[รีวิว] สตอร์มอาย โค้ดลับดับทรชน : ครบรส เข้มข้น สมจริงของการสืบสวน

Our score

8.2

[รีวิว] สตอร์มอาย โค้ดลับดับทรชน : ครบรส เข้มข้น สมจริงของการสืบสวน

จุดเด่น

การพบกันอีกครั้งของ หยางมี่และจางปินปิน คุ้มค่าสมการรอคอย
บทดี สมจริงกับการสืบสวนไขคดี แฝงตัวล้วงความลับ มีปมซับซ้อนที่ทั้งตัวเอกและวายร้ายฉลาดทันกัน
มีความครบรสในบริบทของชีวิตที่จับต้องได้ ตัวละครทุกตัวมีมิติ

จุดสังเกต

การดำเนินเรื่องเรียบง่าย อาจไม่ถูกใจสายบู๊ เพราะไม่ใช่ซีรีส์บู๊จ้ะ แต่เป็นซีรีส์สืบสวนที่ตั้งใจสืบกันจริง ๆ มันสนุกตรงนี้แหละ ต้องตั้งใจดูและฟังบทสนทนาของตัวละคร
สายบู๊ดุเดือดหนีไป สายบู๊หอมปากหอมคอ ไขคดีอาชญากรรมสมองแหลมเชิญทางนี้

ความสมบูรณ์ของบท

8.0
คุณภาพงานสร้าง

8.0
คุณภาพนักแสดง

10.0
คุณภาพการเล่าเรื่อง

7.0
ความคุ้มค่าในการรับชม

8.0

‘หม่าซ่าง’ (จาง ปินปิน) เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติได้รับภารกิจพิเศษในการตามล่าสายลับจากนอกพรมแดนไปจนถึงเมือง ‘ซวงชิง’ ขณะปฏิบัติงานเฝ้าระวัง หม่าซ่างพบว่าสายลับเป็นเพียงตัวจิ๊ดตัวจ้อยในแผนการโจรกรรมครั้งยิ่งใหญ่ คือการขโมยงานวิจัยลับสุดยอดของกลุ่ม ‘หัวติง’ หม่าซ่างจึงถูกส่งไปร่วมมือกับสำนักงานเมืองในการเริ่มการสอบสวน ภายใต้ชื่อรหัส ‘Storm Eye’ และได้พบว่าหัวหน้าทีมในพื้นที่ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น ‘อันจิง’ (หยางมี่) เพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลาย อดีตรักวัยเรียนของเขาที่หายหน้าไปเมื่อสิบปีก่อนโดยไม่บอกลา

ซีรีส์สืบสวนสอบสวน แท้จริง (ไม่) อิงนิยาย

สำหรับใครที่คาดหวังว่าจะได้พบกับฉากที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเผชิญกับเหล่าร้ายด้วยเสียงปืนดังสนั่น ฉากบู๊เมามัน เทคนิคโรยสลิงแพรวพราว พระเอกนางเอกกระดูกเหล็ก เจ็บไม่เป็น ไม่จ้ะเราจะไม่เจอกันแบบนั้น เพราะชีวิตจริงของการสืบสวนอาชญากรรมระดับชาติไม่มีการบู๊สนั่นขนาดนั้นหรอก บู๊เบา ๆ สมเหตุสมผลมีอยู่แล้ว (แต่ตอนนี้ยังไม่มา) และเรื่องนี้ก็ถ่ายทอดความสมจริงออกมาให้เราชมได้อย่าง กลมกลืน

เพราะ Storm Eye เป็นเรื่องเกี่ยวกับทีมเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะ ดำเนินงานภายใต้ขอบเขตของกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ (MSS) เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลระดับจังหวัดและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของเมืองซวงชิง ซึ่งได้รับมอบหมายให้สืบสวนกิจกรรมทางอาญาที่เป็นภัยต่อทรัพยากรของชาติ แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกับการลักลอบส่งทรัพยากรที่เกินกฎหมายกำหนด และหนักไปกว่านั้นก็คือ การขโมยงานวิจัยทางเทคโนโลยีที่ดำเนินการโดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในเมืองซวงชิง

การสืบสวนจะเน้นไปที่อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ที่มีองค์กรอาชญากรรมลับเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อจ้องจะงาบผลงานวิจัยทางเทคโนโลยีจาก ‘ติ่งหวากรุ๊ป’ และแน่นอนค่ะ เรื่องราวสุดซับซ้อนระดับชาติขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ต้องมีไหวพริบ สมองแหลม ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพระเอก-นางเอกของเรื่องนั่นเอง

ดำเนินเรื่องเรียบง่าย แต่ครบรส ชาญฉลาด

ปรบมือให้กับคนเขียนบทเรื่องนี้ที่ทำให้ตัวเอกของเรื่อง ไม่ได้เก่งเกินมนุษย์ ความเก่งที่พระเอก-นางเอกและ ตัวละครอื่น ๆ อย่าง ‘เหอจื่อซวน’ (ยี่ต้าเฉียน) เพื่อนพระเอกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีจาก สตรีหาญฉางเกอ ในบท ‘มูจิน’ เป็นความเก่งที่สามารถมีได้ในมนุษย์ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี หรือแม้แต่ ความเป็นไปได้ที่ ‘เหมียวเฟิง’ (เดซี่ ได) จะคิดและทำอะไรลงไปสักอย่าง กับเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญ หากคุณเป็นเธอ คุณจะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร ทำแบบที่เธอทำลงไปหรือเปล่า ความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่บทใส่เข้ามา ไม่ได้เกินเลยจากสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ที่หากเป็นเราคงจะบ้าตายรายวันอย่างแน่นอน

เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างเรียบง่ายก็จริง แต่สามารถทำให้เราตามลุ้นด้วยความอยากรู้ กับสิ่งที่พระ-นางกำลังสะสาง ไขคดี ด้วยการรวบรวมข่าวกรอง มีขั้นตอนการเฝ้าระวัง มีการแฝงตัวอย่างแนบเนียนเพื่อเข้าไปเสาะสืบ และเปิดเผยให้เห็นการทำงานด้วย Sky-Eye โดย MSS เรียกว่าเป็นซีรีส์ที่แทบจะเปิดเผยการทำงานที่เสมือนจริงของเจ้าหน้าที่ ที่ใกล้เคียงความจริงที่สุดก็ว่าได้

แต่…ในความเป็นละครมันก็ต้องมีปรุงแต่งเพื่ออรรถรสอยู่แล้วละจ้ะ เพราะต่อให้พระ-นาง จะฉลาดหัวแหลมสักเท่าไหร่ ไอ้ตัวร้ายที่ตามหาอยู่นั่น ย่อมมีอะไรเหนือความคาดหมายอยู่เสมอ ปลอมตัวหลอกคนนั้นคนนี้ หลอกเก่งยิ่งกว่าผีในหลุมซะอีกจ้ะ บอกเลยว่าในความเรียบง่ายของเรื่องนี้ มีเงื่อนปมที่ซับซ้อนซ่อนอยู่จนน่าติดตาม นั่งดูอยู่ดี ๆ สามารถโดนหลอกกันดื้อ ๆ แบบไม่ทันตั้งตัว

ตัวละครสมจริงและการพบกันอีกครั้งของ ป่าท้อสิบหลี่

หากใครยังจำ ‘Eternal Love’ หรือ สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ได้ ต้องคุ้นหน้ากันดีกับพระ-นางของเรื่องนี้แน่นอน การกลับมาร่วมงานกันของนักแสดงจาก ป่าท้อฯ ในครั้งนี้คือการที่ หลี่จิง องค์ชายของเผ่าผีจะได้สมหวังกับ ซีหยิน ที่เขาแอบหลงรักซะที ในเมื่อเรื่องนั้นไม่ได้เป็นตัวจริง ก็มาจริงที่เรื่องนี้ก็ได้นะ ถึงจะอรรถรสแตกต่างกันสิ้นเชิงก็เอาเถอะ สายชิปก็รอเชียร์อยู่ทางนี้เลยจ้ะ และเรื่องนี้จางปินปินก็สวมบทบาทเป็นสายลับปลอมตัวมาได้น่าเห็นใจเอามาก ๆ ต้องปิดบังตัวตนและบอกใครไม่ได้แม้แต่พ่อแม่ ถือเป็นงานที่ตายไปก็ไม่มีใครรู้ว่าตายในหน้าที่ ทำความดีก็ไม่มีใครเห็น นอกจากพวกเดียวกันเอง เพราะไม่รู้ว่าเขาทำ

ส่วนในด้านการแสดงของหยางมี่นั้น ไม่ต้องสืบ การันตีด้วยดีกรีนางเอกแถวหน้าที่สวมบทบาทแตกกระจุยในทุกเรื่องที่แสดง ชื่นชอบการแสดงของตัวละครเรื่องนี้เป็นพิเศษตรงที่ความเป็นธรรมชาติจนเชื่อได้ เล่นใหญ่ไฟกะพริบไม่มีค่ะ แม้แต่ตัวร้ายก็ร้ายลึกแบบมีปมเจ็บ ๆ ไว้ภายในจนเราเข้าใจได้ว่า เออเอ็งคงมีความต้องการบางอย่างที่แรงกล้ามากสินะ ถึงอาจหาญเป็นอาชญากรระดับชาติได้ขนาดนี้ บทมีความแยบยลในกลอุบายที่อยากบอกว่า ดูไปเรื่อย ๆ ค่ะแล้วจะได้ลุ้นกับการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบของตัวเอกกับตัวร้าย ที่ทันกันชนิดหายใจรดต้นคอ ผู้เขียนดูล่วงหน้าไปก่อนหลายตอนแล้ว บอกเลยว่าตอนนี้ค้างเติ่งอยู่กลางทาง อยากตามต่อแต่ความจำเป็นบังคับให้ตามได้แค่นี้

เรื่องนี้ไม่มีขาว ไม่มีดำนะคะ เป็นคนเทา ๆ กันแทบทั้งหมด เหมือนมนุษย์เราบนโลกใบนี้ที่เป็นเทาเข้ม เทาอ่อนต่างเฉด ไดนามิกตัวละครไม่มีตัวละครตัวไหนไร้เหตุผล แม้แต่ตัวร้ายก็มีเหตุผลในการทำเลวกับเขาด้วยแน่ะ เราจะไม่เห็นความโกรธเกินเบอร์ หรือเศร้าเกินพิกัด เรียกได้ว่าความสัมพันธ์และการแสดงอารมณ์ของตัวละครทุกตัวลื่นไหล เป็นธรรมชาติ มีมิติที่จับต้องได้

โดยเฉพาะตัวละครหลักที่ทำให้เราเห็นอีกมุมของ สายลับนอกเครื่องแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากซีรีส์เรื่องอื่น ๆ มีเรื่องให้สงสัยและรอเปิดเผยมากมายกว่าที่เห็นแน่ ๆ องค์กรลับที่ว่าต้องการอะไรและใครเป็นบิ๊กบอส ปมของคนร้ายที่ต้องการเหนืออำนาจเงินคืออะไร มีอีกหลายปมที่ยังไม่มีการเปิดเผย จะเผยให้เห็นทีละเปลาะแบบน่าติดตาม และแน่นอนว่ามีเรื่องความรักของเขาทั้งคู่ให้แอบเชียร์อยู่ข้าง ๆ แน่นอน