สำหรับใครที่อยู่ในประเทศซึ่งมีการเปิดให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิง Disney+ วันนี้ (15 มกราคม) ก็จะเป็นวันที่ได้ชม 2 ตอนแรก (ตอนละ 30 นาที) จากจำนวนทั้งหมด 9 ตอนของซีรีส์เรื่องแรกในจักรวาลมาร์เวลอย่าง WandaVision ซึ่งได้รับคำชื่นชมในหมู่นักวิจารณ์ที่ได้ชม 3 ตอนแรกของซีรีส์ไปแล้วในรอบสื่อ ระหว่างนี้ที่ Paul Bettany และ Elizabeth Olsen เดินสายให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายเจ้า ก็มีข้อมูลเพิ่มเติมของหนังออกมาให้แฟน ๆ ได้รู้กัน
![](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2021/01/WandaVisionPremiere.jpg)
อย่างแรก Paul ตอบคำถามที่เขาต้องเจอจากแฟน ๆ มาตลอดตั้งแต่ประกาศสร้างซีรีส์เรื่องนี้ว่า ตัวละคร Vision ที่ถูกถอดอัญมณีจิตใจ (Mind Stone) ไปเป็นหนึ่งในถุงมือของ Thanos กับ Avengers: Infinity War (2018) ซึ่งเท่ากับตัวละครของเขาตายไปแล้วนั้น จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งในซีรีส์ได้ยังไง? โดยเขาบอกว่า แฟนหนังไม่ต้องพยายามหาคำตอบนี้ เพราะสุดท้ายซีรีส์ WandaVision จะให้คำตอบอย่างแน่นอน
เชื่อในมาร์เวลสิ ทุกคนเลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว ผมขอแค่ให้คุณรักมัน (หมายถึงซีรีส์) และรัดเข็มขัดให้แน่น ซีรีส์จะพาคุณไปเอง ทุกๆ อย่างจะได้รับการอธิบาย”
![](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2020/11/WandaVision_5.jpg)
Paul ยังได้เล่าให้ The Hollywood Reporter ฟังด้วยว่า เขานึกว่าตัวเองถูกไล่ออกจาก MCU โดยปริยายไปแล้ว หลังจาก Vision ตายและน่าจะจบบทบาทลงตรงนั้น จนกระทั่งได้รู้ว่า Kevin Feige หัวเรือใหญ่ของ Marvel Studios กำลังปลุกปั้นซีรีส์เรื่องนี้อยู่
ผมเพิ่งตายไปใน Infinity War สัญญาผมก็หมด และผมก็ได้รับสายจาก Kevin Feige ที่บอกว่า “มาหาผมที่ออฟฟิศหน่อยได้ไหม” ซึ่งถ้าเจ้านายโทรมาหาคุณแบบนั้นในตอนที่สัญญาคุณหมดแล้ว คุณก็คงคิดว่านั่นคือการบอกลา ผมมองไปที่ Jennifer (Connelly ภรรยาของ Bettany นักแสดงชื่อดัง) แล้วพูดไปว่า ผมคงได้ออกจากการเล่นหนังมาร์เวลจริง ๆ แล้ว…
![](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2021/01/GettyImages-1202159880-copy-1610571742-compressed.jpg)
แล้วผมก็เข้าไป ผมไปหา Kevin และบอกว่า ผมเข้าใจดีและไม่ได้โกรธอะไร แต่ Kevin ก็พูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวนะ นี่คุณจะลาไปไหน?” ผมเลยตอบว่า “อ้าว คุณไม่ได้จะไล่ผมออกแล้วเหรอ?” เขาเลยเล่าเรื่องของซีรีส์ให้ผมฟัง ซึ่งแน่นอนว่า ผมต้องเอาด้วยอยู่แล้ว (หัวเราะ)”
นอกจากนี้ Paul บอกแบบติดตลกว่าเขาชอบให้เสียงเป็นตัวละคร Jarvis ใน Iron Man 1-3 (2008-2013) มาก ด้วยความทำงานง่ายกว่าและพากย์เสียงสร็จก็ได้เงิน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่ง่ายกว่าการรับบทเป็น Vision
ผมไปทำงานแค่วันเดียวก็ช่วยงานของทุกคนเสร็จได้หมด ผมแค่ไปพูดว่า “วายร้ายใกล้เข้ามาแล้วครับ!” ผมก็ได้กลับบ้านพร้อมค่าจ้างแล้ว”
และก็บอกว่า จริง ๆ แล้วเขาก็แอบเสียใจที่ไม่ได้อยู่ในฉากรวมพลังประจัญบานของ Avengers: Endgame (2019) ซึ่งเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ MCU นับจนถึงตอนนี้
ผมเสียใจแต่ว่ามันก็แค่ตอนนั้น ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไม เพราะเราใช้เวลาไปปีหนึ่งในการถ่ายซีรีส์เรื่องนี้ เพื่อจะได้อธิบายเหตุผลที่ผมไม่อยู่ Kevin อธิบายให้ผมฟังและผมก็คิดว่า “มันยากที่จะโต้แย้งเหตุผลของเขา” ว่าทำไม Vision จึงไม่อยู่ Kevin เป็นคนฉลาดและผมก็เชื่อใจเขา”
ทางด้าน Feige ที่ช่วงนี้ออกมาให้ข่าวหลายเรื่องเกี่ยวกับจักรวาลหนังมาร์เวล ก็เล่าให้สื่อฟังด้วยว่า ซีรีส์ WandaVision จะมีการฉายโฆษณาอยู่ประปรายตลอดเรื่อง แต่จะไม่ใช่การฉายเพื่อโพรโมตขายสินค้า แต่เป็นโฆษณาที่สร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมโยงถึงตัวละครหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ จากหนัง MCU ที่ผ่านมา และบางอย่างอาจเชื่อมโยงถึง Wanda และ Vision ด้วย ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่า Easter Eggs บางอย่างอาจซ่อนอยู่ในโฆษณาเหล่านี้ที่แฟน ๆ ต้องจับตาดูให้ดี ๆ
โฆษณาเหล่านี้เป็นความคิดแรก ๆ ของซีรีส์ แม้ว่ามันจะดูเหมือนเป็นแค่โฆษณาจากยุค 50s หรือ 60s ในเวอร์ชันที่ประหลาดหน่อย แต่ถ้าคุณเคยดูหนัง MCU มาแล้วทุกเรื่อง คุณก็จะเริ่มเชื่อมโยงความหมายของสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ปรากฏขึ้นมานี้ได้” Feige กล่าว
![](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2021/01/ErozTAXVgAAYgjR.jpg)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส