้เพื่อความรัก และเอาตัวปัญหาออกจากชีวิตให้ได้ ซึ่งในอีกทางคำว่าพี่น้องมันก็ตัดกันไม่ขาด แล้วจะลงเอยอย่างไร เพราะตัวพี่ก็แสบเสียเหลือเกิน
อันดับ 13 นางนาก (149.60 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2542
- นักแสดง: ทราย-อินทิรา เจริญปุระ, เมฆ-วินัย ไกรบุตร
- ผู้กำกับ: นนทรีย์ นิมิบุตร (2499 อันธพาลครองเมือง, จัน ดารา, อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต)
- ค่ายหนัง: ไท เอ็นเตอร์เทนเมนท์
- ทำไมถึงดัง: ครองอีกหนึ่งตำแหน่งทางสถิติรายได้ของหนังไทย นั่นคือการเป็นหนังที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาทได้เป็นเรื่องแรก ตำนานความรักแห่งบางพระโขนงที่ถูกนำมาตีความใหม่โดยสุดยอดผู้กำกับจากวงการโฆษณาในยุคนั้นอย่าง อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร การตีความใหม่ในรอบนี้เน้นถ่ายทอดความสมจริงและเรื่องราวดรามาความรักของผีนาก แตกต่างจากฉบับก่อนหน้านี้ที่เป็นแนวตลก-สยองขวัญ ยิ่งกับเฉพาะตอนไคลแม็กซ์ ที่ทั้งหลอนทั้งซึ้งจนคนดูน้ำตาไหลไปกับชะตากรรมของพี่มากกับอีนาก วินัย ไกรบุตรได้สานต่อความสำเร็จกับหนัง บางระจัน (2543) ในปีถัดมาที่กลายเป็นหนัง 150 ล้านบาทเรื่องแรกของไทย
- เรื่องย่อ: หลังตั้งท้องได้ไม่เท่าไร “มาก” (วินัย ไกรบุตร) ต้องเดินทางไปออกรบแนวหน้าจำต้องจรจาก “นาก” (อินทิรา เจริญปุระ) เมียท้องแก่ไว้พระโขนง ด้วยเวลาผ่านหลายเดือนทำให้นากจำต้องคลอดบุตรแต่โชคร้ายที่ท้ายสุดต้องตายทั้งกลม วิญญาณนากได้เฝ้ารอมากผัวรักกลับมาเสมอ และแม้มากจะกลับมาอยู่กินกับวิญญาณเมียรักโดยไม่รู้ความจริง แต่นากก็พยายามปรนนิบัติผัวอย่างดีที่สุด ท่ามกลางความเกลียดกลัวของชาวบ้าน จนเกิดเป็นตำนานรักแห่งบางพระโขนงที่ความตายก็ไม่อาจพรากหัวใจรักแห่งนาง
อันดับ 12 ATM เออรัก…เออเร่อ (150.11 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2555
- นักแสดง: เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี, ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร, โจ๊ก โซคูล, เผือก-พงศธร จงวิลาส, ป๊อป-ปองกูล สืบซึ้ง
- ผู้กำกับ: เมษ ธราธร (บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้), ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้)
- ค่ายหนัง: GTH
- ทำไมถึงดัง: ในปีที่หนังของ GTH สร้างรากฐานในกลุ่มแฟน ๆ คนดูชาวไทยไว้อย่างแข็งแรงแล้ว หนังโรแมนติกคอเมดีที่หน้าตาทุกอย่างเวรี่ GTH เรื่องนี้จึงเข้าถึงคนดูได้ไม่ยาก และสานต่อด้วยความตลกน่ารักของคู่พระนางอย่าง เต๋อและไอซ์ นางเอกใหม่ในเวลานั้น สมทบด้วยแก๊งตลก โจ๊ก เผือก ป๊อป และเพลง “มองได้แต่อย่าชอบ” ของลุลา ที่ฮิตไปทั่วก็ช่วยส่งให้หนังโกยเงินไปได้อื้อ
- เรื่องย่อ: ธนาคาร JNBC สัญชาติญี่ปุ่นที่มาเปิดสาขาในประเทศไทย ตรากฎเหล็กเอาไว้ว่า ห้ามพนักงานเป็นแฟนกัน “เสือ” กับ “จิ๊บ” พนักงานและหัวหน้าแผนกเอทีเอ็มภาคตะวันออกจึงแอบลักลอบคบกันอย่างลับ ๆ มาเป็นเวลา 5 ปี โดยที่ไม่มีใครระแคะระคาย จนกระทั่งวันหนึ่ง เรื่องแดงขึ้นมาว่ามีชายหญิงในแผนกคู่หนึ่งแอบฝ่าฝืนกฎข้อนี้ ซึ่งพอจับได้จิ๊บในฐานะหัวหน้าแผนกเลยจำใจต้องไล่คนใดคนหนึ่งออก จากเหตุการณ์นี้ ทำให้จิ๊บตัดสินใจบอกกับเสือ แต่เสือเห็นแฟนตัวเองชักจะไปกันใหญ่ เลยเสนอทางออกใหม่ให้แต่งงานกันเลยดีกว่า ปัญหารักลับ ๆ จะไดเคลี่คลาย เรื่องก็มาเกิดตรงที่พวกเขาไม่เคยตกลงว่า ใครจะเป็นคนลาออก?
อันดับ 11 บางระจัน (151 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2543
- นักแสดง: บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์, วินัย ไกรบุตร, จรัล งามดี, บงกช คงมาลัย, นิรุติ สาวสุดชาติ. ชุมพร เทพพิทักษ์, สุนทรี ใหม่ละออ
- ผู้กำกับ: ธนิตย์ จิตนุกูล (บางระจัน 2, คนเล่นของ, ขุนแผน, สยึ๋มกึ๋ย)
- ค่ายเจ้าของหนัง: ฟิล์มบางกอก
- ทำไมถึงดัง: ในปี 2544 ไม่มีใครไม่รู้จักเพลง “บางระจัน” ที่ร้องโดย แอ๊ด คาราบาว หนังสร้างความสำเร็จในฐานะที่เป็นหนังประวัติศาสตร์ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการแนะนำให้โรงเรียนทั้งระดับประถมและมัธยมส่งนักเรียนเข้าไปรับชมหนังเรื่องนี้ทั่วประเทศ หนังจุดติดกระแสรักชาติผ่านผลงานมาสเตอร์พีซของผู้กำกับ ปื๊ด-ธนิตย์ ในช่วงที่หนังไทยโหยหาหนังโปรดักชันและเนื้อหาสมจริง หนังเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ทำรายได้ถึง 150 ล้านบาท
- เรื่องย่อ: ในปีพุทธศักราช 2308 พระเจ้ามังระ กษัตริย์พม่าส่งทัพพม่า 2 ทัพใหญ่บุกกรุงศรีอยุธยา แต่ต้องพบกับกองกำลังต่อต้านโดยชาวบ้านธรรมดา ๆ ทำให้ต้องเดินทัพล่าช้า โดยชาวบ้านที่แตกระสานซ่านเซ็นมารวมตัวกันที่บ้านระจัน (จ.สิงห์บุรีในปัจจุบัน) โดยมี พ่อแท่น (ชุมพร เทพพิทักษ์) ผู้อาวุโสที่สุดเป็นแกนนำ, อ้ายจัน หนวดเขี้ยว (จรัล งามดี) ผู้เก่งกล้า, อ้ายอิน (วินัย ไกรบุตร) พรานขมังธนู ที่เพิ่งอยู่กินกับอีสา (บงกช คงมาลัย) เมียสาว และอ้ายทองเหม็น (บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) คนพเนจร รวมถึงหลวงพ่อธรรมโชติ (ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง) แห่งวัดโพธิ์เก้าต้นเป็นขวัญกำลังใจ
- คืนหนึ่ง อ้ายอินได้ละทิ้งเวรยามแอบพาพรรคพวกไปบุกค่ายของพม่า ทางพม่าก็ได้จัดทัพมาบุกค่ายบางระจันเช่นกัน จากเหตุการณ์นั้นทำให้เกิดความสูญเสียขึ้นในค่ายมากมาย หลายคนอพยพออกจากค่ายบางระจันไปอยู่กรุงศรีอยุธยา ชาวบ้านบางระจันแจ้งไปยังกรุงศรีอยุธยาเพื่อขอยืมปืนใหญ่ แต่ทางกรุงศรีอยุธยาไม่ยอมให้ยืม ด้วยเกรงว่าหากบ้านบางระจันพ่ายแก่พม่า พม่าจะขโมยเอาปืนใหญ่กลับมาโจมตีพระนครได้ พวกเขาจึงต้องพลีชีพเพื่อรักษาบ้านระจันและกันไม่ให้พม่าเข้าถึงกรุงศรีอยุธยาให้ได้นานที่สุด
อันดับ 10 นาคี 2 (161.19 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2561
- นักแสดง: ณเดชน์ คูกิมิยะ, ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์, แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์, เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค, อุ้ม-ลักขณา อมิตรสูญ
- ผู้กำกับ: พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง (Me Myself ขอให้รักจงเจริญ, Happy Birthday)
- ค่ายหนัง: MP (ในเครือสถานีโทรทัศน์ช่อง 3)
- ทำไมถึงดัง: ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งของคู่จิ้นพระเอกนางเอกของประเทศ อย่างณเดชน์ คูกิมิยะ ที่เคยไม่ประสบความสำเร็จกับ คู่กรรม (2556) มาก่อน ส่วนญาญ่านั้นก็แสดงหนังปีแรกและทำเงินสูงสุดของปีนี้ทั้งสองเรื่อง หนังเป็นภาคต่อจากเวอร์ชันละครนาคี ที่ทำเรตติงถล่มทลายเมื่อปี 2559 ซึ่งนักแสดงนำจากภาคแรกก็กลับมากันหมดรวมถึงผู้กำกับอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ เช่นเดียวกัน (ยังมีผลงานกำกับละครดัง ๆ อย่างทองเนื้อเก้าและกรงกรรมด้วย) (อ่านรีวิวฉบับเต็มของ WTF ได้ที่นี่)
- เรื่องย่อ: สร้อย” (อุรัสยา เสปอร์บันด์) สาวดอนไม้ป่า ผู้เติบโตมาพร้อมกับความเชื่อและศรัทธาต่อเจ้าแม่นาคี เธอช่วยยายขายดอกไม้ถวายเจ้าแม่ และคอยดูแลเทวาลัยพญานาคแห่งนี้ สร้อยจึงมีความผูกพันกับเจ้าแม่นาคีเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่ “ร.ต.อ.ป้องปราบ” (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ถูกย้ายมาประจำที่ สภ.ดอนไม้ป่า ก็เกิดคดีสะเทือนขวัญขึ้นมากมาย และมีเงื่อนงำที่คลี่คลายไม่ได้ ชาวบ้านต่างปักใจว่าเป็นฝีมือของ เจ้าแม่นาคีที่กำลังออกอาละวาดอีกครั้งและเหตุการณ์ยิ่งพาให้ชาวบ้านต่างแน่ใจว่า สร้อยเป็นร่างประทับของเจ้าแม่นาคี แม้แต่ตัวสารวัตรป้องปราบเองซึ่งไม่เคยเชื่อในเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติ ยังลังเลต่อคำกล่าวหาที่สร้อยได้รับ จนทำให้เขาต้องค้นหาความจริงเบื้องหลังคดีลึกลับในดอนไม้ป่าแห่งนี้
อันดับ 9 หลวงพี่แจ๊ส 4G (166.53 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2559
- นักแสดง: แจ๊ส ชวนชื่น, ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน, แพท-ณปภา ตันตระกูล, คุณาธิป ปิ่นประดับ, อัครัช จิตตะศิริ, กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย
- ผู้กำกับ: อรหัง สัมมา (นามแฝงของ พชร์ อานนท์)
- ค่ายหนัง: M Pictures
- ทำไมถึงดัง: หากไม่นับตำนานสมเด็จพระนเรศวรที่ติดเข้ามาใน 20 อันดับนี้ ก็มีหนังจากภาคต่อจากแฟรนไชส์หลวงพี่เท่งที่ติดอันดับถึง 2 ภาค สาเหตุความดังนอกจากเรื่องพระ ๆ เจ้า ๆ แบบเอาฮาแล้ว ก็ยังเป็นช่วงที่นักแสดงตลก “แจ๊ส ชวนชื่น” โด่งดังเป็นพลุแตกถึงขีดสุด (ปี 2559-2561 แจ๊สแสดงหนังไปทั้งหมด 7 เรื่อง) หนังยังเป็นผลงานกำกับของพชร์ อานนท์ ที่ขอใช้นามแฝงในผลงานชิ้นนี้ ไม่รู้ว่าว่าถือเคล็ดถ้าใช้ชื่อจริง หนังอาจไม่โกยเงินก็เป็นได้
- เรื่องย่อ: เรื่องราวของพระแจ๊ส อดีตเด็กแว๊นสายบู๊ที่หันหน้าเข้าสู่การเป็นพระในผ้าเหลือง หลังจากบวชไม่นาน หลวงพ่อที่วัดบนดอยก็ได้ให้พระแจ๊สไปศึกษาพระธรรมที่กรุงเทพ พระแจ๊สกับลูกศิษย์อีก 2 คนจึงได้ออกผจญภัยไปใช้ชีวิตที่วัดกรุงเทพ และได้เจอปัญหาของวัดกับสังคมในทุกวันนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป (ชมหนังแบบเต็มเรื่องได้ใน YouTube ของ Major Group ได้ที่นี่)
อันดับ 8 ต้มยำกุ้ง (183.35 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2548
- นักแสดง: จา-พนม ยีรมย์, Nathan Jones, Johnny Nguyen, หม่ำ จ๊กมก, ตั๊ก-บงกช คงมาลัย, Xing Jing
- ผู้กำกับ: ปรัชญา ปิ่นแก้ว (องค์บาก, ช็อกโกแลต, Elephant White, เกิดอีกทีต้องมีเธอ)
- ค่ายหนัง: สหมงคลฟิล์ม
- ทำไมถึงดัง: ต่อยอดความสำเร็จจากหนัง องค์บาก (2546) ที่แจ้งเกิดราชานักบู๊คนล่าสุด”จา-พนม ยีรัมย์” ทีมงานสร้างชุดเดิมนำโดยผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้ว ขยายเสกลให้ใหญ่ขึ้นด้วยการบินไปถ่ายทำถึงประเทศออสเตรเลีย และระดมทีมนักแสดงนักบู๊ต่างประเทศคับคั่ง ต้มยำกุ้งในชื่อภาษาอังกฤษว่า The Protector สร้างสถิติเป็นหนังไทยที่เปิดตัวบนตาราง Box Office ของสหรัฐฯ ได้ในอันดับ 5 ด้วยรายได้ 3 วัน 5 ล้านเหรียญฯ และปิดรายรับรวมทั่วโลกไปที่ 27 ล้านเหรียญฯ ท้ายที่สุด ไม่มีใครไม่รู้จักวลี “ช้างกูอยู่ไหน” ถ้าเคยได้ดูหนังเรื่องนี้
- เรื่องย่อ: การเดินทางข้ามโลกของขาม (จา-พนม) เด็กหนุ่มบ้านป่าที่ชีวิตต้องพลิกผันโดยเงื้อมมือของผู้มีอิทธิพลระดับประเทศที่ลักพาช้างพลายสองพ่อลูกของครอบครัวขามไปขาย ณ ประเทศออสเตรเลีย ทางเดียวที่จะช่วยเหลือและรักษาชีวิตของช้างอันเป็นที่รักของเขาได้ นั่นก็คือ การบุกตะลุยถึงถิ่น เรื่องไม่ง่ายอย่างใจคิด แม้เขาจะได้รับความช่วยเหลือจาก “จ่ามาร์ค” (หม่ำ จ๊กมก) นายตำรวจไทยและ “ปลา” (บงกช คงมาลัย) สาวไทยที่ถูกหลอกมาขายตัวในซิดนีย์ก็ตาม ที่นั่นเขากลับต้องไปพัวพันกับการไล่ล่าของแก๊งมาเฟียเพื่อจะทวงคืนช้างของเขา นำโดย “มาดามโรส” (จิน ซิง) ที่มีลูกสมุนต่างชาติที่เต็มไปด้วยฝีมือทางการต่อสู้อย่าง “จอห์นนี่” (จอห์นนี่ เหงียน) และ “ทีเค” (Nathan Jones จาก Mad Max: Fury Road) อย่างไม่ได้ตั้งใจ
อันดับ 7 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 ยุทธนาวี (201.08 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2554
- นักแสดง: พันเอกวันชนะ สวัสดี, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, นพชัย ชัยนาม, อินทิรา เจริญปุระ, จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, สรพงษ์ ชาตรี, ดอม เหตระกูล, นภัสกร มิตรเอม, ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ
- ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (สุริโยไท, เสียดาย 1-2, มือปืน 2 สาละวิน, ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น)
- ค่ายหนัง: สหมงคลฟิล์ม
- ทำไมถึงดัง: ทิ้งห่างจากภาค 2 ถึง 4 ปี และความที่หนังแห่งสยามประเทศ 2 ภาคแรกกลายเป็นความสำเร็จที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องได้ดูในโรงสักครั้ง หนังภาค 3 ในทีแรกมีการโปรโมตให้เข้าใจว่าเป็นภาคปิดท้ายไตรภาคของตำนานสมเด็จพระนเรศวร แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ใช่ ภาคยุทธนาวีน่าจะเรียกว่าเป็นภาค 2.5 ที่เรื่องราวจะไปขมวดจบจริง ๆ ที่ภาคนันทบุเรง (ภาค 4) และภาคยุทธหัตถี (ภาค 5) ที่ก็กูหั่นออกเป็น 2 ภาคมากกว่า
- เรื่องย่อ: ในปี พ.ศ. 2127 การประกาศเอกราชที่เมืองแครง ทำให้พระเจ้านันทบุเรงแห่งพม่าเกิดความประหวั่นพรั่นพรึงว่า อยุธยาในฐานะประเทศราชจะทำให้ประเทศราชอื่น ๆ ตั้งตัวกระด้างกระเดื่องตาม จึงส่งเพียงพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่เข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา ส่วนเจ้ากรุงละแวก (เขมร) ก็ลอบส่งจารชนชาวจีนฝีมือกล้านามว่า “จีนจันตุ” มาลอบสืบความ ที่กรุงศรีอยุธยาแต่ถูกจับพิรุธได้จนต้องลอบตีสำเภาหนีกลับกรุงละแวก สมเด็จพระนเรศทรงนำทัพเรือออกตามจนเกิดยุทธนาวี แต่พระยาจีนจันตุหนีรอดได้ เมื่อเจ้ากรุงละแวกได้ทราบกิตติศัพท์การณรงค์ของพระนเรศจึงเปลี่ยนพระทัยหันมาสานไมตรีกับอยุธยา ต่อมาพม่ารามัญยกศึกกระหนาบถึง 2 ทาง พระนเรศวรและกองทัพของพระองค์ได้วางแผนในการแยกสายเข้าตีทัพของพม่านั้นโดยแข่งกับเวลา หากช้าไปอยุธยาอาจแตกพ่ายก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังมีศึกรักระหว่างรบของคนสี่คน คือ พระราชมนู เลอขิ่น เสือหาญฟ้า และรัตนาวดี รวมถึงสถานะของพระสุพรรณกัลยาที่อาจต้องเป็นบาทบริจาริกาของพระเจ้านันทบุเรง ผู้ราชบุตรแห่งพระเจ้าบุเรงนองอดีตสวามีอีกด้วย
อันดับ 6 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ยุทธหัตถี (206.86 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2557
- นักแสดง: พันเอกวันชนะ สวัสดี, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, นพชัย ชัยนาม, อินทิรา เจริญปุระ, จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, สรพงษ์ ชาตรี, ดอม เหตระกูล, นภัสกร มิตรเอม, ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ
- ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (สุริโยไท, เสียดาย 1-2, มือปืน 2 สาละวิน, ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น)
- ค่ายหนัง: สหมงคลฟิล์ม
- ทำไมถึงดัง: เป็นอีกภาคที่ถูกโฆษณาในตอนที่หนังจะออกฉายว่าเป็นภาคจบสุดท้ายจริง ๆ ของหนังชุดตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ แต่สุดท้ายก็ยังมีภาค 6 อวสานหงสา ที่ดูจะเป็นแนวรวมฟุตเตจที่ไม่ได้ใช้จากภาคก่อนมาอธิบายความเรื่องราวต่อจากภาค 5 ที่เป็นวีรกรรมที่เลื่องลือที่สุดของสมเด็จพระนเรศวร นั่นคือการกระทำยุทธหัตถี ซึ่งในภาค 6 นั้น แม้จะทำรายได้น้อยที่สุดในบรรดาทุกภาคที่ 115 ล้านบาท แต่ก็เรียนได้ว่าหนังชุดนี้ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านทุกเรื่อง
- เรื่องย่อ: ในปี พ.ศ. 2129 พระเจ้านันทบุเรงทรงแค้นเคืองที่ต้องปราชัยต่อสมเด็จพระนเรศฯ อย่างย่อยยับ จึงระบายความแค้นนั้นไปที่องค์พระสุพรรณกัลยา เมื่อสมเด็จพระมหาธรรมราชาพระราชบิดาทราบความก็ให้โทมนัสด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระราชธิดาและแผ่นดินอยุธยาที่ถูกกระทำการย่ำยีก็ด้วยเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้างศัตรู จนตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศฯ ทรงมีพระชนมายุ 31 พรรษา จึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา พระเจ้านันทบุเรงจึงโปรดให้พระราชบุตร “พระมังสามเกียด” หรือพระมังกะยอชวา พระมหาอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพ นำกองทัพทหาร 240,000 นายมาตีกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งในศึกสงคราม พระคชสารทรงของพระนเรศฯ และพระมังสามเกียด สองพระองค์หลงถลำเข้ามาถึงกลางกองทัพข้าศึก และตกอยู่ในวงล้อมข้าศึกแล้ว แต่ด้วยพระปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวร จึงไสช้างเข้าไปใกล้ แล้วขอให้กระทำการยุทธหัตถีอันเป็นวิถีการรับชนช้างที่ทรงไว้ซึ่งเกียรติสูงสุดของกษัตริย์ ท้ายที่สุดสมเด็จพระนเรศวรทรงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูกพระมังสามเกียด พระมหาอุปราชาเข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง
อันดับ 5 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 ประกาศอิสรภาพ (216.87 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2550
- นักแสดง: พันเอกวันชนะ สวัสดี, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, นพชัย ชัยนาม, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, ชุมพร เทพพิทักษ์, อินทิรา เจริญปุระ, จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, สรพงษ์ ชาตรี, เกรซ มหาดำรงค์กุล, นภัสกร มิตรเอม
- ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (สุริโยไท, เสียดาย 1-2, มือปืน 2 สาละวิน, ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น)
- ค่ายหนัง: สหมงคลฟิล์ม
- ทำไมถึงดัง: หนังที่ได้ชื่อว่าเป็นภาคที่สนุกที่สุดและมีความเป็นภาพยนตร์มากที่สุด เพราะอุดมเป็นด้วยฉากแอ็กชันมากกว่าการเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ เหมือนภาคอื่น ๆ และท่านมุ้ยผู้กำกับก็ยังมีกำลังวังชาในการทำหนังอย่างเข้มข้นมากกว่าใน 4 ภาคหลัง หนังยังเป็นภาคที่เหมือนจะอั้นความสนุกไว้จากภาค 1 ที่พระนเรศฯ ยังทรงพระเยาว์ด้วย
- เรื่องย่อ: หลังจากพระองค์ดำหรือพระนเรศหนีกลับพระพิษณุโลกสองแควได้แล้วนั้น หลายปีผ่านไป พระองค์ได้เจริญชันษาขึ้นและกลายเป็นอุปราชผู้รั้งเมืองพระพิษณุโลกสองแควแทน สมเด็จพระมหาธรรมราชา (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) พระราชบิดาที่ไปครองราชธานีกรุงศรีอยุธยา พระนเรศวรทรงฝึกปรนการต่อสู้ทุกวัน โดยมีแทล้วทหารกล้ามากมายอยู่รอบพระองค์ ทั้ง ออกพระราชมนู (นพชัย ชัยนาม) หรือไอ้บุญทิ้ง พระสหายของพระนเรศวรมาตั้งแต่ครั้งยังประทับอยู่หงสาวดี ออกพระศรีถมอรัตน์ (คมกริช อินทรสุวรรณ) และ ออกพระชัยบุรี (ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง) รวมทั้ง พระเอกาทศรถ (วินธัย สุวารี) หรือ “องค์ขาว” พระอนุชา และ “มณีจันทร์” (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) ต่างก็เจริญวัยขึ้นเช่นกัน
- ในปี พ.ศ. 2124 พระเจ้าบุเรงนอง เสด็จสวรรคตต่อมา มหาอุปราชานันทบุเรงขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้านันทบุเรง สืบต่อหงสาวดีได้มีพระราชสาสน์ส่งไปยังพระพิษณุโลกสองแควให้ส่งตัวแทนมาร่วมพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพที่หงสาวดี พระนเรศวรได้เสนอตัวพระองค์เอง เมื่อไปถึง พระเจ้านันทบุเรงจึงมีพระบรมราชโองการให้อุปราชของ 3 เมือง คือ พระนเรศวร, นัดจินหน่อง (จงเจต วัชรานันท์) อุปราชเมืองตองอู และพระมหาอุปราชามังสามเกียด ยกทัพไปปราบเมืองคัง โดยให้แข่งขันกัน ผลปรากฏว่าพระนเรศวรสามารถตีเมืองคังได้สำเร็จ และได้จับตัวเล่อขิ่นและเจ้าฟ้าเมืองคังกลับไปรับโทษยังหงสาวดีได้สำเร็จ ในการนี้ได้สร้างความแค้นเคืองให้พระมหาอุปราชามังสามเกียดยิ่งนักจึงได้ส่งพระยาเกียรติ (ประดิษฐ์ ภักดีวงษ์) และ พระยาราม (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ทหารมอญมาลอบปลงพระชนม์พระนเรศวร แต่ทั้งสองได้สำนึกในบุญคุณครั้งอดีตที่พระนเรศวรเคยมีต่อตนจึงได้สารภาพความจริง พระนเรศวรได้กระทำพิธีหลั่งน้ำทักษิโณทกประกาศไม่ขึ้นต่อหงสาวดี เป็นการแสดงว่านับแต่นี้ต่อไป พระพิษณุโลกสองแควและอยุธยาจะไม่ขึ้นตรงต่อหงสาวดีอีกแล้ว
อันดับ 4 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1 องค์ประกันหงสา (219.06 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2550
- นักแสดง: ปรัชฌา สนั่นวัฒนานนท์, จิรายุ ละอองมณี, สุชาดา เช็คลีย์, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, สรพงษ์ ชาตรี, สมภพ เบญจาธิกุล, ปวีณา ชารีฟสกุล, ศรัณยู วงศ์กระจ่าง, สันติสุข พรหมศิริ
- ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (สุริโยไท, เสียดาย 1-2, มือปืน 2 สาละวิน, ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น)
- ค่ายหนัง: สหมงคลฟิล์ม
- ทำไมถึงดัง: ภาคแรกของหนังชุุดตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่เปรียบเสมือนหนังแห่งสยามประเทศเรื่องที่สอง ต่อจาก สุริโยไท (2544) ที่ได้ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล กลับมากำกับเช่นเดิม และหนังก็ยังมีสเกลงานสร้างที่ยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากสุริโยไท (นักแสดงจากสุริโยไทก็กลับมารับบทเดิมต่อกันหลายคน) มีการสร้างโรงถ่ายภาพยนตร์ที่จังหวัดกาญจนบุรีที่ต่อมาถูกใช้เป็นสตูดิโอ-โรงถ่ายสำหรับหนังและละครประวัติศาสตร์อีกมากมายและปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย หนังภาคนี้กลายเป็นภาคที่ทำเงินสูงสุดในชุด
- เรื่องย่อ: ในปี พ.ศ. 2106 พระเจ้าบุเรงนองแห่งอาณาจักรตองอูได้ตีหัวเมืองเหนือของสยามไล่มาตั้งแต่สุโขทัย, สวรรคโลก, และที่สองแคว พิษณุโลก ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอยุธยา พระมหาธรรมราชาจึงแปรพักตร์ไปเข้าด้วยกับพระเจ้าบุเรงนองเพื่อร่วมกันโจมตีอยุธยา โดยที่พระเจ้าบุเรงนองได้ขอเอาตัว พระนเรศ หรือ “องค์ดำ” (ปรัชฌา สนั่นวัฒนานนท์) พระโอรสองค์โตในพระมหาธรรมราชาและพระนางวิสุทธิ์กษัตริย์ (ปวีณา ชารีฟสกุล) ไปเป็นตัวประกันในหงสาวดีโดยที่ให้สัตย์สาบานว่าจะเลี้ยงดูอย่างดีดุจพระโอรส
- ต่อมาที่นครหงสาวดี องค์ดำได้พบกับเด็กชายผมยาวเร่ร่อน (จิรายุ ละอองมณี) ที่ไม่มีแม้แต่ชื่อ ขณะกำลังขโมยของเพื่อหาอะไรกิน องค์ดำได้ช่วยเหลือเด็กชายไร้ชื่อคนนี้ไว้ และเด็กชายคนนี้ก็ได้สาบานว่าจะติดตามองค์ดำไปตลอด ขณะที่องค์ดำต้องอดทนต่อการเหยียดหยามของมังสามเกียด (โชติ บัวสุวรรณ) พระโอรสของมหาอุปราชนันทบุเรง (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) และองค์ดำก็เป็นศิษย์เอง พระมหาเถรคันฉ่อง (สรพงษ์ ชาตรี) พระประจำพระองค์ของพระเจ้าบุเรงนอง องค์ดำได้พบกับ มณีจันทร์ (สุชาดา เช็คลีย์) เด็กผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในวัด และได้พบกับพระมหาเถรคันฉ่องที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตราวุธ พระมหาเถรคันฉ่องได้ให้องค์ดำบวชเป็นเณรและตั้งชื่อให้เด็กไม่มีชื่อนั้นว่า “บุญทิ้ง” ซึ่งพระมหาเถรคันฉ่องได้สั่งสอนสรรพวิชาและให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองแก่องค์ดำตลอดมา
อันดับ 3 ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ (330.55 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2557
- นักแสดง: ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร, ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ, โจ๊ก โซคูล, กุลญาดา ตาวิยะ, ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด, โซระ อาโออิ
- ผู้กำกับ: เมษ ธราธร (บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้), ATM เออรัก..เออเร่อ)
- ค่ายหนัง: GTH
- ทำไมถึงดัง: แทบจะยกทีมสร้างหนังและนักแสดงมาจากหนังที่กำกับเดี่ยวเรื่องแรกของเมษ ธราธร เรื่อง ATM เออรัก..เออเร่อ (2554) ที่ก็ติดอันดับ 20 หนังทำรายได้สูงสุดของไทยด้วย เปลี่ยนแค่พระเอกจากเต๋อ ฉันทวิชช์ เป็น ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ พระเอกยืนหนึ่งของ GDH ที่ก็มีความคล้ายเต๋ออยู่ไม่น้อย หนังไปสุดด้วยความเป็นหนังคอมเมดี้ที่เปิดตัวช่วงปลายปี ทำให้กลุ่มผู้ชมทั้งครอบครัวแห่เข้าไปอุดหนุน แถมหนังยังมีนักแสดงญี่ปุ่นชื่อดัง โซระ อาโออิ ที่เคยร่วมกับงานกับ GTH เรื่อง ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น (2551) กลับมาร่วมแสดงอีกด้วย
- เรื่องย่อ: “เพลง” (ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) ติวเตอร์ภาษาอังกฤษสาว ต้องพบเรื่องน่าปวดหัว เมื่อลูกศิษย์ชาวต่างชาติของเธอตัดสินใจทิ้ง “ยิม” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) แฟนหนุ่มคนไทยไปทำงานที่อเมริกา เธออัดวิดีโอบอกเลิกใส่ธัมบ์ไดรฟ์แต่ด้วยความที่ยิมฟังภาษาอังกฤษไม่ออก จึงมาขอร้องให้เพลงช่วยเพื่อแปลให้ยิมฟัง เมื่อยิมรู้ว่าถูกบอกเลิกก็โมโหมาก พร้อมกับโทษเพลงว่าเป็นคนสอนภาษาอังกฤษให้แฟนเขาจนเป็นต้นเหตุให้เธอทิ้งเขาไป ต่อมาไม่นาน ยิมตัดสินใจไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษกับเพลง โดยหวังจะตามไปง้อแฟนที่อเมริกา
- ด้วยความที่ยิมเป็นเพียงช่างเทคนิคในโรงงาน ระดับความรู้ภาษาอังกฤษของยิมจึงต่ำมาก เพลงไม่อยากรับสอน แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจยอมเพลงจึงต้องพยายามงัดสารพัดวิธีออกมาสอนยิม ในขณะเดียวกัน เพลงก็ไปตกหลุมรักกับ “คุณพฤกษ์” (ภพธร สุนทรญาณกิจ) หนุ่มหล่อ ชาติตระกูลดี ทว่าระหว่างที่การเรียนการสอนของเพลงและยิมค่อย ๆ ผ่านไปในแต่ละวัน ทั้งคู่ต่างก็ค่อย ๆ ได้เรียนรู้นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน และเพิ่มความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อกันขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่ทันรู้ตัว เพลงจึงต้องตัดสินใจเลือกระหว่างคุณพฤกษ์ และยิมที่ไม่น่าจะเทียบคุณพฤกษ์ได้เลย
อันดับ 2 สุริโยไท (550 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2544
- นักแสดง: หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี, ศรัณยู วงศ์กระจ่าง, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, จอนนี่ แอนโฟเน่, ใหม่ เจริญปุระ, สินจัย เปล่งพานิช, สรพงษ์ ชาตรีม อำพล ลำพูน, ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ
- ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, เสียดาย 1-2, มือปืน 2 สาละวิน, ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น)
- ค่ายหนัง: สหมงคลฟิล์ม
- ทำไมถึงดัง: เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สวรรคตในปี พ.ศ. 2072 พระอาทิตยาจึงได้ขึ้นครองราชย์ ทรงพระนาม สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร ต่อมาเมื่อเมื่อสมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรสวรรคตด้วยโรคไข้ทรพิษ พระไชยราชา ผู้ซึ่งดำรงพระยศเป็นพระอุปราช ควรจะได้สืบสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์ แต่สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรทรงขอให้พระโอรสวัย 5 พรรษา ขึ้นครองราชย์แทน ระหว่างนั้น บ้านเมืองถูกบริหารโดยขุนนางทุจริต ติดสินบนเถลิงอำนาจ โดยเฉพาะ เจ้าพระยายมราช บิดาของพระอัครชายา 5 เดือนให้หลังสมเด็จพระไชยราชาธิราชจึงเข้ายึดราชบัลลังก์ และให้สำเร็จโทษพระรัษฏาธิราชและทรงขึ้นครองราชย์ และได้แต่งตั้งพระเฑียรราชา ขึ้นเป็นพระมหาอุปราชา ว่าราชการแทนพระองค์อยู่ที่กรุงอโยธยา ส่วนพระมเหสีของพระไชยราชา คือ ท้าวศรีสุดาจันทร์ ได้ลักลอบมีความสัมพันธ์กับขุนชินราช ผู้ดูแลหอพระ เชื้อราชวงศ์อู่ทองด้วยกัน และได้สมคบคิดกัน ลอบวางยาพิษปลงพระชนม์พระไชยราชา พระยอดฟ้า พระโอรสของพระไชยราชา ที่ประสูติจาก ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ได้ขึ้นครองราชย์แทน ในขณะที่มีพระชนม์เพียง 10 พรรษา แต่ต่อมาไม่นาน ก็ถูกท้าวศรีสุดาจันทร์ปลงพระชนม์อีกองค์หนึ่ง แล้วสถาปนาขุนชินราชขึ้นเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระวรวงศาธิราช
- นับตั้งแต่สิ้นรัชกาลพระไชยราชา พระเฑียรราชาก็ได้ผนวชเพื่อเลี่ยงภัย ส่วนพระสุริโยไททรงเตรียมฝึกทหาร โดยมีผู้จงรักภักดี คือ ขุนพิเรนทรเทพ, ขุนอินทรเทพ และหมื่นราชเสน่หานอกราชการ เฝ้าคุ้มกันภัยให้ ต่อมาพวกเขาได้ร่วมกันปลงพระชนม์ขุนวรวงศาและท้าวศรีสุดาจันทร์ เสียบหัวประจานไว้ที่วัดแร้ง แล้วอัญเชิญพระเฑียรราชา ให้ลาสิกขาบทขึ้นครองราชย์แทน ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ระหว่างนั้นทางพม่าได้รวบรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น และแผ่ขยายอำนาจรุกรานไทยภายใต้พระมหากษัตริย์ พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ และได้เดินทัพมายังกรุงศรีอยุธยาใน พ.ศ. 2091 เกิดเป็นสงครามยุทธหัตถีที่ทุ่งมะขามหย่อง ซึ่งเป็นเหตุให้พระสุริโยไทสิ้นพระชนม์บนคอช้าง กลายเป็นวีรกรรมของวีรสตรีที่ยิ่งใหญ่
อันดับ 1 พี่มาก..พระโขนง (553.21 ล้านบาท)
- ปีที่ฉาย: 2556
- นักแสดง: มาริโอ้ เมาเร่อ, ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่, เผือก-พงศธร จงวิลาส, ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์, อัฒรุต คงราศรี, กันตพัฒน์ สีดา, ฌอห์ณ จินดาโชติ
- ผู้กำกับ: บรรจง ปิสัญธนะกูล (กวนมึนโฮ, แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว, ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ)
- ค่ายหนัง: GTH
- ทำไมถึงดัง: หนังที่มาโค่นตำแหน่งอันดับ 1 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของสุริโยไทลงได้ ด้วยจุดแข็งหลาย ๆ ข้อ ทั้งความที่หนังหยิบตำนานแม่นาคพระโขนงมาตีความใหม่ ที่ว่ากันว่ารอบไหนรอบนั้นหนังที่สร้างจากตำนานนี้ล้วนดังทุกเรื่อง (นางนาก (2542) ก็ติดอันดับอย่างที่เขียนไปแล้วด้วย) หนังยังถูกสร้างโดยค่ายหนังอารมณ์ดี GTH ที่วางรากฐานความเชื่อมั่นว่าหนังจะตลกและฟีลกู๊ด ทำให้ 3-4 สัปดาห์แรกที่หนังเข้าฉาย คนไทยจะได้เห็นภาพโรงหนังมีคนไปต่อแถวรอเข้าคิวซื้อตัว และที่นั่งเต็มไปจนถึงแถวหน้าที่ชิดจอมากที่สุด หนังทำรายได้ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ไป 553 ล้านบาท แต่จากข้อมูลของค่ายที่รวมการขายให้สายหนังไปยังจังหวัดต่าง ๆ นับรวมแล้วหนังทำรายได้ถึง 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
- เรื่องย่อ: ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เกิดสงครามจนทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องถูกเกณฑ์ไปรบ “พี่มาก” จำต้องทิ้งเมียของเขาที่กำลังท้องแก่ไว้ที่บ้านเพื่อเข้าร่วมศึก ระหว่างสงครามมากได้พบและช่วยชีวิตเพื่อนทหารเกณฑ์สี่คนคือ เต๋อ เผือก ชิน และเอ (ตัวละครสุดฮาจากตอน “คนกลาง” ในหนังสี่แพร่ง และตอน “คนกลาง” ในหนังห้าแพร่ง) เมื่อสงครามยุติ มากจึงชวนให้ทั้งสี่ไปเยี่ยมบ้านของเขาที่พระโขนง พวกเขาได้รู้จักกับ “นางนาก” เมียสาวแสนสวยของมาก และยังมี “แดง” ลูกชายวัยแรกเกิดของมากด้วย ขณะ นั้นมีข่าวลือหนาหูในหมู่ชาวบ้านว่านากเป็นผีตายทั้งกลม ทั้งสี่ไม่เชื่อจึงพยายามพิสูจน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ จนมั่นใจว่านากเป็นผีแน่ ๆ ทั้งสี่ไม่กล้าบอกมากตรงๆ เนื่องจากกลัวจะต้องพบจุดจบ แต่เมื่อนึกถึงบุญคุณที่มากเคยช่วยชีวิต พวกเขาจึงต้องตัดสินใจบอกความจริงให้มากรู้ก็เพราะคนกับผีอยู่ร่วมกันไม่ได้
หนังไทย 100 ล้านอันดับอื่น ๆ อีก 9 เรื่อง
- อันดับ 21 กวน มึน โฮ (2553/GTH) 131.04 ล้านบาท
- อันดับ 22 สุดเขต สเลดเป็ด (2553/M39) 125.03 ล้านบาท
- อันดับ 23 มือปืน / โลก / พระ / จัน (2544/RS Film) 123 ล้านบาท
- อันดับ 24 ลัดดาแลนด์ (2554/GTH) 116.46 ล้านบาท
- อันดับ 25 ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค 6 อวสานหงสา (2558/สหมงคลฟิล์ม) 115.11 ล้านบาท
- อันดับ 26 ฉลาดเกมส์โกง (2560/GDH) 112.12 ล้านบาท
- อันดับ 27 ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2547/GTH) 109.98 ล้านบาท
- อันดับ 28 5 แพร่ง (2552/GTH) 109.41 ล้านบาท
- อันดับ 29 แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว (2559/GDH) 100.91 ล้านบาท
อ้างอิง: ข้อมูลจากชมรมวิจารณ์บันเทิง, Wikipedia ของหนังแต่ละเรื่อง, นิตยสาร Starpics และนิตยสาร Entertain Extra
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส