โลกทั้งใบกำลังอยู่ในช่วงกำลังเฝ้าจับจ้องว่า ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะเป็นคนเดิมอย่าง Donald Trump ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 หรือจะเป็นคนใหม่อย่าง Joe Biden รองประธานาธิบดีจากสมัยของ Barack Obama ในเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เห็นว่า คนทั้งโลกทั้งลุ้นและตื่นเต้นไปกับการได้ผู้นำคนใหม่ของมหาอำนาจโลกสมัยใหม่ที่พูดได้เลยว่า ผู้นำของสหรัฐฯ ก็คือผู้นำของโลก
ด้วยเหตุนี้หนังและซีรีส์หลายเรื่องจึงถูกสร้างขึ้นทั้งจากเรื่องจริงและเรื่องแต่ง โดยให้ประธานาธิบดีมีบทบาทสำคัญ และทำให้คอหนังทั่วโลกได้รู้จักเรื่องราวแวดล้อมของตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนรอบตัวทั้งสุภาพสตรีหมายเลข 1 หรือหน่วยงาน Secret Service ที่ทำหน้านี้อารักขาประธานาธิบดีโดยเฉพาะ กระทั่ง Air Force One ที่เป็นเครื่องบินประจำตัวของประธานาธิบดี เรื่องราวจะยิ่งสนุกมากขึ้นเมื่อผู้นำสหรัฐฯ ตกอยู่ในสถานการณ์ก่อการร้ายหรือชิงตัวประกัน และต่อไปนี้คือ10 นักแสดง “ประธานาธิบดีอเมริกา” ที่เท่ที่สุดตลอดกาลในโลกภาพยนตร์และซีรีส์ ที่ What the Fact คัดสรรมาให้ได้ย้อนกลับไปนึกถึงกัน
Michael Douglas ใน The American President (1995)
ครั้งหนึ่งนักแสดงเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์อย่าง Michael Douglas จาก Wall Street (1987) ก็เคยรับบทเป็นประธานาธิบดีในหนังที่นำเสนอการบริหารชีวิตรักควบคู่ไปกับการบริหารประเทศ และถูกจดจำจากบทบาทนี้มากที่สุดบทนึงเลยทีเดียว เมื่อ Andrew Shepherd ผู้นำที่ทั้งเหงาและเปล่าเปลี่ยวใจจากการเป็นพ่อหม้ายลูกหนึ่ง ได้พบเจอกับ Sydney Ellen Wade (Annette Bening) นักล็อบบี้ยิสต์ด้านสิ่งแวดล้อมตัวแม่ ที่เพิ่งย้ายมายังเมืองวอชิงตัน ดีซี เพื่อผลักดันกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม
Shepherd พร้อมที่จะมีความรักครั้งใหม่อย่างเร่งรัดให้ความรักคืบหน้า (สมกับเป็นประธานาธิบดี) ตรงข้ามกับ Wade ที่อยากให้ความรักดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า เธอคือนักล็อบบี้ยิสต์ที่ถูกว่าจ้างโดย Global Defense Council ในฐานะนักวางกลยุทธ์ด้านการเมือง ซึ่งการเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา กล้าคิดกล้าพูด เป็นใบเบิกทางทำให้งานของเธอประสบความสำเร็จและเข้าไปอยู่ในความสนใจของสภาคองเกรส ขณะที่บางครั้งก็นำไปสู่ปัญหาที่เกินตัว ผิดกับ Shepherd ที่เป็นนักการเมืองและรู้จักวิธีพูดเพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ลงตัวสำหรับทุกฝ่าย
Shepherd ต้องทำให้สภายอมรับร่างกฎหมายที่จะทำให้เขาได้รับเลือกกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย ขณะที่ Wade ก็ก็ต้องทุ่มพลังผลักดันให้สภาอนุมัติผ่านกฎหมายที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ระหว่างที่ทั้งสองต้องประคองต้นกล้าของความสัมพันธ์ ฟันฝ่าความอยากรู้อยากเห็นของสื่อ และวุฒิสมาชิก Rumson (Richard Dreyfuss) ศัตรูทางการเมืองตัวฉกาจของ Shepherd ที่พยายามขัดขวางความรักครั้งนี้ สุดท้ายแล้วก็ต้องมาดูว่า ความรักที่เกิดท่ามกลางควาแตกต่าง (ทางการเมือง) จะอยู่รอดถึงฝั่งครบจบเทอมหรือไม่? หนังเขียนบทโดยสุดยอดฝีมือ Aaron Sorkin จาก The Social Network (2010) ที่เป็นทีมสร้างสรรค์บทซีรีส์การเมืองอเมริกันชั้นดีอย่าง West Wing ด้วยอีกเรื่อง
- รับบทเป็น: President Andrew Shepherd (ไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Annette Bening, Martin Sheen, Michael J. Fox, Richard Dreyfuss
- ผู้กำกับ: Rob Reiner (When Harry Met Sally…, A Few Good Men, The Bucket List)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 62 / 107 ล้านเหรียญฯ
- บทบาทบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 1 สาขา (เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม)
Bill Pullman ใน Independence Day (1996)
หนึ่งในบทประธานาธิบดีที่ถูกจดจำว่าเท่ที่สุดในโลกภาพยนต์ จะต้องมีบทประธานาธิบดี Whitmore ของ Bill Pullman อยู่ด้วยแน่นอน และกับฉากที่น่าประทับใจที่สุดก็คือ การกล่าวปลุกใจทหารในวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคมที่ไม่ใช่ต่อมนุษย์ด้วยกันแต่เป็นเอเลียนที่บุกรุกรานโลก และสหรัฐฯ ก็กลายเป็นฮีโรหัวหอกประชาคมโลกต่อสู้กับเอเลี่ยนกลาย ๆ ด้วย ฉากนี้ยังเป็นฉากที่เป็นฉากจำที่สุดของเรื่องฉากหนึ่ง รวมถึงบทนี้คือบทที่ดังที่สุดแล้วของ Pullman ด้วย
Dean Devlin มือเขียนบทของหนัง ตั้งใจเขียนบทประธานาธิบดีนี้ไว้เพื่อให้ Kevin Spacey เล่นโดยเฉพาะในฐานะที่เคยเป็นเพื่อนสมัยเรียน แต่สตูดิโอไม่อนุมัติให้ Spacey มารับบทนี้เพราะไม่ใช่ดาราหนังดังและไม่มีคอหนังรู้จัก (นั่นคือก่อนที่คอหนังจะได้เห็นฝีมือระดับเฉียบขาดของเขาจาก Se7en (1995) และ The Usual Suspects (1995) ซึ่งค่ายหนังคงเสียใจสุด ๆ) บทนี้จึงเสนอให้กับ Pullman แทน และปฏิกิริยาแรกของเขาเมื่อได้ทราบว่าถูกทาบทามให้เล่น ID4 Pullman เข้าใจว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังตลก
หนังเอเลียนบุกทำลายโลกที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล ทำกำไรไปหลายเท่าของทุนสร้างและยังไม่นับตอนออกมาเป็นโฮมวิดีโอ สร้างออกมาในแนวเดียวกับละครวิทยุยุค 60s เรื่อง War of the Worlds แต่สร้างได้ทันสมัยกว่าด้วยเอฟเฟกต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ นำแสดงโดยดาราดาวรุ่ง Will Smith และ Jeff Goldblum เรื่องราวของมวลมนุษยชาติที่มีอเมริกันเป็นฮีโร ลุกขึ้นมากอบกู้โลกในวันชาติอเมริกา
ภาคต่อ 20 ปีให้หลัง Resurgence (2016) ที่พยายามจะต่อยอดความสำเร็จ และจะสร้างภาค 3 ให้เป็นหนังไตรภาค หนังกลับแป้กและทำรายได้น้อยกว่าภาคแรกไปเยอะ ทำให้ค่ายหนังอย่าง Fox พับโครงการภาค 3 ทิ้งไปเลย และก็ยังอาจเป็นโชคดีของ Smith ที่ไม่ตอบตกลงกลับมาเล่น เพราะนอกจากนักแสดง Bill Pullman และ Jeff Goldblum จะอ่อนล้าโรยแรงแล้วและหนังทั้งเรื่องก็เป็นแบบนั้นไปด้วย อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี Whitmore ก็ได้มาสานต่อภารกิจที่อาจไม่ได้ทำในภาคแรกให้จบลงอย่างสมบูรณ์ในตอนจบของภาคนี้
- ชวนอ่าน “รวมหนัง UFO บุกโลก หลังกลาโหมสหรัฐฯ ปล่อยคลิปให้ชาวโลกเตรียมตัวทักทายมนุษย์ต่างดาว“
- ชวนอ่าน “ย้อนรอยหนังของผู้กำกับ ID4“
- รับบทเป็น: President Thomas J. Whitmore (ไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Will Smith, Jeff Goldblum, Mary McDonnell, Judd Hirsch, Mary McDonnell
- ผู้กำกับ: Roland Emmerich (White House Down, 2012, The Day After Tomorrow)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 75 / 817 ล้านเหรียญฯ
- บทบาทบนเวทีออสการ์:
- ชนะ 1 สาขา (วิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม)
- เข้าชิง 1 สาขา (ผสมเสียงยอดเยี่ยม)
Harrison Ford ใน Air Force One (1997)
Harrison Ford เคยเป็นทั้งอาจารย์นักผจญภัย Indiana Jones, สลัดอวกาศ Han Solo และนักวิเคราะห์ที่เก่งประดุจสายลับในแฟรนไชส์ Jack Ryan เขาย่อมไม่พลาดจะรับบมเป็นประธานาธิบดีในหนังบู๊แอ็กชันยุค 90s ที่เพื่อนพระเอกร่วมยุคเดียวกันจะมีหนังฮิตคนละเรื่องสองเรื่อง ในเรื่องนี้เขารับบทเป็น President James Marshall ประธานาธิบดีที่ประกาศเป็นศัตรูกับผู้ก่อการร้านจนต้องปะทะกับการถูกจี้เครื่องบินโดยตัวร้าย รับบทโดยสุดยอดฝีมืออีกคนอย่าง Gary Oldman เจ้าของออสการ์จาก Darkest Hour (2017)
หนังเล่าเรื่องของประธานาธิบดีสหรัฐฯ James Marshall ที่ประกาศที่รัสเซียว่า สหรัฐฯ จะไม่ต่อรองกับผู้ก่อการร้าย หลังจากที่กองกำลังพิเศษรัสเซียและสหรัฐฯ เข้าจับกุมผู้เผด็จการแห่งคาซัคสถาน หลังจากนั้นเมื่อประธานาธิบดีกลับสู่กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยเครื่องบิน Air Force One อากาศยานหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงชาวรัสเซีย 6 คนอ้างตัวเป็นนักข่าวและได้ทำการแทรกซึมเข้าไปในเครื่องบิน สายลับ Gibbs ไส้ศึกที่เป็นพวกเดียวกับผู้ก่อการร้าย Ivan Korshunov (Gary Oldman) และลูกน้องได้กราดยิงคนในเครื่องบิน และยังจับภรรยาและลูกสาวของประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ไว้เป็นตัวประกัน ส่วนผู้โดยสารที่เหลือถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น
ประธานาธิบดีถูกพาไปยังส่วนยานลี้ภัยใต้ท้องเครื่องบิน แต่ก็ไม่สามรถใช้ยานนั้นหนีออกจากเครื่องบินได้เพราะถูกผู้ก่อการร้ายจับแผนนี้ได้ก่อน ส่วนในกรุงวอชิงตัน ดีซี รองประธานาธิบดี Kathryn Bennett (Glenn Close) ได้มาบัญชาการสถานการณ์ มีการต่อรองจากผู้ก่อการร้ายให้ปล่อยตัวผู้นำคาซัคสถานที่ถูกสหรัฐฯ จับตัวไป แต่เมื่อ Bennett ปฏิเสธจะต่อรองกับผู้ก่อการร้าย พวกเขาจึงฆ่าที่ปรึกษาความมั่นคงของสหรัฐฯ ทิ้ง คนดูต้องมาลุ้นกันว่า ประธานาธิบดี Marshall จะพลิกสถานการณ์ช่วยลูกเมียและยึดเครื่องบินจากผู้ก่อการร้ายกลับคืนได้อย่างไร
เกร็ดของหนังเรื่องนี้มีอยู่ว่า ในปี 1997 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Bill Clinton ได้แอบใช้เวลางานเปิดชมภาพยนตร์เรื่อง Air Force One นี้ในทำเนียบขาวซ้ำถึง 2 รอบ นอกจากนี้ข้อมูลประวัติของ Air Force One นั้น เป็นรหัสเรียกโดยศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) ของเครื่องบินทุกลำที่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยสารอยู่บนเครื่องบินลำนั้น โดยเครื่องบินจะมีการเรียกชื่อนี้ ขณะที่มีประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ อยู่บนเครื่องเท่านั้น ดังนั้นคำว่า Air Force One จึงมิใช่ชื่อของเครื่องบิน Air Force One จอดอยู่ในโรงเก็บเครื่องบินที่ 19 อยู่ห่างประมาณ 16 กิโลเมตรจากทำเนียบขาว โดยเครื่องบินทั้ง 2 ลำสงวนไว้ใช้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เท่านั้น ประธานาธิบดีจะสามารถเลือกขึ้นลำใดลำหนึ่งก็ได้ คนระดับล่างที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่มีทางรู้เกี่ยวกับการขึ้นเครื่อง
- รับบทเป็น: President James Marshall (ไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Gary Oldman, Glenn Close, Wendy Crewson, William H. Macy, Liesel Matthews
- ผู้กำกับ: Wolfgang Petersen (Poseidon, Troy, In the Line of Fire)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 85 / 315 ล้านเหรียญฯ
- บทบาทบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 2 สาขา (ผสมเสียงยอดเยี่ยม และลำดับภาพยอดเยี่ยม)
Morgan Freeman ใน Deep Impact (1999) และ Angel Has Fallen (2019)
นักแสดงที่มีโอกาสได้รับบทเป็นผู้มีอำนาจมาหลายครั้ง พระเจ้าก็เคยเล่น และประธานาธิบดีก็เล่นมาหลายเรื่อง สำหรับนักแสดงรางวัลออสการ์ Morgan Freeman ที่เคยรับบทเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไว้อย่างน่าจดจำในหนังอุกกาบาตถล่มโลก Deep Impact (1999) ซึ่งได้รับคำชื่นชมว่าเล่นได้อย่างสมจริงและน่าเชื่อถือ นอกจากนั้นเขายังเคยรับบทเป็นประธานาธิบดี Neison Mandela ของประเทศแอฟริกาใต้ในหนัง Invictus (2009) ด้วย
Deep Impact เล่าเรื่องราวของ นักดาราศาสตร์วัยรุ่น Leo Biederman (Elijah Wood) และอาจารย์ของเขาค้นพบวัตถุน่าสงสับบางอย่างท่ามกลางดวงดาวยามกลางคืน แม้ข้อมูลจะมีไม่มาก แต่พวกเขามั่นใจว่านั่นคือดาวหางที่กำลังจะพุ่งมาชนโลกในอีกไม่ช้า น่าเศร้าที่ผู้เป็นอาจารย์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะตั้งใจเดินทางไปแจ้งการค้นพบครั้งนี้ให้ทางการทราบ แต่ประธานาธิบดี Beck (Morgan Freeman) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้รับข้อมูลแล้วเรียบร้อย
องค์การนาซาจึงได้เตรียมแผนส่งนักบินอวกาศไปรับมือกับวิกฤติใหญ่ในครั้งนี้ โดยพวกเขาต้องทำลายดาวหางให้แตกสลายก่อนมันเดินทางเข้าใกล้โลก ในขณะเดียวกันประธานาธิบดีก็ได้สั่งสร้างหลุมหลบภัยขนาดใหญ่ไว้เพื่อหลบภัย แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน โดยให้สิทธิ์จับสลากเพื่อสุ่มหาผู้จะมีโอกาสได้รอดชีวิตเพียง 800,000 คนที่ได้เข้าไปยังหลุมหลบภัยร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ และผู้มีวิชาชีพที่เหมาะกับการสร้างโลกใหม่หลังหายนะอีกแค่ 200,000 คน ถือเป็นแผนสำรองหากภารกิจทำลายดาวหางเกิดล้มเหลวขึ้นมา
ชวนอ่าน “หนังอุกกาบาตชนโลก Armageddon VS Deep Impact เรื่องไหนสนุกกว่ากัน?“
- รับบทเป็น: President Beck (ไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Robert Duvall, Téa Leoni, Elijah Wood, Vanessa Redgrave, James Cromwell, Leelee Sobieski
- ผู้กำกับ: Mimi Leder (The Peacemaker, Pay It Forward, On the Basis of Sex)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 75 / 349 ล้านเหรียญฯ
กระทั่งผ่านไป 20 ปี Morgan Freeman ก็ได้หวนกลับมารับบทเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ในหนังไตรภาควินาศกรรมถล่มตำแหน่งประธานาธิบดีอย่าง Angel Has Fallen ที่นำแสดงทั้ง 3 ภาคโดย Gerard Butler สองภาคก่อน Freeman รับบทเป็นประธานสภานิติบัญญัติ ก่อนที่ได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นประธานาธิบดีในภาคนี้ ภาคนี้หนังกลับมาเล่าเรื่องราวบนแผ่นดินสหรัฐฯ เพิ่มวิกฤตการณ์ของเรื่องจากเดิมที่ประธานาธิบดีเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อการร้าย
แต่รอบนี้หนังให้ Mike Banning (Gerard Butler ) เจ้าหน้าที่มือหนึ่งของหน่วย Secret Service ต้องรับภาระหนัก เพราะนอกจากจะต้องปกป้องชีวิตประธานาธิบดีแล้ว เขายังถูกจัดฉากให้เป็นผู้ต้องหาพยายามสังหารประธานาธิบดีเสียเอง และต้องหนีทั้งตำรวจและผู้ก่อการร้าย ขณะเดียวกันก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันว่าเขาคือผู้บริสุทธิ์และกระชากหน้ากากวายร้ายตัวจริง ก่อนที่ประธานาธิบดีจะถูกบุกถล่มเอาชีวิตรอบ 2 หนังดูสนุกและบู๊ดุเดือดเหมือนหนังยุค 90s เป็นภาคปิดไตรภาคที่ออกจากกรอบเดิม ๆ ในภาคก่อนได้ดี (อ่านรีวิวฉบับเต็มเรื่องนี้ของ WTF)
- รับบทเป็น: President Trumbull (ไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Gerard Butler, Danny Huston, Frederick Schmidt, Lance Reddick, Frederick Schmidt
- ผู้กำกับ: Ric Roman Waugh (Greenland, Snitch)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 40 / 146 ล้านเหรียญฯ
Bruce Greenwood ใน Thirteen Days (2000) และ National Treasure: Book of Secrets (2007)
เรื่องราวของ John F. Kennedy ประธานาธิบดีที่ชาวอเมริกันรักมากที่สุดคนนหนึ่ง ถูกถ่ายทอดในหลายวาระ ทั้งการถูกลอบสังหารและวิกฤตการณ์คิวบา อย่างในหนังเรื่องนี้ที่สร้างจากเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์ ถึงเหตุการณ์ที่จวนเจียนจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 มากที่สุดครั้งหนึ่ง นั่นคือเหตุการณ์วิกฤตการณ์คิวบา ในปี 1962 หรือในช่วงสงครามเย็น เมื่อสหภาพโซเวียตนำขีปนาวุธที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์พร้อมยิงใส่สหรัฐฯ มาติดตั้งไว้ในประเทศคิวบาซึ่งอยู่ติดกับชายแดนสหรัฐฯ อย่างที่ไม่เคยมีประเทศไหนกล้าทำมาก่อน
ในเดือนตุลาคม ปี 1962 เครื่องบินขับไล่ U2 ของสหรัฐฯ บินเข้าไปในน่านฟ้าของคิวบา และถ่ายภาพขีปนาวุธของโซเวียตในคิวบาได้ ฝ่ายทหารและฝ่ายการเมืองของอเมริกาต้องร่วมกันหารืออย่างหนักว่าจะวางแผนจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ทั้งใช้วิธีเจรจาทางลับกับรัสเซีย เจรจาผ่านองค์การสหประชาชาติ หรือจะใช้กำลังทหารบุกเข้าโจมตีฐานยิงขีปนาวุธ ผลที่ได้คือใช้ “มาตราการกักกัน” เรือจากรัสเซียที่จะมุ่งหน้าไปคิวบา โดยใช้กองทัพเรือของอเมริกาบุกขึ้นค้นเรือที่จะเข้าคิวบาทุกลำว่ามีขีปนาวุธหรือไม่ และให้โอกาสรัสเซียขนขีปนาวุธในคิวบากลับเอง โดยแลกกับสหรัฐฯ ถอนขีปนาวุธในตุรกี
ในหนังแสดงเหตุการณ์แต่เริ่มต้นจนยุติลง ในเฉพาะส่วนของอเมริกาโดยเน้นที่การหารือวางแผนของฝ่ายทหารผ่ายการฑูตและฝ่ายการเมือง (Kevin Costner รับบท Kenny O’Donnell ที่ปรึกษาประธานาธิบดี JFK) การปฏิบัติทางเรือและทางอากาศ การเจรจาในองค์การสหประชาชาติ ซึ่งจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้เริ่มนำไปสู่ความไม่พอใจของฝ่ายทหารต่อตัวประธานาธิบดี Kennedy ว่าอ่อนข้อให้โซเวียตมากเกินไป และอาจนำไปสู่การลอบสังหารประธานาธิบดีที่สะเทือนขวัญที่สุดในอเมริกา Bruce Greenwood มารับบทเป็น John F. Kennedy (ใครที่ชอบเรื่องราวของ JFK โดยเฉพาะเหตุการณ์ลอบสังหารช่วงปี 1965 แนะนำให้ชมหนัง JFK (1991), Parkland (2013) และ Jackie (2016))
- รับบทเป็น: President John F. Kennedy (มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Kevin Costner, Ed Lauter, David O’Donnell, Dylan Baker
- ผู้กำกับ: Roger Donaldson (Cocktail, Species, No Way Out)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 80 / 66 ล้านเหรียญฯ
Bruce Greenwood กลับมารับบทเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในหนังผจญภัยตามล่าสมบัติสมัยใหม่อย่าง National Treasure: Book of Secret (2007) ที่กลายเป็นหนังฮิต เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อบรรพบุรุษของ Ben Gates (Nicolas Cage) ถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ Abraham Lincoln เมื่อบันทึกลับหน้าที่หายไปจากสมุดบันทึกของมือสังหาร John Wilkes Booth ได้ปรากฎขึ้น และทำให้บรรพบุรุษของ Gates กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
Gates และเพื่อน ๆ จึงต้องออกผจญภัยไขความจริงรวมถึงรหัสลับที่จะพาพวกเขาไปพบกับการสมรู้ร่วมคิดการลอบสังหารระดับโลก เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของบรรพบุรุษ เขาต้องเชื่อมโยงเงื่อนงำจากมหานครปารีส สู่ลอนดอน และกลับมาที่สหรัฐฯ หักเหลี่ยมเฉือนคมกับวายร้าย Mitch Wilkinson (Ed Harris) โดยครั้งนี้ยังมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ (รับบทโดย Greenwood) เข้ามาเกี่ยวข้องให้ Gates ต้องจับเป็นตัวประกันจำเป็นอีกด้วย หนังทิ้งปริศนาเกี่ยวกับบันทึกหน้า 47 ของสมุดบันทึกประธานาธิบดีเอาไว้ (ให้สร้างเป็นภาค 3 ที่ยังไม่สร้างเสียที) ที่พอเดาได้ว่าเกี่ยวกับปริศนาการลอบสังหาร JFK
- รับบทเป็น: President (ไม่บอกชื่อและไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Nicolas Cage, Diane Kruger, Jon Voight, Helen Mirren, Ed Harris, Harvey Keitel
- ผู้กำกับ: Jon Turteltaub (National Treasure, The Meg, While You Were Sleeping)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 130 / 459 ล้านเหรียญฯ
Dennis Haysbert ในซีรีส์ 24 (2001-2005)
ซีรีส์ 24 หรือในชื่อไทย ว่า 24 ชั่วโมงอันตราย ผลิตโดย Fox Network และแพร่ภาพออกอากาศในสหรัฐอเมริกาและจำหน่ายลิขสิทธิ์ในการแพร่ภาพให้กับบริษัทในต่างประเทศทั่วโลก เล่าเรื่องราวการทำงานของหน่วยต่อต้านผู้ก่อการร้าย (Counter Terrorist Unit, CTU) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ถูกแต่งขึ้นมาไม่มีอยู่จริง ซีรีส์เล่าเรื่องของปฏิบัติการยับยั้งเหตุก่อการร้ายในแต่ละซีซันโดยเล่าตามเวลาจริง 24 ชั่วโมง ตัวละครหลักคือ Jack Bauer ( Kiefer Sutherland) ผู้ที่ทำงานให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ในขณะที่ประเทศกำลังประสบกับสถานการณ์วิกฤตหรือภัยที่กระทบความมั่นคงของชาติระดับเสี่ยงเกิดสงครามระหว่างประเทศในทุกตอน
Bauer มักจะทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ภาคสนามให้กับ CTU สาขาลอสแอนเจลิส และปฏิบัติภารกิจในการปกป้องประเทศจากภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้าย โดยเขามักจะใช้วิธีการแก้ปัญหาอย่างมุทะลุดุดันและไม่เป็นไปตามขั้นตอนของหน่วยงานและรัฐบาล แต่นั่นก็ทำให้เขาสามารถหยุดยั้งหลายปัญหาร้ายแรงที่ไม่อาจรอได้ภายใน 24 ชั่วโมง ซีรีส์มักจะหยิบประเด็นเรื่องอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง โดยเฉพาะอาวุธนิวเคลียร์มาเป็นภัยคุกคามสำคัญๆ นอกจากนั้นก็มีอาวุธชีวภาพ (ไวรัส) และแก๊สทำลายประสาท
ทฤษฎีสมคบคิดและหนอนบ่อนไส้คนทรยศในรัฐบาล ก็ถูกหยิบมาเล่าเสมอ ๆ ที่ Jack Bauer ต้องกระชากหน้ากากหรือเอาชนะให้ได้ นอกจากนี้ก็มีการอ้างถึงบทบัญญัติที่ 25 เมื่อรองประธานาธิบดีและเสียงส่วนมากของคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีออกเสียงว่า ประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ประธานาธิบดีจะถูกถอดจากตำแหน่ง บทบาทประธานาธิบดีที่น่าจดจำในซีซันแรกถึงซีซัน 5 เป็นของ Dennis Haysbert ที่มารับบทประธานาธิบดีผิวดำ (นั่นคือก่อนที่สหรัฐฯ จะมีประธานาธิบดีชื่อ Obama และไมมีใครคิดว่า ประธานาธิบดีผิวดำจะเกิดขึ้นจริง จึงต้องถือว่าซีรีส์มาก่อนกาลทีเดียว) เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากบทนี้ด้วย
- รับบทเป็น: President David Palmer
- นักแสดงคนอื่น: Kiefer Sutherland, Mary Lynn Rajskub, Carlos Bernard, Elisha Cuthbert, Glenn Morshower
- ผู้สร้าง: Robert Cochran & Joel Surnow (La Femme Nikita)
- บทบาทบนเวทีลูกโลกทองคำ
- ชนะ 2 สาขา (ซีรีโทรทัศน์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า (2002), นักแสดงนำชาย ซีรีโทรทัศน์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า (Kiefer Sutherland) ปี (2002))
- เข้าชิง 2 สาขาร (ซีรีส์โทรทัศน์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่าทั้งหมด 5 ซีซัน,นักแสดงนำชาย ซีรีโทรทัศน์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า (Kiefer Sutherland) 4 ซีซัน, นักแสดงนำชาย ซีรีโทรทัศน์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า (Dennis Haysbert) (2003))
Daniel Day-Lewis ใน Lincoln (2012)
หนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดของนักแสดงสุดยอดฝีมือ Daniel Day-Lewis ที่ระดับมีออสการ์การันตีถึง 3 ตัวและหนึ่งในนั้นก็จากการรับบทในเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่การแต่งหน้าทำผมที่เหมือนกับ Abraham Lincoln ตัวจริงเท่านั้น แต่วิธีการเล่นเป็น Method ที่จะคงอยู่ในบทบาทตั้งแต่เริ่มต้นถ่ายทำจนจบ (แม้พักระหว่างวันเขาก็จะยังเป็น Lincoln ต่อไป) ทำให้บทบาทนี้สมจริงและไร้ข้อกังขาอย่างน่าขนลุก
Lincoln เป็นหนังอัตชีวประวัติ ที่ทำให้คนดูได้ย้อนเวลากับไปรู้จักกับแนวคิดและผลงานของประธานาธิบดีคนที่ 16 ช่วงปี 1861-1865 ที่ตอนนั้น Lincoln มุ่งจะยุติสงครามสงครามกลางเมือง เขาพยายามต่อสู้อย่างที่สุดที่จะผ่านบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 13 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ เพื่อล้มเลิกระบบทาส ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างผู้มีอำนาจกับผู้เสียอำนาจ ระหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ หนังจับเอาเรื่องราวช่วงเวลาไม่กี่เดือนสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนถูกลอบสังหารในตอนจบเรื่อง (หนังไม่ได้ถ่ายทอดฉากนั้นแต่เป็นที่รู้กันของคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์สหรัฐฯ)
หนังเริ่มจากหลังการได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของลินคอล์น Lincoln ตัดสินใจนำการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาเพื่อทำการลงมติและจะได้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้จะต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ซึ่งทางพรรครีพับลิกันของ Lincoln มีเสียงไม่ถึง จึงต้องมีการล็อบบี้ขอเสียงเพิ่มขึ้นจากพรรคเดโมแครต แม้แต่เสียงในพรรคเขาเองก็ต้องมีการต่อรองแลกผลประโยชน์กับลูกพรรคเพื่อให้มั่นใจว่าจะลงมติให้แน่นอน เมื่อถึงวันลงมติรัฐธรรมนูญมาตรานี้ก็ได้ผ่านความเห็นชอบและถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ มีการบังคับใช้มาจนมาถึงปัจจุบัน
เกร็ดเล็กน้อยสำหรับประธานาธิบดีที่มีผู้คนอเมริกันรักมากที่สุดอีกคนหนึ่ง เขาถูกยิงเสียชีวิตในวันที่ 15 เมษายน 1865 เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกลอบสังหารในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา และทำให้เขากลายเป็นผู้เสียสละเพื่อความสามัคคีของคนในชาติตามความคิดของคนรุ่นหลัง Lincoln เป็น 1 ใน 4 ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่รูปใบหน้าได้รับการสลักไว้ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติเมานต์รัชมอร์ (Mount Rushmore) และใบหน้าของเขาปรากฏอยู่บนธนบัตรราคา 5 เหรียญฯ และเหรียญราคา 1 เซนต์ รวมถึงถ้าใครเคยไปวอชิงตัน ดีซี หรือเห็นจากหนังเรื่องต่าง ๆ ก็จะเห็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ของเขาที่นั่นด้วย
- รับบทเป็น: President Abraham Lincoln (มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Tommy Lee Jones, Sally Field, David Strathairn, Joseph Gordon-Levitt, James Spader, John Hawkes, Hal Holbrook
- ผู้กำกับ: Steven Spielberg (Amistad, Bridge of Spies, Schindler’s list)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก:
- บทบาทบนเวทีออสการ์:
- ชนะ 2 สาขา (นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Daniel Day-Lewis), องค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม)
- เข้าชิง 10 สาขา (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Tommy Lee Jones), นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Sally Field), ผู้กำกับยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม, ถ่ายถาพยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม, ออกเบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม, เพลงประกอบยอดเยี่ยม, ผสมเสียงยอดเยี่ยม)
Aaron Eckhart ใน Olympus Has Fallen (2013) และ London Has Fallen (2016)
ในช่วงเทศกาลซัมเมอร์ของสหรัฐฯ ปี 2013 มีหนังเกี่ยวกับการบุกถล่มทำเนียบขาวโดยผู้ก่อการร้ายเหมือนกันเข้าฉายสองเรื่อง (สถานการณ์คล้าย ๆ กับปี 1999 ที่ Armageddon และ Deep Impact เข้าฉายตามหลังกันแค่ 2 เดือน) เรื่องแรกคือ Olympus Has Fallen ของผู้กำกับหนังบู๊สายดิบที่เข้าฉายก่อน แม้ทุนสร้างจะน้อยกว่า แต่ก็ทำกำไรไปได้จนประสบความสำเร็จและได้มีภาคต่อตามออกมาอีก 2 ภาค ส่วนอีกเรื่องก็คือ White House Down (ซึ่งจะขอเล่าให้ฟังในเรื่องถัดไป)
หนังยังเป็นหนังฮิตสุดในเครดิตของ Gerard Butler ด้วย รวมถึงเปิดโอกาสให้ Aaron Eckhart ได้สวมบทเป็นประธานาธิบดีสุดแกร่ง (จากการถูกซ้อมโดยผู้ก่อการร้าย) ถึงสองภาค ภาคแรกเล่าเรื่องราวของ Mike Banning เจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบราชการลับแห่งสหรัฐฯ ผู้ที่ไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานสักเท่าไหร่นัก Mike ถูกกันออกจากการปฏิบัติภารกิจสำคัญหลายครั้ง จนกระทั่งทำเนียบขาวถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้ายด้วยอาวุธครบมือที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
เป้าหมายหลักของการโจมตีในครั้งนี้เพื่อต้องการลักพาตัวประธานาธิบดี Benjamin Asher พร้อมทำลายสัญลักษณ์ของชาติอเมริกาอย่างทำเนียบขาว รวมถึงบุกยึดเพนตากอน กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ด้วย หน่วยงานทางการทหารไม่สามารถบุกฝ่าวงล้อมของผู้ก่อการร้ายได้เข้าทำเนียบขาวได้ ทำให้ Mike คือความหวังเดียวที่จะช่วยเหลือประธานาธิบดีให้ปลอดภัย เขาเคยศึกษาและรู้จักเส้นทางทั้งเปิดเผยและลับในทำเนียบขาวอย่างทะลุปรุโปร่ง ภารกิจครั้งนี้มีชีวิตประธานาธิบดีและประเทศสหรัฐฯ เป็นเดิมพัน
ส่วนภาค 2 เรื่องราวไปเกิดขึ้นนอกสหรัฐฯ เมื่อเหล่าผู้นำแห่งโลกตะวันตกต้องเข้าร่วมพิธีศพของนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา งานที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นนี้ กลับกลายเป็นเป้าที่ผู้ก่อการร้ายหวังใช้สังหารบุคคลและทำลายสถานที่สำคัญให้ย่อยยับ บุคคลเพียง 3 คนเท่านั้นที่จะหยุดยั้งวิกฤตครั้งนี้ได้ คือ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Benjamin Asher ผู้นำประเทศเพียงชาติเดียวที่เอาชีวิตรอดจากการถูกลอบสังหารมาได้, เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐ Mike Banning และเจ้าหน้าที่ MI6 ของอังกฤษที่ไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ เมื่อมีหลักฐานว่าหน่วยความมั่นคงของอังกฤษมีหนอนบ่อนไส้แทรกซึมอยู่
- รับบทเป็น: President Benjamin Asher
- นักแสดงคนอื่น: Gerard Butler, Melissa Leo, Angela Bassett, Radha Mitchell, Jackie Earle Haley, Rick Yune
- ผู้กำกับ:
- ภาค 1 Antoine Fuqua (Shooter, The Equalizer 1-2, Training Day)
- ภาค 2 Babak Najafi (Proud Mary)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก:
- ภาค 1 70 / 170 ล้านเหรียญฯ
- ภาค 2 60 / 205 ล้านเหรียญฯ
Jamie Foxx ใน White House Down (2013)
หนังอีกเรื่องที่แทบจะถอดเนื้อเรื่องมาแบบเดียวกันเป๊ะกับ Olympus Has Fallen ก็คือ White House Down ของผู้กำกับจอมทำลายโลก Roland Emmerich ซึ่งเรื่องนี้ได้พระเอกหนุ่มที่ฮอตกว่าอย่าง Channing Tatum รวมถึงได้นักแสดงออสการ์ Jamie Foxx มารับบทประธานาธิบดีผิวดำ ตรงกับยุคสมัยจริงที่ Barack Obama ดำรงตำแหน่งอยู่ ถึงแม้ว่าหนังจะประสบความสำเร็จน้อยกว่า แต่ความสนุกจากการบู๊อย่างเมามันและทำเนียบขาว รวมถึงรัฐสภาที่โดนระเบิดเสียเละนั้นก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
Tatum มารับบทเป็น Cale ผู้ที่ถูกปฏิเสธให้เข้าทำงานเป็นหน่วยราชการลับ Secret Service ซึ่งมีทำหน้าที่อารักขาประธานาธิบดี Sawyer แต่แล้วเพราะลูกสาวขอมาเยี่ยมชมทำเนียบขาวระหว่างที่ผู้ก่อการร้ายบุกพอดิบพอดี ทำให้ Cale บทของ Tatum ต้องทำภารกิจอารักขาประธานิบดีแบบตกกระไดพลอยโจน ซึ่งก็ได้โชว์ฝีมือเทพ ๆ เหนือคนที่ทำหน้าที่จริง ๆ ที่ฆ่าเรียบทั้งทำเนียบขาว หนังมีความโปรอเมริกันฮีโรแบบสุด ๆ และก็ทำให้เห็นว่าประธานาธิบดีโลกเสรีนั้นมีคุณธรรมสูงส่ง ขณะเดียวกันหนังก็ทำให้ได้เห็นลำดับขั้นและกระบวนการขึ้นตำแหน่งของรองประธานาธิบดีและประธานสภาฯ ในยามที่ประธานาธิบดีปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้หรือเสียชีวิตไปแล้วด้วย
ชวนอ่าน “ย้อนรอยหนังของผู้กำกับ ID4“
- รับบทเป็น: President Sawyer (ไม่มีตัวตนจริง)
- นักแสดงคนอื่น: Channing Tatum, Maggie Gyllenhaal, Jason Clarke, Richard Jenkins, Joey King
- ผู้กำกับ: Roland Emmerich (Independence Day, 2012, The Day After Tomorrow)
- ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 150 / 205 ล้านเหรียญฯ
Kiefer Sutherland ในซีรีส์ Designated Survivor (2016-2019)
Kiefer Sutherland กลับมารับบทในซีรีส์การเมืองท่ามกลางทฤษฎีสมคบคิดลอบสังหารประธานาธิบดีอีกครั้งหลังจากซีรีส์ 24 แต่มาคราวนี้เขาได้มารับบทเป็นประธานาธิบดีเสียเอง ซีรีส์ Designated Survivor เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ถูกกำหนดให้รอดชีวิต หลังเหตุวินาศกรรมรัฐสภาสหรัฐฯ Series จากช่อง ABC ที่ถูกสร้างใน Season 1-2 ก่อนถูกประกาศยกเลิกและ Netflix นำมาสร้างต่อใน Season 3 (ซีรีส์ยังได้รับการดัดแปลงเป็นเวอร์ชันเกาหลีใต้สตรีมทาง Netflix ชื่อ Designated Survivor 60 Days ด้วยเช่นกัน)
เรื่องราวหลัก ๆ จะเล่าถึงทฤษฎีสมคบคิดทางการเมือง (Conspiracy Theory) ของสหรัฐฯ ที่หนังและ Series หลายต่อหลายเรื่องหยิบมาทำ ไม่ว่าจะเป็นการลอบสังหารประธานาธิบดี การวางระเบิดก่อวินาศกรรม การหักหลังจากพวกเดียวกันเอง สอดแทรกการหักเหลี่ยมชิงไหวชิงพริบกันระหว่างนักการเมืองที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์ พร้อมจะทำลายกันตลอดเวลา ซึ่งหนังมักจะนำเสนอให้เห็นว่า มิตรแท้และศัตรูถาวรไม่มีอยู่ในเวทีการเมืองแห่งนี้
Designated Survivor เปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์วางระเบิดรัฐสภาของสหรัฐฯ ในวันที่มีการแถลงนโยบายต่อสภาของประธานาธิบดี Tom Kirkman รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะและผังเมือง รัฐมนตรีลำดับที่ 11 ซึ่งถือเป็นรัฐมนตรีที่สำคัญหรือเก่งน้อยสุดในคณะรัฐบาล ถูกนำไปไว้ในอาคารอีกแห่งในฐานะที่เป็นผู้ถูกกำหนดให้รอดชีวิต (Designated Survivor) ของคณะรัฐมนตรี ที่ถ้าหากเกิดเหตุร้ายขึ้นและส่งผลให้ประธานาธิบดีและคณะรัฐบาลเสียชีวิตทั้งหมด เขาจะต้องขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดี
เหตุการณ์ระเบิดในวันนั้นทำให้ทั้งคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาเสียชีวิต เว้นก็แต่ Tom และ Kimble Hookstraten (รับบทได้อย่างมีอำนาจและน่าเชื่อถือโดย Virginia Madsen ผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์จาก Sideways (2004) สมาชิกสภาคองเกรสหญิงที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้รอดชีวิตอีกคนจากฝั่งสภานิติบัญญัติเช่นกัน รวมถึง Peter MacLeish ( Ashley Zukerman) สมาชิกสภาครองเกรสหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่รอดชีวิตจากซากอาคารรัฐสภาอย่างมีเงื่อนงำชวนสงสัย Tom Kirkman ต้องฝ่ามรสุมวิกฤติศรัทธา เนื่องจากก่อนหน้าเกิดเหตุไม่ถึง 1 วัน เลขานุการของประธานาธิบดีเพิ่งได้รับคำสั่งโดยตรงให้บีบเขาออกจากตำแหน่งไปทำหน้าที่ทูตในประเทศที่ไร้ความสำคัญประเทศหนึ่ง แต่พอมาวันนี้เขากลับต้องทำหน้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แทน
- รับบทเป็น: President Tom Kirkman
- นักแสดงคนอื่น: Maggie Q, Natascha McElhone, Virginia Madsen, Adan Canto, Italia Ricci, Kal Penn
- ผู้สร้าง: David Guggenheim (Writer-Safe House, The Christmas Chronicles)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส