[รีวิวซีรีส์] Emily in Paris : น่ารักดูเพลิน แบบสาวน้อยอเมริกันสไตล์อินปารีส

Our score

8.0

[รีวิวซีรีส์] Emily in Paris : น่ารักดูเพลิน แบบสาวน้อยอเมริกันสไตล์อินปารีส

จุดเด่น

1. โลเคชันงามตาเป็นภาพสวย ๆ คลีน ๆ เพลินมาก ๆ
2. คอสตูมดูเพลิน ไม่ได้อลังการมากแต่เหมาะสม
3. บทมีความจิกกัดสังคมวัฒนธรรมอยู่เนือง ๆ
4. ซีรีส์ขายฝันดูเพลินแบบขำ ๆ ไม่ต้องคิดเยอะ
5. นางเอกสวยสบายตา น่ารักมาก ๆ พระเอกงานดี ยืนยิ้มเฉย ๆ ก็ฟินได้

จุดสังเกต

1. บทไม่มีความสมเหตุสมผล แต่นั่นละค่ะมันไม่ใช่ประเด็น มองข้ามไปได้เลย

• ความสมบูรณ์ของบท

  6.0

• นักแสดง

  8.0

• การเล่าเรื่อง

  8.0

• การผลิต

  8.0

• ความคุ้มค่าในการรับชม

  10.0

ผลงานล่าสุดของ Darren Star ผู้สร้าง Sex and the City เรื่องราวของ ‘เอมิลี่  คูเปอร์’ (Liy Collins ) สาวนักบริหารการตลาดวัยยี่สิบกว่า ๆ จากชิคาโก ได้งานในฝันที่กรุงปารีสแบบไม่คาดคิด เป็นการผจญภัยเล็ก ๆ ในการทำงาน ชีวิตรักและการเดินตามความฝันในมหานครปารีส

ซีรีส์ขายฝัน แบบอเมริกันสไตล์

เอมิลี่ คูเปอร์ (Lily Collins) เป็นสาวน้อยชาวอเมริกัน มีความคิดสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร แถมยังเก่งในเรื่องของการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย เธอมีความหลงไหลในนครปารีสเอามาก ๆ เมื่อบริษัทตัดสินใจส่งเธอมาทำงานอยู่ที่บริษัทการตลาดในปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพราะบริษัทในฝรั่งเศสถูกซื้อกิจการรวมกับบริษัทในสหรัฐฯ เท่ากับว่านอกจากได้ไปอยู่ในดินแดนในฝันแล้ว เอมิลี่ยังได้รับโอกาสเพื่อพิสูจน์ฝีมืออีกต่างหาก

แต่การมาอยู่ปารีสไม่ใช่เรื่องง่าย เธอเป็นอเมริกันที่พูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่เธอรู้สึกกังวล แค่ได้ไปปารีสอะไรก็ไม่น่ากลัวสำหรับเธอทั้งนั้น ต่อให้เธอต้องพบเจอปัญหามากมาย แฟนหนุ่มเลิกราเพราะความห่างไกล การถูกกีดกันจากหัวหน้างาน อุปสรรคด้านภาษาต่าง ๆ เอมิลี่ก็ปรับตัวจ้ะ ความเป็นคนร่าเริงและคิดบวก เอมิลี่ได้พบกับ ‘มินดี้’ (Ashley Jini Park) เพื่อนสาวจากประเทศจีน ที่ยอมทิ้งฐานะร่ำรวยของทางบ้านมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ได้พบกับ ‘เกเบรียล’ (Lucas Bravo) เชฟหนุ่มหน้าตาดี ที่เป็นเพื่อนบ้านอยู่ห้องชั้นล่างและ ‘คามิลล์’ (Camille Razat) เพื่อนสาวที่ช่วยเธอซื้อดอกไม้ การเดินตามความฝันในนครปารีสของเธอ ก็เป็นเรื่องสนุกสนานมีชีวิตชีวาได้ทุกวัน

ซีรีส์ที่ผู้ชายดูได้ ผู้หญิงก็ดูดี

สำหรับผู้ชายไม่ต้องดูอะไรมาก ดูความน่ารักเครื่องหน้าเป๊ะ ๆ กับหุ่นทรงกระจิดริดของ ลิลลี่ คอลลินส์ ก็ชื่นใจแล้ว เรื่องนี้นางเอกจะเป็นสาวมั่น หัวไวที่มีความพยายามในการแก้ปัญหาทุก ๆ อย่าง ขอให้ฉันได้อยู่ตรงนี้ในที่ที่ฉันไฝ่ฝัน มหานครแห่งความโรแมนติกที่ต่อให้ต้องอาศัยอยู่ในตึกเก่า แต่เพียงเปิดหน้าต่างออกไป ความเจิดจรัสก็ไหลผ่านเข้ามาได้อย่างง่าย ๆ จะว่าไปบ้านเมืองเขาก็สวยน่ามองจริง ๆ อ่ะแหละนะ

เรื่องนี้เป็นซีรีส์ขายฝันดี ๆ นี่เองแหละจ้ะ แต่เป็นฝันของสาวอเมริกันที่อยากจะพิสูจน์ตัวเอง นำความคิดมุมมองแบบอเมริกันสไตล์มาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันกับเพื่อนร่วมงานใหม่ชาวยุโรป บทมีการเปรียบเทียบวิถีชีวิต ความแตกต่างทางวัฒนธรรมความคิด การทำงาน เรียกว่าจิกกัดอยู่ปลาย ๆ พอขำ ๆ แต่ก็เห็นดีด้วยไปซะอีก มีบทพูดตอนหนึ่งที่เพื่อนร่วมงานบอกกับเอมิลี่ว่า คนฝรั่งเศสทำงานเพื่อใช้ชีวิต ไม่ใช่มีชีวิตเพื่อทำงาน ประโยคสั้น ๆ แค่นี้ทำให้เราฉุกคิดได้เหมือนกันนะ ว่าเอ๊ะ แล้วเราทำงานเพื่อใช้ชีวิตแบบตาหัวทองนี่ หรือมีชีวิตเพื่อการทำงานแบบเอมิลี่กันแน่

แต่สำหรับเอมิลี่ในเรื่องนี้แล้ว การมาทำงานที่ฝรั่งเศส คือการใช้ชีวิตของเธอ เนื้อหาต่าง ๆ ในเรื่องบอกเลยว่าดูง่ายเอามาก ๆ ดูแบบเพลิน ๆ ย่อยง่ายไปกับซีรีส์สั้น ๆ ตอนละ 23-30 นาทีเท่านั้นเอง ดูไปดูมาก็เผลอจบซีซันเอาซะง่าย ๆ เรื่องราวส่วนใหญ่ดำเนินเรื่องโดยเอมิลี่ กับชีวิตในแต่ละด้านของเธอ ความเป็น professional ในโลกโซเชียลมีเดียและทุกปัญหาที่แก้ได้แบบเอมิลี่ซะอย่าง จะเรียกว่าเป็นการผจญภัยเล็ก ๆ ก็ไม่ผิด มีเรื่องราวไม่คาดคิดแม้แต่เรื่องของหมาที่มาขี้อยู่หน้าบ้าน ในมหานครที่ไม่น่าจะโจ่งแจ้งขนาดนี้ให้ได้พอขำ ๆ (กัดเก่งงงงง)

ความที่มีวิญญาณอินฟลูเอนเซอร์ นางก็ใช้โซเชียลฯ อย่างเป็นประโยชน์ในทุกช่องทาง ทำให้มียอดผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นจนช่วยในเรื่องของการทำงานได้แทบทุกครั้ง ซีรีส์ก็เน้นให้เห็นประโยชน์ของโซเชียลมีเดียอย่างเต็มที่ สร้างให้เอมิลี่เป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ที่พลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้เสมอ เป็นคอมเมดี้ชีวิตที่เปลี่ยนเรื่องที่ควรเครียดให้เป็นเรื่องเบา ๆ อย่างหน้าตาเฉย บอกเป็นนัยเอาไว้ว่า ใจสู้และมั่นใจในตัวเองซะอย่าง ทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่ายถ้าเรามุ่งมั่นพอ

พล็อตเรียบง่ายแต่พาให้ดูไปได้จนจบ

ดูรวดเดียว 10 ตอนจบได้เลยค่ะ เนื้อเรื่องแต่ละตอนจะมีตอนจบทิ้งท้ายให้ตามต่อ แล้วเราก็ดันตามต่อเข้าจริง ๆ ใช้คำว่าน่ารักสนุกสนานดูเพลินได้อย่างไม่ขัดปาก พาร์ตการทำงานก็ลุ้นตามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วละว่าเอมิลี่จัดการได้ แต่อยากจะรู้ว่าจะจัดการด้วยวิธีไหน พาร์ทความรักก็เอาใจช่วย ตกลงเอมิลี่นี่จะยังไง ความรักจะสมหวังลงเอยกับเขาสักทีหรือเปล่า

เป็นดราม่าเบา ๆ หนักไปทางคอมเมดี้ซะมากกว่า แต่ไม่ใช่คอมเมดี้ที่เราจะมานั่งขำก๊ากท้องคัดท้องแข็ง เป็นคอมเมดี้เพลิน ๆ เหมือนเคี้ยวขนมกรุบกรอบ สบายตาไปกับโลเคชันงาม ๆ ของนครปารีส ฟิน ๆ อารมณ์เอาใจช่วยไปกับเอมิลี่เวลาเข้าพระเข้านาง กำลังลุ้นอยู่ดี ๆ บทก็บิดให้เราลุ้นค้างร้อง อ้าววว … ทำไงดีล่ะเอมิลี่กันได้บ่อย ๆ

ซีรีส์สร้างมาให้เราดูเพลิน ๆ แบบไม่ต้องคิดมากกันเต็ม ๆ เลยนะคะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องหาความสมเหตุสมผลในเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะมันจะไม่มี (ฮาาา) มันเป็นไปได้ยากมาก ๆ ที่บริษัทการตลาดยักษ์ใหญ่ จะส่งพนักงานตัวเล็ก ๆ มาทำงานด้านการตลาดในบริษัทที่ถูกควบรวม แถมพนักงานคนนั้นยังพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ไปซะอีก แต่ก็ได้มาอ่ะนะ เหมือนปล่อยลูกนกเอ๋อ ๆ อ๋า ๆ ที่มั่นใจเกินเบอร์มาสร้างปาฏิหาริย์ที่เป็นไปได้ยากให้เป็นไปได้ด้วยพลังมหัศจรรย์ ดูขำ ๆ ไปค่ะ อย่าคิดมาก

เพลินตาไปซะกับโลเคชันงาม ๆ ที่ทำให้เราอยากจะตีตั๋วไปปารีสอยู่เหมือนกัน และคอสตูมมากมายที่เปลี่ยนมันซะทุกฉากของเอมิลี่ ชุดเยอะที่สุดในเรื่องแล้ว มีหลายชุดที่ไม่เข้าตาป้าข้างบ้านสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นที่มุมกล้องที่ส่งให้เอมิลี่ที่น่ารักดูสูงวัยไปนิด แต่ก็ให้อภัยในหลาย ๆ ชุดที่ส่งให้สวยสง่าน่ามอง ที่สำคัญขับผิวผ่องไปทุกชุด เป็นซีรีส์ซุกซนแบบ EMILY IN PARIS ได้สมชื่อ ขัดใจตรงที่จบตอนที่ 10 แล้วมันค้างคาให้อยากรู้อยากเห็นนี่สิ กำลังฟินยิ้มแฉ่งอยู่แท้ ๆ ทำยังไงต่อกันดีล่ะเอมิลี่ จบแบบนี้ก็ได้เหรอ ซีซัน 2 มาเมื่อไหร่ล่ะ ให้มันไว ๆ หน่อยละกัน

EMILY IN PARIS

• Created by : Darren Star
• Original network : Netflix

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส