ในช่วงนี้ Netflix ได้จัดโปรแกรมหนังดราม่าที่สนใจในหลาย ๆ ประเภทของภาพยนตร์มาให้ได้ชม ไม่ว่าจะเป็นหนังสงคราม หนังหายนะภัย หนังที่ให้คุณค่าต่อชีวิตผ่านเรื่องราวหรือบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจ ที่ทั้งมีชีวิตอยู่จริงหรือมาจากเรื่องแต่งที่เป็นนิยาย รวมไปถึงหนังตลกร้ายก็มี สำหรับใครที่อยากชมหนังที่จะทำให้เสียน้ำตาให้กับความสะเทือนใจ ความหดหู่ หรือความประทับใจเมื่อหนังถึงบทสรุป เชื่อว่าหนังเหล่านี้น่าจะตอบโจทย์ พกทิชชู่ไว้ข้างตัวให้เยอะ ๆ ก่อนจะคลิกชมหนังตามรายชื่อที่ What the Fact เตรียมไว้ให้เป็นตอนที่ 2 แล้ว (ย้อนกลับไปอ่านตอนแรกกันได้ที่นี่)

LA LA LAND (2016)

ร้องไห้กับความรักที่ร่วมฝ่าฟันกันมาแต่ไม่อาจร่วมทางจนถึงตอนจบ

หนังที่เฉียดใกล้ออสการ์ที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นตัวเต็งและเป็นผู้ชนะอยู่ราว ๆ 2-3 วินาทีก่อนจะมีการประกาศแก้ชื่อเป็นหนัง Moonlight แทน ถึงอย่างนั้น La La Land ก็ยังเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของผู้กำกับ Damien Chazelle ที่สร้างบรรยากาศให้หวนนึกถึงหนังเพลงในยุค 60s รวมถึงฉากจบที่แสนปวดร้าว แทบจะพลิกอารมณ์ของหนังทั้งเรื่องให้กลายเป็นหนังเรื่องใหม่เลยทีเดียว แต่นั่นก็ทำให้หนังมีตอนจบเป็นที่กล่าวถึงและถูกจัดให้เป็นตอนจบที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในโลกภาพยนตร์

พล็อตเรื่องว่าด้วย “บอยมีทเกิร์ล” ชายหนุ่มหญิงสาวตกหลุมรักกันและฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามต่าง ๆ โดยเฉพาะการไล่ตามความฝันในมหานครแห่งโลกมายาอย่าง L.A. ด้วย หนังเล่าเรื่องสองพาร์ท หลังจากฉากเต้นสุดหวือหวาบนทางด่วนที่รถติดแน่นขนัด พระเอกกับนางเอกก็ได้พบกันครั้งแรกและประทับใจกันแบบพ่อแง่แม่งอน แล้วหนังก็เริ่มจับไปเล่าชีวิตของ Mia นางเอกที่เป็นเพียงเด็กบ้านนอก มาทำงานบาร์เทนเดอร์ร้านกาแฟ และเฝ้าตามความฝันในการเป็นนักแสดงโด่งดัง เธอผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการไปออดิชั่นแคสติ้งงานต่าง ๆ แต่ก็ไม่เคยท้อใจ จนวันคริสต์มาสที่ทุกอย่างดูไม่เป็นใจเอาเสียเลย เธอก็ได้พบกับชายหนุ่มนักเปียโนแนวแจ๊สในคลับแห่งหนึ่ง ที่จะกลายมาเป็นทั้งแรงบันดาลใจและแรงผลักดันคนสำคัญ (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)

La La Land
La La Land
  • นักแสดง: Ryan Gosling, Emma Stone, J.K. Simmons
  • ผู้กำกับ: Damien Chazelle (Whiplash, First Man)
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 30/446 ล้านเหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 91% / 8/10
  • รางวัลบนเวทีออสการ์:
    • ชนะ 6 สาขารางวัล (นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Emma Stone), ผู้กำกับยอดเยี่ยม, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ทั้งเพลงและสกอร์) และ องค์ประกอบศิลยอดเยี่ยม)
    • เข้าชิงอีก 8 สาขารางวัล (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Ryan Gosling), บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม, ผสมเสียงยอดเยี่ยม, ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม และเพลงประกอบยอดเยี่ยม (เข้าชิงถึง 2 เพลง คว้ารางวัล 1 เพลง))

BEFORE WE GO (2014)

ร้องไห้ให้กับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของคนแปลกหน้าสองคน

ผลงานกำกับและนำแสดงเองของกัปตันอเมริกา Chris Evans ที่หันมากำกับหนังเป็นครั้งแรก และมาในแนวทางของหนังรักข้ามคืนที่ชื่อขึ้นต้น Before เหมือนกันอย่าง Before Sunrise (1997) เรื่องราวของชายหญิงคู่หนึ่งที่บังเอิญพบเจอกันกลางเมืองนิวยอร์ก เมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนแม้ยามค่ำคืน Nick ชายผู้รักในเสียงดนตรีและกำลังเล่นดนตรีเปิดหมวดที่สถานีรถไฟ ได้เจอกับ Brooke หญิงสาวที่พลาดรถไฟเพื่อจะกลับบ้านไปหาคนรักที่บอสตัน ทั้งสองบังเอิญพบกันเพราะ Brooke รีบวิ่งเพื่อจะขึ้นรถไฟให้ทันและดันทำโทรศัพท์ตกต่อหน้า Nick ที่กำลังหยุดเล่น เขาจึงนำโทรศัพท์ที่ตกแตกไปคืนเธอ

เมื่อ Nick รู้ว่าหญิงสาวผู้นี้ตกรถไฟเขาก็พยายามช่วยเหลือ แต่ว่าโชคไม่เข้าข้างเพราะทั้งคู่ไม่มีเงินพอที่จะพา Brooke กลับบ้านได้ ดังนั้นทั้งคู่จึงต้องพยายามหาทางให้เธอกลับไปทันก่อนวันรุ่งขึ้นและเพียงชั่วข้ามคืน ทั้งสองก็ได้พบเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ ร่วมกัน ได้พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวโดยเฉพาะเรื่องของความรักที่ทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาของตัวเอง ทั้งหมดนั้นทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกบางอย่างที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง อาจะเป็นเพราะรักไม่ต้องการเวลาก็เป็นได้ (รับชมแบบเต็มเรื่องฟรีได้ทาง Line TV)

  • นักแสดง: Chris Evans, Alice Eve, Emma Fitzpatrick, Mark Kassen, Daniel Spink
  • ผู้กำกับ: Chris Evans
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 462,875 เหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 27% / 6.8/10

ABOUT TIME (2013)

ร้องไห้ให้กับความสัมพันธ์ของพ่อลูก ที่แม้เวลาไม่ใช่ปัญหาแต่ก็ต้องลาจากอยู่ดี

เพิ่งกลับเข้ามาสตรีมทาง Netflix อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ สำหรับผลงานกำกับชิ้นสุดท้ายของเจ้าพ่อหนังรักอังกฤษอย่าง Richard Curtis ที่เป็นมือเขียนบทหนังอังกฤษดัง ๆ อย่าง Four Weddings and a Funeral (1994), Notting Hill (1999), Bridget Jones’s Diary (2001) และล่าสุดอย่าง Yesterday (2019) (ยังเขียนบทอยู่แต่ไม่เป็นผู้กำกับแล้ว) ซึ่งก็เป็นงานที่สมศักดิ์ศรีผลงานชิ้นสุดท้าย เพราะทำออกมาได้งดงามและแสนประทับใจ รวมถึงการเป็นหนังรักและหนังเดินทางข้ามเวลาที่อยู่ในหัวใจของใครหลายคน

หนังเป็นเรื่องราวของ Tim ชายหนุ่มขี้อาย ไม่ประสีประสา เขาได้พบความจริงจากพ่อว่า เขาสามารถเดินทางข้ามเวลาได้ สิ่งนี้เป็นความสามารถพิเศษที่ผู้ชายตระกูลนี้ที่สืบทอดกันมา เขาใช้ความสามารถนี้ย้อนกลับไปช่วยให้แก้ไขข้อผิดพลาดบางอย่างในชีวิตได้ (ซึ่งก็จะทำให้เส้นเวลาในอนาคตเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับร้ายแรงเท่ากฎเกณฑ์ในหนังเรื่องอื่น) Tim ใช้ความสามารถพิเศษเพื่อเจอกับแฟนสาวและทำให้เธอประทับใจ หนังให้ข้อคิดสอนชีวิตเช่นเดียวกับหนังหลาย ๆ เรื่องที่ Curtis เคยเขียนบทไว้ กับเรื่องนี้ก็เน้น ๆ ไปที่ความรักระหว่างพ่อกับลูกชายที่จับเอาการย้อนเวลาและโลกคู่ขนานมาทำให้เสียน้ำตาได้

ชวนอ่าน “หนังโลกคู่ขนาน” ที่คอหนังตัวจริง ต้องดูสักครั้งในชีวิต!

  • นักแสดง: Domhnall Gleeson, Rachel McAdams, Bill Nighy, Margot Robbie, Vanessa Kirby
  • ผู้กำกับ: Richard Curtis (Love Actually, Pirate Radio)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 12 / 87 ล้านเหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 68% / 7.8/10

(อ่านต่อหน้าถัดไป)

THE BUCKET LIST (2007)

ภาพยนตร์ที่นำ 2 สุดยอดนักแสดงแห่งยุคอย่าง Jack Nicholson (เจ้าของ 3 รางวัลออสการ์) และ Morgan Freeman (เจ้าของ 1 รางวัลออสการ์) โคจรมาเจอกันในหนังสุดฟีลกู๊ดแต่ก็มอบความหมายที่งดงามให้กับการใช้ชีวิต เรื่องราวของมหาเศรษฐี Edward และ Carter ช่างซ่อมรถที่ได้มาพบกันในวันที่ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายกันทั้งคู่ พวกเขาตัดสินใจเขียนลิสต์ของสิ่งที่อยากทำก่อนตายลงในกระดาษ และพยายามทำมันให้เป็นจริงในเวลาที่พวกเขาเหลืออยู่ ที่ผ่านมา Edward คือคนที่ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองมาตลอด ส่วน Carter นั้นเป็นคนที่ใช้ชีวิตเพื่อครอบครัวจนไม่เคยทำอะไรให้ตัวเอง

และเมื่อถึงเวลาที่ชีวิตกำลังจะหมดลง นอกจากรายการหลุดโลกที่พวกเขายังไม่เคยทำสักครั้งในชีวิต ทั้งดิ่งพสุธาหรือขี่มอเตอร์ไซค์บนกำแพงเมืองจีนแล้ว พวกเขาก็ยังมีปัญหาความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวที่ต้องเร่งสะสางก่อนจะจากโลกนี้ไป นอกจากจะเป็นผลงานการแสดงของนักแสดงที่จัดเจนโลกแล้ว ผู้กำกับก็เช่นกันเพราะคือผลงานของ Rob Reiner จากหนังความสัมพันธ์สุดคลาสสิกอย่าง Stand by Me (1986), When Harry Met Sally… (1989) และ The Story of Us (1999)

  • นักแสดง: Jack Nicholson, Morgan Freeman, Sean Hayes, Beverly Todd, Rob Morrow
  • ผู้กำกับ: Rob Reiner (Rumor Has It…, The American President, When Harry Met Sally…)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 45 / 175 ล้านเหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 41% / 7.4/10

THE NOTEBOOK (2004)

ร้องไห้ให้กับความรักที่เกิดในช่วงวัยรุ่น ที่ต้องพลักพรากเพราะชีวิตต้องเติบโต

นวนิยายเล่มที่สามของเจ้าพ่อหนังสือรักอย่าง Nicholas Sparks ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ตามหลัง A Walk to Remember (2002) และจนถึงขณะนี้มีหนังจาก Sparks สิริรวม 11 เรื่องและเรื่องนี้ทำรายได้สูงที่สุด (ยังมีหนังจากนิยายของ Sparks ที่ดูได้บน Netflix อีก 3 เรื่องตอนนี้คือ The Longest Ride (2015), The Lucky One (2012) และ Nights in Rodanthe (2008)) The Notebook เล่าเรื่องของ ชายวัยชราผู้หนึ่งที่เล่าเรื่องซึ่งถูกจดบันทึกไว้ในสมุดเล่มหนึ่งให้เพื่อนหญิงในวัยเดียวกันที่บ้านพักคนชราฟัง เรื่องราวในสมุดเล่มนั้นคือ ความรักของหนุ่มสาววัยเริ่มรู้จักความรักที่เป็นดั่งเส้นขนานที่ได้มาบรรจบและแยกทางกันไปในหลายครั้งหลายคราของชีวิต

นำแสดงโดย Ryan Gosling และ Rachel McAdams ที่แสดงได้เป็นธรรมชาติ และ James Garner (เรื่องรองสุดท้ายแล้วปู่ก็ไม่เล่นหนังอีกเลย) ที่เล่นได้ซึ้งมากในฉากตอนท้ายร่วมกับ Joan Allen หรือแม้แต่ James Marden ที่เล่นนิดเดียว หนังสวยงามสำหรับผู้ที่อยากจะคล้อยตามไปกับหนังรักโรเมนติกข้ามพ้นวัย ข้อดีของหนังเรื่องนี้คือ การให้เหตุผลในการกระทำของตัวละครทุกตัว ทำให้หนังมีตัวละครที่เต็มไปด้วยเหตุผลในหนังที่เรื่องราวไม่ค่อยจะมีเหตุผลอย่างไม่เคอะเขิน นอกจากนั้นยังถ่ายทำฉากทั้งหลายได้สวยงามหมดจด

ชวนอ่าน “10 หนังรักในตำนานหาดูยาก ที่ดูได้แล้วบน Netflix วันนี้

  • นักแสดง: Ryan Gosling, Rachel McAdams, James Marden, James Garner, Joan Allen
  • ผู้กำกับ: Nick Cassavetes (My Sister’s Keeper/John Q)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 29 / 115 ล้านเหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 53% / 7.8/10

CAST AWAY (2000)

ร้องไห้ให้กับชีวิตที่โดดเดี่ยวบนเกาะกลางทะเล 4 ปี

เรื่องของ Chuck Noland วิศวกรระบบของบริษัท FedEx ซึ่งชีวิตส่วนตัวและในงานอาชีพ ถูกกำหนดโดยนาฬิกา ทุกวินาทีของเขาต้องสร้างงานให้ได้มากที่สุด ชัคไม่สามารถกำหนดเวลาที่จะมอบให้แก่คนรักอย่าง คนรัก Kelly Frears จนกระทั่งการทำงานอย่างไม่เคยหยุดนิ่งของ Chuck ต้องสะดุดลงจากอุบัติเหตุ เครื่องบินตก เขาถูกทิ้งอย่างโดดเดี่ยวบนเกาะที่ไกลออกไป ห่างไกลจากความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน และถูกเข้าใจว่าตายไปแล้ว เขาต้องเผชิญกับโชคชะตาอันโหดร้ายเพียงลำพัง กับลูกวอลเล่ย์บอลหนึ่งลูก หลังจากนั้น 4 ปี Chuck เริ่มกลับสู่ชีวิตในอารยธรรมแบบเดิม เขาสูญเสียทุกสิ่งที่เขาเคยมีและคิดว่าสำคัญ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับเขา แต่เขาก็ได้ค้นพบความหมายที่แท้จริงของชีวิต

หนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซของคู่หูผู้กำกับและนักแสดงจาก Forrest Gump (1994) ที่กลับมาสานต่อความสำเร็จของหนังแห่งความประทับใจ เล่าเรื่องของชายผู้ติดเกาะหลังจากเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในเหตุการณ์เครื่องบินตก Tom Hanks แบกหนังทั้งเรื่องไว้คนเดียวจนแทบจะเป็นการแสดงหนังเดี่ยวของเขา แต่ก็สมบทบาทที่ต้องลดน้ำหนักให้ผอมแห้งได้อย่างสมจริง จึงไม่พ้นที่เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์นำชายจากเรื่องนี้อีกเรื่อง หนังที่เป็นหัวหอกของหนังติดเกาะแต่เพียงผู้เดียวตลอดกาล เชื่อว่าคอหนังหลายคนต้องเคยดูมากกว่าจะไม่เคยดู ถ้าเลือกกดมาดูอีกครั้งเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในภาวะแบบนี้ Cast Away ก็แฝงความประทับใจในความพยายามเอาชีวิตรอด ด้วยทัศนคติแง่บวกที่จะเป็นพลังให้มีกำลังใจผ่านสถานการณ์ที่เลวร้าย เชื่อว่าหนังเรื่องนี้ก็มีให้กับผู้ชมทุกคนได้อย่างเต็มเปี่ยม

ชวนอ่าน “10 หนัง “ห่าง ๆ” ที่ดูได้แล้วบน Netflix…เมื่อเราต้องห่าง (โรงหนัง) กันสักพัก!

  • นักแสดง: Tom Hanks, Helen Hunt, Jenifer Lewis, Elden Henson, Chris Noth
  • ผู้กำกับ: Robert Zemeckis (Forrest Gump, Flight, Back to the Future)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 90 / 429 ล้านเหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 53% / 7.8/10
  • รางวัลบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 2 สาขารางวัล (นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Tom Hanks), เสียงประกอบยอดเยี่ยม)

CITY OF ANGELS (1998)

ร้องไห้ให้กับความรักข้ามเส้นแบ่งปรโลก ระหว่างเทวดากับมนุษย์

หนังที่ตั้งคำถามว่า จะเป็นอย่างไรหากเทวดาหันมาตกหลุมรักมนุษย์ เรื่องราวสุดโรแมนติกที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์รักเรื่องดังที่ยังติดอยู่ในความทรงจำกับฉากหลังของมหานครแห่งนางฟ้า “ลอสแอนเจลิส” ที่เคล้าคลอไปด้วยเพลงประกอบสุดเพราะ City of Angels เล่าเรื่องราวของ Seth เทวดาผู้ทำหน้าที่ติดตามดวงวิญญาณของมนุษย์ที่เพิ่งเสียชีวิต ด้วยความที่เขาไม่เคยเป็นมนุษย์มาก่อนจึงทำให้ไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกหรืออารมณ์ของมนุษย์ได้เลย กระทั่งได้มาพบกับ Dr. Maggie Rice ศัลยแพทย์หัวใจผู้ทุ่มเทกับการช่วยชีวิตคนไข้ของเธอ Seth ตกหลุ่มรัก Maggie และเริ่มปรากฏตัวสานสัมพันธ์ ก่อนจะนำไปสู่การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนวิถีของเทวดาอย่างเขาไปตลอดกาล

หนังได้เค้าโครงมาจากหนังเยอรมันเรื่อง Wings of Desire (1987) ของผู้กำกับ Wim Wenders โดยเปลี่ยนฉากหลังจากกรุงเบอร์ลินมาเป็นลอสแอนเจลิสในสหรัฐฯ เป็นการโคจรมาเจอกันของนักแสดงแถวหน้าแห่งยุคอย่าง Nicolas Cage ที่เพิ่งได้รางวัลออสการ์มาจาก Leaving Las Vegas (1995) และดังสุด ๆ กับ Face/Off (1997) ส่วน Meg Ryan ก็คือเจ้าแม่หนังรอมคอมยืนหนึ่งของยุค 90s จาก Sleepless in Seattle (1993) และ When Harry Met Sally… (1989) นอกจากนี้ซาวน์แทร็กของหนังก็ประสบความสำเร็จตามภาพยนตร์ดังเรื่องอื่น ๆ ของยุค 90s ไม่ว่าจะเพลง Angel ของ Sarah McLachlan, หรือ Uninvited ของ Alanis Morissette

  • นักแสดง: Nicolas Cage, Meg Ryan, Andre Braugher, Dennis Franz, Colm Feore
  • ผู้กำกับ: Brad Silberling (Casper, Moonlight Mile, An Ordinary Man)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 55 / 198 ล้านเหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 58% / 6.7/10

(อ่านต่อหน้าถัดไป)

BEFORE SUNRISE (1995)

ร้องไห้ความสัมพันธ์ชั่วคืนที่จะยั่งยืนยาวนานตลอดชีวิต

จุดเริ่มต้นของหนังรักไตรภาคเต็มไปด้วยบทสนทนาความรักที่เพลิดเพลิน จนสร้างอีกสองภาคคือ Before Sunset (2004) และ Before Midnight (2013) เรื่องราวของ Jesse หนุ่มอเมริกัน และ Céline สาวฝรั่งเศส พวกเขาพบกันบนรถไฟระหว่างทางไปกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และทั้งคู่ได้ใช้เวลาหนึ่งคืนเดินเล่นรอบเมืองเพื่อทำความรู้จักกัน ก่อนที่ Jesse ต้องเดินทางกลับอเมริกาในวันรุ่งขึ้น ส่วน Céline ก็มีความตั้งใจที่จะกลับไปเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส พวกเขาได้มีโอกาสแบ่งปันเรื่องราวของตนเองอย่างอย่างที่เชื่อว่าคงจะไม่ได้พบกันอีก

หนังมีแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงของผู้กำกับที่ได้พบกับผู้หญิงที่ชื่อ Amy Lehrhaupt ในปี 1989 ที่ฟิลาเดลเฟีย Richard ใช้เวลาอยู่กับเธอเป็นเวลา 1 คืนอย่างแสนประทับใจ ในปี 1994 เธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ Richard จะเริ่มถ่ายหนังเรื่องนี้ และกว่าที่เขาจะรู้ว่า Amy เสียชีวิตเวลาก็ผ่านมาถึงปี 2010 แล้ว ผู้กำกับจึงสร้างหนังเรื่อง Before Midnight หนังปิดไตรภาคเพื่ออุทิศให้กับเธอ

ชวนอ่าน “10 หนังรักในตำนานหาดูยาก ที่ดูได้แล้วบน Netflix วันนี้

  • นักแสดง: Ethan Hawke, Julie Delphy, Erni Mangold, Haymon Maria Buttinger
  • ผู้กำกับ: Richard Linklater (Before Sunset, Before Midnight, Boyhood)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 2 / 5 ล้านเหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 100% / 8.1/10

GHOST (1990)

ร้องไห้ให้กับวิญญาณของคนรักที่ยังมี “ห่วง”

หนังรักในตำนานของยุค 90s ที่คอหนังที่เกิดไม่ทันแต่อย่างน้อยต้องเคยเห็นภาพหรือการพูดถึงฉากปั้นไหในตำนานของนักแสดง Patrick Swayze ผู้ล่วงลับและ Demi Moore ที่มารับบทเป็น Sam Wheat และ Molly Jensen คู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ พวกเขาเพิ่งตกแต่งอพาร์ตเมนท์ในเมืองนิวยอร์กแห้วใหม่ แต่แล้วคืนหนึ่ง Sam ก็ถูกรถชนเสียชีวิต Molly ทั้งเสียใจทั้งสับสนไม่เป็นอันใช้ชีวิต ขณะเดียวกันวิญญาณของ Sam ก็กำลังล้มลุกคลุกคลานกับประสบการณ์ในมิติของวิญญาณ เขาพบว่าเขายังคงอยู่บนโลก แต่ไม่มีใครมองเห็นหรือได้ยินเสียงของเขา

ที่เขายังคงวนเวียนอยู่บนโลกมนุษย์ก็เพราะยังต้องการแก้แค้นผู้ที่ทำให้เขาต้องเสียชีวิต และจิตที่ห่วงกังวลถึง Molly แต่ Sam นั้นไม่สามารถทำทุกอย่างเองได้ด้วยตนเอง เขาจึงหันหน้าไปพึ่งร่างทรง Oda Mae Brown (รับบทโดย Whoopi Goldberg) ที่ยอมช่วยเหลือเขา แต่อุปสรรคอันใหญ่หลวงของร่างทรงคือเธอต้องทำให้ Molly เชื่อให้ได้ว่า เธอสามารถสื่อสารกับวิญญาณของ Sam ได้ หรือกระทั่งยอมให้ Sam เข้ามาสิงเพื่อยืมร่างสื่อสารและสัมผัสกับ Molly หนังทำรายได้ทั่วโลกถล่มทลายระดับ 500 ล้านเหรียญฯ ฟันกำไรไปหลายเท่า ส่วนหนึ่งก็เพราะความซึ้งที่คนยุค 90s อยากจะเข้าไปเสียน้ำตาในโรงกันหลายรอบ

LOS ANGELES – JULY 13: The movie “Ghost”, directed by Jerry Zucker and written by Bruce Joel Rubin. Seen here, (from left) Demi Moore as Molly Jensen and Patrick Swayze as Sam Wheat in ghost form. Initial theatrical release July 13, 1990. Screen capture. Paramount Pictures. (Photo by CBS via Getty Images)
  • นักแสดง: Patrick Swayze, Demi Moore, Whoopi Goldberg, Tony Goldwyn, Rick Aviles
  • ผู้กำกับ: Jerry Zucker (Airplane!, Ruthless People, First Knight)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 22 / 506 ล้านเหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 74% / 7.1/10
  • รางวัลบนเวทีออสการ์:
    • ชนะ 2 สาขารางวัล (นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Whoopi Goldberg), บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
    • เข้าชิง 3 สาขารางวัล (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม, เพลงประกอบยอดเยี่ยม)

KRAMER VS. KRAMER (1979)

ร้องไห้ให้กับชะตากรรมของครอบครัวที่แตกสลายจนพ่อแม่ต้องแยกลูกกัน”

ก่อนที่จะมีหนังที่เล่าเรื่องราวความแตกสลายของชีวิตครอบครัวที่แสนร้าวร้านอย่าง Marriage Story (2019) เมื่อ 41 ปีก่อนก็เคยมีหนังที่นำเสนอเรื่องราวแสนสะเทือนใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตครอบครัว และเป็นหนังขายการแสดงที่ทำให้นักแสดงนำของเรื่องคว้าออสการ์ทั้งคู่ (Dustin Hoffman และ Meryl Streep) รวมถึงหนังยังส่งนักแสดงเข้าชิงทั้ง 4 สาขารางวัลของนักแสดงครบถ้วนทั้งหมดอีกด้วย

เรื่องราวของ Ted วัยหนุ่มที่กำลังมีชีวิตรุ่งโรจน์ทางด้านการงาน แต่ชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อถูก Joanna ภรรยาของเขาทิ้งไป เนื่องจากเท็ดไม่มีเวลาให้ ทำให้เท็ดต้องทำงานและเลี้ยงลูกด้วยตนเอง จนเมื่อชีวิตกำลังจะกลับมาตั้งตัวได้ ภรรยาของเขาก็ฟ้องศาลเพื่อขอใช้สิทธิ์ในการเลี้ยงลูกของเธอคืน หนังได้นำเสนอเรื่องราวของพระเอก ที่หลังจากที่เขาแยกทางกับภรรยา เขาต้องพบกับความจริงว่าเขาไม่เคยดูแลลูก และครอบครัว แต่ด้วยสถานะคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวจำเป็นก็บังคับให้เขาต้องทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะต้องทำมาก่อน และผลของเด็กที่ถูกกระทำจากพ่อแม่ไม่ต่างไปจากสิ่งของที่ถูกแย่งชิงไปมา

  • นักแสดง: Dustin Hoffman, Meryl Streep, Jane Alexander, Justin Henry, Howard Duff
  • ผู้กำกับ: Robert Benton (Still of the Night, Places in the Heart, Nobody’s Fool, The Human Stain)
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 8/106 ล้านเหรียญฯ
  • Rotten Tomatoes Score/iMDB Rating: 88% / 7.8/10
  • รางวัลบนเวทีออสการ์:
    • ชนะ 5 สาขารางวัล (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Dustin Hoffman), นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Meryl Streep), ผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
    • เข้าชิงอีก 4 สาขารางวัล (นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Justin Henry), นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Jane Alexander), ถ่ายภาพยอดเยี่ยม และตัดต่อยอดเยี่ยม))

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส