หลังจากอัลบั้มแรกของวง ‘HANGMAN’ ที่ออกมาในปี 2550 และการลาออกของอดีตนักร้องนำ โต – วีรชน ศรัทธายิ่ง ถึงแม้จะได้รับการสนับสนุนจากโตให้เดินต่อ แต่สมาชิกที่เหลือก็ได้ตัดสินใจยุติไม่ไปต่อตั้งแต่นั้น ทิ้งไว้เพียงมาสเตอร์ชุดที่ 2 ที่ทำการบันทึกเสียงกันไว้ แต่ปัจจุบันได้ถูกลบ สูญหายไป หรืออยู่ ณ ที่แห่งใดก็มิอาจมีใครรู้

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา สมาชิกเดิมของ แฮงแมน (Hangman) ได้แก่ เก๋ – อรรคพล ทรัพยอาจิณ (กีต้าร์) แจ็ค – พงษ์วิภาค เหมะ (กีต้าร์) แสบ – สายัณห์ สุวรรณเมธา (กลอง) และไซมอน เฮนเดอร์สัน โปรดิวเซอร์ของวง มีไอเดียการกลับมารวมตัวใหม่อีกครั้งอยู่เสมอ จนกระทั่งไซมอนได้ย้ายกลับมาประเทศไทย และตั้งค่ายเพลงน้องใหม่ที่มีชื่อว่า MonstaMixa Music ร่วมกันกับ บอล-อธิป นานา ช่วงเวลาและโอกาสที่เหมาะสมในการกลับมาอีกครั้งของแฮงแมนจึงได้เกิดขึ้น

และในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ครบรอบ 14 ปีหลังจากอัลบั้มแรกของแฮงแมนทางวงได้ประกาศการกลับมาครั้งนี้พร้อมซิงเกิลแรกชื่อว่า “ถ้าเธอยังรอ” ในสังกัด MonstaMixa Music โดยมีนักร้องนำคนใหม่คือ แซม – เสริมศาสตร์ เดอะโรซาริโอ นักร้องที่หลายคนให้ความยอมรับในคุณภาพ การันตีจากเวทีรายการต่าง ๆ เช่น The Voice, Stage Fighter น้ำเสียงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของแซมเป็นสิ่งที่ไซมอนต้องการ และไซมอนก็ได้เคยทำงานด้วยกับแซมตั้งแต่ปี 2006 มาแล้ว ถึงมั่นใจเลือกแซมให้เป็นนักร้องใหม่ของแฮงแมน

“ถ้าเธอยังรอ” ซิงเกิลใหม่นี้แต่งโดยเก๋ และ แซม โดยมีปู๋วง Hens มาแต่งเนื้อร้องให้ โดยมีสมาชิกวงชุดดั้งเดิมที่เสริมด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างเข้มข้น ทำให้แฮงแมนในปี 2021 นี้มี เก๋ – อรรคพล ทรัพยอาจิณ (กีต้าร์) แจ็ค – พงษ์วิภาค เหมะ (กีต้าร์) แสบ – สายัณห์ สุวรรณเมธา (กลอง) แซม – เสริมศาสตร์ เดอะโรซาริโอ (ร้องนำ) พร้อมด้วยโปรดิวเซอร์คนเดิม ไซมอน เฮนเดอร์สัน ที่พร้อมจะกลับมาอีกครั้ง ด้วยความแข็งแกร่งกว่าเดิม สุ้มเสียงที่สดใหม่กว่าเดิม และพลังร็อกที่เข้มข้น !! ซึ่งพวกเขาพร้อมแล้วที่จะ “เสี่ยง” และเดินบนเส้นทางที่รักเพื่อแฟนเพลงที่รอคอยพวกเขาอยู่

Play video

เพลง “ถ้าเธอยังรอ” นี่เหมือนกับแฮงแมนกำลังบอกกับแฟน ๆ ว่ากลับมาแล้วนะ

เก๋ : แน่นอนครับคือเรากลับมาเพราะยังมีคนรออยู่ ใช่ครับนั่นคือคีย์เวิร์ดสำคัญและในสิ่งที่พวกเรากลับมารวมตัวกันเนี่ยก็ไม่ได้เป็นเพราะพวกเรามีแพลนหรือตั้งใจอะไรแต่ว่าเรากลับมาเพราะว่ามีคนต้องการที่จะดู  มีคนต้องการที่จะฟัง มีคนต้องการที่จะให้เพลงร็อกยังอยู่ หรือมีคนคิดถึง มันมีหลายเหตุผลที่มันหนักแน่นพอที่พวกเราจะอยู่เฉยไม่ได้แล้วเราคงต้องทำอะไรสักอย่าง ไหนจะค่ายเช่นไซม่อนที่กลับมา มันก็เลยทำให้นี่คือสิ่งที่เป็นของขวัญและสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเราทำได้เพื่อตอบแทนความรักของแฟน ๆ ที่มีให้เราเสมอมาเพราะยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นว่าเค้ายังอยู่

แล้ววิธีการทำงานในเพลงนี้มีขั้นตอนยังไง

เก๋ : ผมเริ่มต้นจากเราได้รู้ข่าวว่าโอเคเราจะทำด้วยกันนะครับ จากที่แซมกับไซม่อนเขาได้มีแพลนที่จะวางเพลงกันละ

แซม : คือผมได้ไปแจมกับพี่ ๆ ที่มีงานมีตติ้งกันพอไซม่อนเขาเห็นว่าเคมีเข้ากันได้กับวงเขาก็เลยจับมารวมตัวกัน

เก๋ : พวกเราเองก็มีการเรียกร้องอยู่แล้วว่าพี่ ๆ มารวมกันอีกไหม ใครมาร้องผมก็รอ ใครมาร้องผมก็ฟัง แล้วมันก็มีภาพนี้เกิดขึ้น มีภาพการรวมวงเกิดขึ้น โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจก็เลยโอเคทำก็ทำผมก็เลยทำเพลงขึ้นมาแล้วก็ทำดนตรีทำเมโลดี้ขึ้นมาแล้วก็ส่งให้แซมร้องเมโลดี้ให้ไซม่อนดู จนกระทั่งได้ปู๋ (วง 25hours และ Hens) มาเขียนเนื้อร้องให้แล้วเราก็เข้าห้องอัดกันแล้วก็อัดเสียงกันเต็มที่

ในส่วนของเนื้อร้องมีการทำงานร่วมกันกับปู๋วง Hens ยังไงบ้าง

แซม : ในส่วนของเนื้อร้องเราก็ส่งเมสเสจบอกคือเราก็บอกเค้าเลยว่าอยากได้เพลงที่เราสามารถสื่อสารกับแฟนเพลงโดยตรงได้โดยที่เป็นภาษาของผมด้วย ภาษาพูดผมด้วย เพราะผมไม่ได้เป็นคนที่หวานอะไรขนาดนั้นก็จะพูดออกมาตรง ๆ หน่อย

พอได้ฟังแล้วรู้เลยว่า “ถ้าเธอยังรอ” แนวทางดนตรีมีความแตกต่างจากตอนที่เป็นแฮงแมนเดิมตรงนี้มีแนวคิดยังไงบ้าง

แจ๊ค : เพราะว่าเพลงแฮงแมนตอนปี 2021 ก็จะไม่เหมือนปี 2007 อยู่แล้วครับ เราทำเพลงในยุคนี้เราก็จะคิด เราก็จะทำ แบบที่เราเป็นตอนนี้ ซึ่งทุกอย่างทุกส่วนดนตรีมันก็จะเป็นแฮงแมนอยู่แล้วไม่ว่าจะสำเนียงกีตาร์ สำเนียงกลอง สำเนียงแซม ก็จะเป็นส่วนผสมที่ทำให้เป็นแฮงแมนในปี 2021 ครับ

ถ้าให้จำกัดความคำว่า ‘แฮงแมน 2021’ มันคืออะไร

เก๋ : จริง ๆ การแต่งเพลงของเราเราไม่ได้เป็นการแต่งแบบโรงงาน ไม่ได้เป็นการแต่งเพลงแบบค่ายเพลงหรืออะไรอย่างนี้นะครับ จริง ๆ แล้วการแต่งของเราคือการเป็นตัวของตัวเราในปีนี้เราอยากจะเล่นแบบนี้ เราอยากจะฟังเพลงแบบนี้ เพลงหรืออะไรก็ตามมันก็จะโตไปพร้อม ๆ กับเรา บางทีในตอนปี 2007 เราไม่อยากเป็นคนที่แก่มากหรืออาจจะต้องการการยอมรับมาก ๆ ก็ได้แต่ตอนนี้ผมแก่จริง ๆ แล้วผมอาจจะอยากเป็นวัยรุ่น มันแล้วแต่การที่ผมคิดแล้วในสิ่งที่เราทำก็คือความแปลกใหม่สำหรับเราในตอนนี้ ความน่าตื่นเต้นของเราในตอนนี้และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือนี่คือส่วนผสมของทุกคนจริง ๆ ที่เราชอบ สำเนียงแต่ละคนอารมณ์แต่ละคน เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าใครที่ฟังดนตรีแล้วรู้สึกได้ สัมผัสได้ หรือเป็นคนที่มีสัมผัสด้านความรู้สึกจากเพลงเนี่ย ทุกคนจะได้ยินเสียงแห่งความคิดถึง เสียงแห่งความตื่นเต้น เสียงแห่งความสดใหม่เสียงแห่งความดีใจที่เราได้รวมกัน ทุกคนจะสัมผัสได้เพราะว่าเราไม่ได้ทำเพลงขึ้นมากะจะรวยกะจะดังแต่เราทำเพลงขึ้นมาเพราะมีคนที่เค้ารักและเค้ารอเราอยู่

แสบ : แต่ถ้ารวยถ้าดังก็ช่วยไม่ได้นะครับ (หัวเราะ)  

แซม : สำหรับมุมมองผมที่เป็นแฟนเพลงนะครับ ด้วยเวลาที่ผ่านมา 11 ปีที่พี่ ๆ เขาไม่ได้ทำเพลงกัน ทุก ๆ คนเค้าก็ไปสั่งสมประสบการณ์ทั้งหลาย ทั้งการฟังเพลง ทั้งการเล่นดนตรี แล้วก็ทั้งตัวผมด้วยที่สั่งสมประสบการณ์มาทั้งชีวิต ทั้งหมดนี้เพื่อมาบ่มเพราะเป็นแฮงแมนในปี 2021

แจ๊ค : ก็คือตามชื่อเพลงครับ “ถ้าเธอยังรอ” คิดว่าเป็นอย่างนี้ครับ

แสบ : ส่วนผมนะครับ 3 คำ “ร้องดี ดนตรีเด่น โซโลเดือด” ครับเพลงนี้

แฮงแมนตอนนี้ทำไว้กี่เพลงแล้วหรือยังมี “ถ้าเธอยังรอ” เพลงเดียว

เก๋ : เพลงเดียวครับแล้วเดี๋ยวเราคงจะอัปเดตอีกทีหนึ่งหลังจากเพลงนี้ออกไปแล้วสักระยะ ด้วยสภาวะโควิดด้วยเรายังไม่ได้มองเรื่องของการทัวร์อะไรมากนักแต่ที่แน่ ๆ คือซิงเกิลที่ปล่อยออกไปเพื่อจะส่งสัญญาณว่าเราอยู่นี่ มีนักร้องคนนี้ แล้วก็ดนตรีของเรากลับมาอยู่ในกระแสคนฟังเพลงแล้วนะ ซึ่งแน่นอนครับเพลงอื่น ๆ  มันเป็นเรื่องของอนาคตว่ามันจะออกมาเป็นยังไงจะเมื่อไหร่ แต่ว่าโอเคตราบใดที่เรายังอยู่ตรงนี้ ตราบใดที่คนฟังยังอยู่กับเรา ก็ “ถ้าเธอยังรอ” ครับ

มีความคาดหวังกับการกลับมาในครั้งนี้รึเปล่า

เก๋ : 350 ล้านวิวอะไรประมาณนั้นครับ (หัวเราะ)

แสบ : ก็อยากให้คนฟังมีความสุขนะครับที่คาดหวังไว้นะ อยากให้แฟนเพลงที่เฝ้ารอกันมาหลาย ๆ ปี ก็อยากให้มีความสุขกับเพลงแรกของเราก่อนนั่นแหละคือความหวัง

หลังจากไม่ได้ทำงานร่วมกันมานานหลายปี ได้กลับมารวมตัวกันในครั้งนี้และยังเป็นการรวมตัวกันพร้อมนักร้องนำคนใหม่ด้วย รู้สึกยังไงบ้าง

แสบ : อย่างแรกเลยก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเพราะก็ไม่ได้คิดว่าจะได้กลับมาทำในชื่อวงแฮงแมนอีก แล้วก็ดีใจที่ยังมีคนรอฟังกันอยู่ก็ทำให้งานมันเกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องของจังหวะ เวลา โอกาสอะไรหลายอย่างมารวมกัน เราก็มีทั้งไซมอนและค่าย MonstaMixa และที่สำคัญเลยคือได้คีย์เวิร์ดคือแซมเข้ามาเป็นนักร้อง ตั้งแต่ตอนที่แจมกันก็รู้สึกประมาณนึงแล้วเฮ้ยน้องเค้าร้องดี เค้าร้องด้วยเสียงของเค้าเองเลย มันไม่แปลกหรอกถ้าจะมีคนรองเหมือนพี่โตอะไรยังงี้ แต่ว่ามันจะดีกว่าถ้ามีคนร้องได้ดีแล้วไม่เหมือนด้วย อันนี้ผมว่าสำคัญ ก็เลยเป็นแรงผลักดันแรงนึงเลยที่ทำให้พวกเราอยากจะทำแฮงแมน

แจ๊ค : ผมคิดว่าก็ต้องลองฟังแซมร้องว่าเป็นยังไงบ้าง แซมก็ร้องเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองครับ ผมชอบที่ความเป็นตัวเขามากกว่าที่เขาจะต้องมาร้องให้เป็นแบบพี่โต แล้วก็สิ่งที่ออกมาในเพลงนี้ก็คือเป็นตัวเขาแล้วก็มารวมกับวงแฮงแมนกลายเป็น “ถ้าเธอยังรอ” ครับ

แซม : ผมว่าแซมเค้าค่อนข้างจะอบอุ่นและก็น่ารักมากเลยครับ (หัวเราะ)

เก๋ : คือสำหรับผมเนี่ย เอาเรื่องของสตูดิโอก่อนละกันการกลับมาเข้าสตูดิโอกับโปรดิวเซอร์กับไซมอนกับทุก ๆ คนเนี่ยผมไม่ได้คิดอีกแล้ว ผมไปสายงานอื่นไปแล้ว ผมไปพากย์หนัง ผมไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ผมก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นความสนุก เป็นความตื่นเต้น เป็นความคิดถึง เรากลับมาเพราะความคิดถึง เรากลับมาเพราะความผูกพัน เราไม่ได้กลับมาเพราะเรื่องอื่น เราไม่ได้กลับมาเพราะมีใครสั่งให้ต้องทำ เรากลับมาเพราะเราอยากจะทำ เพลงนี้มันจึงเกิดมาจากสิ่งที่เราจะนำเสนอและเมื่อเสร็จแล้วเราก็มั่นใจว่ามันดีเราถึงได้ปล่อย  เราต้องการบอกทุกคนให้ทุกคนได้ฟัง ให้ทุกคนได้ยิน ดังนั้นการกลับมารวมตัวกันมันเกิดกว่าที่ผมคิดไปแล้ว ถ้าผมเป็นคนที่รออยู่ผมก็จะดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วย

สำหรับแซมที่เป็นแฟนเพลงวงมาก่อนจนวันนี้ที่ได้เป็นฟรอนต์แมนของวงมีความรู้สึกยังไงบ้าง

แซม : ก็อย่างแรกเลยคือรู้สึกว่ารู้สึกตื่นเต้นกับทุก ๆ สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นกับพี่ ๆ ทั้งหมดตอนนี้ ผมกำลังสนุกกับทุกโมเมนต์ที่กำลังเกิดขึ้นเลยครับ แล้วก็รู้สึกขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ไว้ใจในตัวผมและก็ขอบคุณไซมอนด้วยที่พาผมมาเจอกับพี่ ๆ เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับที่ได้อยู่ในวงที่มีทั้งไอดอลของผมที่อยู่ในวงด้วยและก็มีพี่ ๆ  (เก๋เอามือมาลูบแซม) อย่าลูบเดี๋ยวร้องให้ (หัวเราะ) ก็ประมาณนี้ครับผม

เท่า ๆ ที่ดูแฮงแมนก็ปลื้มนักร้องคนนี้

เก๋ : คือบรรยากาศในห้องอัดเนี่ยมันเหนือคำบรรยายนิดนึง คือเราเตรียมเซ็ตอัปวันสำหรับอัดเสียงไว้เครื่องละวัน กลองคนแรกเลย แล้วก็กีตาร์ 2 วัน เบส 1 วัน และก็ร้องกับมิกซ์เสียง ทีนี้วันที่ 2-3 มันก็ผ่านไปด้วยดี ไอ้นี่ก็ “พี่ผมอยากร้องแล้ว” ผมก็บอกมันยังเหลือวันอยู่จะมาร้องอะไรตอนนี้ แต่ไปมาเค้าก็เข้ามาในห้องร้องแล้วก็ร้องเลย แล้วก็เสร็จภายใน 2 ชั่วโมงทั้งไลน์หลักและไลน์คอรัส สิ่งที่ได้ยินก็คือความเป็นมืออาชีพอย่างมาก ๆ ของแซม คือแซมเป็นมืออาชีพที่ตอนแรกเรานึกว่าแค่ร้องดี แต่ไป ๆ มา ๆ นี่มันคือความมหัศจรรย์ เสียงก็ดี แล้วตอนอัดก็ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรปรับแต่ง เค้าก็ร้องยาว ๆ เป็นเทคเลย เป็นความประทับใจที่เราสัมผัสได้ว่า เรากำลังกลับมาสู่ความเป็นวง การทำงานร่วมกัน เรานึกถึงวงรุ่นใหญ่ ๆ อย่าง Queen อย่าง The Beatles ที่เค้าอัดรวมกันได้ เล่นสดได้โดยที่ไม่ต้องปรับแต่งอะไร เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันก็ไปไกลมาก ร้องทีละท่อนแล้วก็ออโต้จูน ปรับแต่งได้อะไรได้ ความประทับใจที่มีต่อนักร้องเนี่ยมันเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่เราอัดเสียงด้วยกัน และมั่นใจว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราออกเล่นคอนเสิร์ตได้ทุกคนจะได้เห็นอะไรที่มันตื่นเต้นมากขึ้น

ในตอนที่แซมอัดเสียงร้องของเพลงนี้ รู้สึกยังไงบ้างทั้งในแง่ของความรู้สึกและตัวงานเลยว่ามีการดีไซน์การร้องมั้ยหรือปล่อยออกไปตามธรรมชาติ ณ ตอนนั้น

แซม : คืออย่างแรกผมทำการบ้านเยอะเลย ฟังเพลงนี้วนหลายรอบ แล้วก็มีการดีไซน์การร้องอยู่ในหัวตลอดว่าเราจะเอายังไง จะร้องยังไงดี ก็พยายามเข้าห้องอัดตั้งแต่วันแรกที่ผมยังไม่ได้อัดร้อง แต่ก็ออกไปทุกวันเลย ที่ผมไปก็เพราะว่าผมอยากไปซึมซับทุกบรรยากาศเอาไว้ในตัวผมเพื่อที่มันจะได้ระเบิดออกมาตอนที่ผมอัดร้องครับ แล้วพอดีว่าวันสุดท้ายเวลามันเหลือประมาณ 2 ชั่วโมงพอดีไซม่อนเค้าก็หันมาถามผมว่า “เฮ้ยแซมอัดเลยมั้ย” ผมก็อยากอัดอยู่แล้วก็เลยบอกว่าได้ครับ เผื่อวันพรุ่งนี้จะได้มาอัดคอรัสในส่วนที่เหลือ ด้วยความโชคดีหลายอย่างมันก็ลงตัวไปหมดครับ

สำหรับแฮงแมนแล้วคำว่า ‘ร็อก’ มันคืออะไร

แจ๊ค :  ผมคิดว่ามันเป็นความมันส์ถึงใจในความร็อก เป็นความมันแบบเกินขีดจำกัดเอาให้สุดไปเลยอะไรแบบนั้น

แซม : สำหรับผมร็อกคือการแสดงด้านที่เกรี้ยวกราดด้านที่ดิบเถื่อนของมนุษย์ออกมาครับ ไม่ว่าจะเป็นความเกรี้ยวกราดบนเวที วิธีการร้องอะไรทั้งหลายแหล่ เนื้อหาที่มันแสดงออกถึงสิ่งที่เราเก็บไว้แล้วมันระเบิดออกมานั่นคือร็อกครับ ร็อกคือระเบิดครับ

เก๋ : สำหรับผมร็อกมันคือนิสัยครับ มันคือนิสัยของคนเพราะว่าวิธีการพูด วิธีการใช้คำ วิธีการแสดงออกหรืออะไรก็ตามมันคือนิสัยของคน มันคือถ้าคุณเป็นคนที่ชอบฟังเพลงอะคูสติกนิสัยคุณก็คงเป็นคนที่ชอบความเย็นสบาย ชอบไปเข้าป่า ชอบไปทะเล บางทีชาวร็อกอาจจะไม่มีโอกาสแบบนั้นมากนัก แต่ที่ไหนก็ตามที่เรายังมีชีวิต เราสามารถที่จะสะใจทุกโมเมนต์ของเราได้ เราสามารถที่จะผ่านเรื่องของการต่อสู้ การถูกตัดสินหรือผ่านเรื่องของการที่เราเก็บกดอยู่ข้างใน อย่างที่แซมบอกเพราะฉะนั้นร็อกมันคือนิสัยและแน่นอนครับสำหรับผม ถึงแม้ผมพยายามที่จะเล่นเปียโน เปียโนผมก็เป็นกลิ่นของเพลงร็อก ผมเล่นอะไรมันก็ร็อกไปแล้ว

แสบ : ร็อกคือตัวผมนี่ล่ะครับ แค่นี้ครับ

เก๋ : ร็อกเอ๊าะเยอะ (หัวเราะ)

แสบ : ร็อกอะไรก็ได้ครับ แต่ว่าเป็นตัวผม

แฮงแมนคิดยังไงกับคำว่า ‘ร็อกไม่มีวันตาย’

เก๋ : ร็อกไม่มีวันตายแต่ร็อกก็มีวันเชยใช่มั้ย ร็อกก็ต้องผสมหรือร็อกแท้ ๆ สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีวันตายจริง ๆ เพียงแต่ว่าเพลงร็อกมันมีความชัดเจนของตัวมันมากที่สุด ไปผสมกับอะไรก็ตามเพลงร็อกก็ยังมีสัดส่วนและส่วนผสมที่ชัดเจน ร็อกมันก็คือพริกไปผสมกับอะไรสิ่งนั้นก็จะมีความซาบซ่า แซ่บขึ้น เพราะฉะนั้นน้อง ๆ เด็ก ๆ นักฟังเพลงสมัยนี้อาจจะไม่รู้ตัวว่าฟังเพลงร็อกอยู่ทั้ง ๆ ที่ชื่อแนวเป็นชื่ออื่น อาจจะเป็นเนื้อหาที่ร็อกมาแต่ถูกพรีเซนต์ออกมาในดนตรีแจ๊ส หรือดนตรีอิเล็กทรอนิกที่มันตื๊ดมาก ๆ แท้จริงแล้วคุณไม่รู้หรอกว่ามันอาจเกิดขึ้นจากดีเจที่คลั่งเพลงร็อกมาก ๆ แต่ต้องเปลี่ยนเครื่องดนตรีเพื่อให้มันเดินหน้าไปเพื่อให้มันคอลแลปส์กับแนวอื่น ๆ เพราะฉะนั้นร็อกไม่มีวันตายมันไม่ตายแต่มันไปซึมกับทุกแนวดนตรีในปัจจุบันนี้เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนตราบใดที่ไอค่อนของเพลงร็อกอย่างเช่น กีตาร์ ยังมีขายอยู่ ร้านกีตาร์ยังมีอยู่ ยังไงชาวร็อกก็คือชาวร็อก เราก็ยังมี (ฮัมอินโทรเพลง “Iron man” ของ Black Sabbath) มันไม่เคยตาย แต่มันสามารถกลายพันธุ์เป็นสิ่งหลาย ๆ อย่าง

แซม : สำหรับผมนะครับเพลงร็อกไม่ได้ตายหายไปไหนแต่มันแค่รอเวลาที่จะกลับมาในรูปแบบใหม่ครับ ทุก ๆ ครั้งที่ร็อกกลับมาที่ร็อกพัฒนาไปทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นยุคของ Led Zeppelin ยุคของ Queen เปลี่ยนมาเป็นยุค Alternative , Nu-metal หรือ Punk อะไรก็ตาม ทุกครั้งที่ร็อกกลับมาร็อกไม่เคยเหมือนเดิมและร็อกจะพัฒนาไปเรื่อย ๆ ครับ ตอนนี้แค่ร็อกจะกลับมาใหม่ในรูปแบบใหม่เท่านั้นเองครับ

แสบ : ร็อกยังไม่ตายครับ ร็อกยังอยู่ที่บ้านผมหลายแผ่นครับ (หัวเราะ) ก็ไม่ตายหรอกครับ เพลงร็อกก็จะอยู่กับเราไปตลอด ใครที่ได้ฟังเพลงร็อกหรือว่าเพลงหนัก ๆ เชื่อว่าถ้ารักแล้วรักเลยครับ เพียงแต่ว่าบางเวลาอาจจะไปฟังอย่างอื่นแล้วเราก็จะกลับมาฟังเพลงร็อกที่เราชอบเหมือนเดิม

แจ๊ค : ผมว่ามันไม่ได้ตายครับคือทุกอย่างมันจะกลับมาครับ มันก็จะกลับมาอีกรอบนึง อยู่ที่ช่วงจังหวะว่ามันจะกลับมาเวลาไหน ทุกอย่างมันจะวนกลับมาหมด อยู่ที่ว่าช่วงนั้นเป็นยังไงก็จะสลับไปเรื่อย ๆ ครับ

จากเนื้อเพลงของเพลง “ถ้าฉันยังรอ” มันพูดถึงความพร้อมที่จะเสี่ยงมีท่อนที่ร้องว่า “จะเสี่ยงฉันก็จะกลับมา” ทำให้คิดถึงสถานการณ์ในการทำเพลงทุกวันนี้ที่มีความท้าทายมาก และในวันที่เพลงร็อกไม่ได้รับความนิยมเหมือนเดิมการกลับมาในครั้งนี้ก็อาจจะมีความเสี่ยงหลายอย่าง สำหรับแฮงแมนแล้วมองความท้าทายตรงนี้ยังไงและจะผ่านมันไปยังไง

แซม : สำหรับผมผมพร้อมรับทุกความเสี่ยง เพราะเราทำเพลงนี้เต็มที่และเรารักในเพลงนี้  มันจะเป็นยังไงมันต้องมีกลุ่มคนที่ชอบและไม่ชอบอยู่แล้ว ตราบใดที่เรารักและมีความสุขกับเพลงนี้แล้วผมไม่สนใจคนอื่นแล้วครับ

เก๋ : คล้าย ๆ อย่างนี้แหละครับเค้าเรียกนิสัยชาวร็อก (หัวเราะ) เพราะว่าชาวร็อกมันรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ สิ่งที่เรารู้สึกเนี่ยมันตรงไปตรงมาและมันก็กล้าด้วย กล้าที่จะทำ กล้าที่จะเสี่ยง ก็รู้อยู่ว่ามันเป็นยังไงแต่นี่แหละคือความเป็นเรา นี่แหละคือตัวเรา คนเราทุกคนมันเสี่ยงทุกวันอยู่แล้วครับ แต่คำว่าเสี่ยงของพวกเราเนี่ยเรารู้ว่ามันคุ้มที่จะเสี่ยง แม้มันจะยากแค่ไหนแต่มันก็คุ้ม ทุกคนที่เสี่ยงย่อมรู้อยู่แล้วว่าเสี่ยงแล้วมันจะได้อะไร นั่นคือความกล้าที่เราอยากจะเสี่ยงกับมัน แน่นอนครับเนื้อเพลงก็บอกว่าการกลับมาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่เพราะอะไรจึงกลับมาล่ะ ใช่มั้ยครับ

แสบ : เพราะว่า “ถ้าเธอยังรอ”

เก๋ : ความรักของทุก ๆ คนมันยิ่งใหญ่กว่าความขี้เกียจของพวกเราครับ

แฮงแมนอยากบอกอะไรกับแฟน ๆ

แจ๊ค : อยากจะฝากเพลงนี้ให้ทุก ๆ คนลองฟังดูครับ เราทำจากใจพวกเราจริง ๆ ครับ ตั้งแต่วันแรกที่ทำ ตั้งแต่วันแรกที่ฟัง พวกเราภูมิใจในเพลงนี้จริง ๆ ครับ อยากให้ทุกคนได้ฟัง อยากให้ทุกคนลองวิจารณ์ดูก็ได้ครับว่าเป็นยังไง แค่อยากให้ทุกคนรู้ว่าเราชอบเพลงนี้และอยากให้ทุกคนได้ลองฟังและชอบอย่างที่เราชอบเพลงนี้ครับ

แซม : ก็ฝากเพลง “ถ้าเธอยังรอ” และก็ฝากตัวสำหรับแฟน ๆ แฮงแมนด้วยนะครับ น้องใหม่ครับแต่หน้าเก่า ขอฝากเพลงนี้ไว้ด้วยครับเพราะทุกคนทำด้วยความตั้งใจจริง ๆ แล้วก็ฝากทุกช่องทางการติดตามด้วยนะครับไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กแฮงแมน อินสตาแกรม และยูทูบ ฝากติดตามทุกช่องทางเลยครับ

เก๋ : ฝากคนที่ได้ฟังเพลงแล้วก็ขอบคุณที่ติดตามพวกเรามาหลายปี คุณคือเหตุผลที่ทำให้เราต้องกลับมา ผมกลับมาเพราะทุกคนยังรอ ไม่ได้กลับด้วยเหตุผลอื่นใดนอกจากความรักของทุก ๆ คน เพราะฉะนั้นเสียงเพลงที่ทุกคนได้ยินนั่นคือเสียงที่อยากให้ทุกคนฟัง อยากจะสื่อสารให้ทุกคนได้ยินว่าเรารู้นะว่าคุณยังอยู่ แล้วเราก็จะบอกว่าเรารู้นะว่าคุณพร้อมเสมอที่จะเดินทางต่อไปกับเราแม้ว่าเราจะมีการเปลี่ยนแปลงแม้ว่าเราจะมีสิ่งที่เกิดใหม่ นั่นคือสิ่งที่ผมจะฝากว่าเราจะเดินต่อไปด้วยกันครับ

แสบ : ก็ 3 คำครับ “ร้องดี ดนตรีเด่น โซโลเดือด” ครับ “ถ้าเธอยังรอ” ครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส