เว็บไซต์ Deadline ได้รายงานว่า ‘Dune’ ทำรายได้เปิดตัวขึ้นอันดับที่ 1 ในสหรัฐฯ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (22 – 24 ตุลาคม 2021) โดยทำรายได้ไป 40.1 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,330 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุดของ Warner Bros. ในยุค COVID-19 นี้ นับตั้งแต่ ‘Joker’ ทำรายได้เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ไปด้วยรายได้ 93.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3,100 ล้านบาท
ในส่วนของรายได้ทั่วโลกนั้นสูงถึง 220.7 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 7,300 ล้านบาท จากทุนสร้าง 165 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 5,460 ล้านบาท
‘Dune’ เป็นภาพยนตร์ไซไฟระดับมหากาพย์สุดทะเยอทะยานของผู้กำกับ เดอนีส์ วีลเนิฟว์ (Denis Villeneuve) ซึ่งดัดแปลงจากนิยายไซไฟระดับขึ้นหิ้งของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) เมื่อปี 1965 โดยทาง Warner Bros. ได้พยายามโปรโมตภาพยนตร์มาตลอดระยะเวลา 2 ปี กอปรกับคำวิจารณ์จากรอบสื่อมวลชนที่ออกมาดีมาก จนทำให้ ‘Dune’ กลายเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ได้รับการคาดหวังสูงมากในปี 2021 นี้
เดิมทีนั้น ‘Dune’ มีกำหนดฉายในเดือนธันวาคม 2020 แต่ได้เลื่อนออกไปเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์พร้อมกับบริการสตรีมมิง HBO Max ที่ Warner Bros. เป็นเจ้าของด้วย
นอกจากนี้ ซีอีโอของ Warner Bros. ยังได้ยืนยันแล้วจะว่าจะสร้างภาคต่อของ ‘Dune’ อีกด้วย ซึ่งยิ่งสร้างความพึงพอใจให้แก่แฟน ๆ ที่จะได้รับชมเรื่องราวของ ‘Dune’ บนจอภาพยนตร์ต่อเนื่องไปอีก
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส