ย้อนกลับไปในอดีตถ้าใครเกิดทันในยุคปลาย 80’s ถึงต้น 90’s คุณน่าจะเคยได้ยินวลีที่ว่า “ดูการ์ตูนไร้สาระดูแล้วโง่” บ้างไหม เพราะคนที่เป็นพ่อแม่ (ตอนนี้เป็นปู่ย่าตาทวดไปแล้ว) เขาไม่มีอนิเมะมังงะที่เด็กยุคนี้เคยดู เลยทำให้คนยุคนั้นตีค่าการ์ตูนว่าเป็นสิ่งไร้สาระสู้เอาเวลาดูการ์ตูนไปทำงานจะมีประโยชน์กว่า จนมาถึงยุคนี้ที่เด็กในช่วงปลาย 80’s ถึงต้น 90’s ก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และพวกเขาเหล่านั้นก็โตมาพร้อมกับการ์ตูนเหล่านี้ (ในยุคนั้นยังไม่เรียกการ์ตูนว่าอนิเมะแบบในสมัยนี้) เลยทำให้ผู้ใหญ่เหล่านั้นรู้และมองว่าอนิเมะที่ตัวเองเคยดูเคยอ่านในยุคนั้นหรืออนิเมะยุคนี้บางเรื่องเด็ก ๆ ก็ไม่ควรดูด้วยหลาย ๆ เหตุผล เรามาดูกันดีกว่าว่ามีมังงะอนิเมะเรื่องไหนบ้างที่คนยุค 90’s คิดว่าเด็กยุคนี้ไม่ควรดูบ้าง มาศึกษาไปพร้อมกันไปเลย
Death Note ดูอ่านครบอาจจะกลายเป็นอัจฉริยะในทางที่ผิด
เริ่มต้นอนิเมะมังงะเรื่องแรกที่หลายคนน่าจะรู้จัก เพราะในช่วงที่มังงะเรื่อง ‘Death Note’ ตีพิมพ์ก็เกิดปรากฏการณ์ความนิยมเกี่ยวกับสมุดบันทึกแห่งความตายขึ้นมาทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่คนที่ไม่เคยอ่านเคยดูมังงะอนิเมะเรื่องนี้ อย่างน้อยก็น่าจะรู้จักสมุดที่เขียนชื่อใครลงไปแล้วคนนั้นจะตายในทันที ที่เรียกว่าโด่งดังแบบสุด ๆ จนเราสามารถหาสมุด ‘Death Note’ ตามร้านขายทั่วไปได้เลย ซึ่งสำหรับคนที่ยังไม่รู้จักเรื่องราวของ ‘Death Note’ จะเปิดมาแบบเรียบง่ายของวันธรรมดา ๆ วันหนึ่ง ที่ยมทูตเกิดเบื่อเลยเอา ‘Death Note’ มาทิ้งบนโลกพอดีกับที่เด็กหนุ่มอัจฉริยะอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นไปเจอ (โคตรบังเอิญบอกเลย) ในตอนแรกเด็กหนุ่มก็คิดว่ามันโคตรไร้สาระแต่พอเขียนชื่อคนลงไป (ใน ‘Death Note’ บอกวิธีใช้อย่างละเอียด) ก็ตายจริง เด็กหนุ่มเลยคิดจะใช้มันเปลี่ยนโลกที่ไม่มีคนทำความชั่ว และเมื่อการตายของคนชั่วมากขึ้น ก็เริ่มมีคนออกมาโต้เถียงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันดีรึไม่ และก็มียอดนักสืบคนหนึ่งมาประกาศว่าจะจับคนร้ายให้ได้ เกมชิงไหวชิงพริบของสองอัจฉริยะจึงเริ่มขึ้น ซึ่งสิ่งที่พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นไม่อยากให้ลูกอ่านลูกดูเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าลูก ๆ จะเชื่อฟังแนวคิดของตัวเอกที่ต้องการกำจัดคนชั่วให้หมด ด้วยการกดขี่สั่งบังคับว่าห้ามทำแบบนั้นแบบนี้ไม่อย่างนั้นจะตาย ซึ่งก็ไม่ต่างกับคนที่มีอำนาจที่อยากทำตามใจตัวเอง และทึกทักว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นทำเพื่อทุกคนและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ความจริงแล้วมันเป็นแค่ความต้องการของคนกลุ่มน้อยที่ได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้เท่านั้น นั่นคือสิ่งที่พ่อแม่กลัวเมื่อลูกดูอ่านดูมังงะอนิเมะเรื่องนี้ แล้วคุณคิดเห็นยังไงบ้างกับสิ่งนี้
Chibi Maruko-chan เรื่องราวชีวิตประจำวันของเด็กยุค 90’s ที่ไม่เหมาะกับยุคนี้
“ชาลาลา พร้อมเมื่อไหร่ก็ร้อง ชาลาลา คิดไม่ออกก็ร้อง ชาลาลา ชวนกันไปบ้านมารุโกะ” ถ้าคุณอ่านเนื้อหาที่ผ่านมาเมื่อกี้เป็นเพลงละก็แปลว่าคุณไม่เด็กแล้ว เพราะนั่นคือเนื้อเพลงฉบับภาษาไทยของอนิเมะอย่าง ‘Chibi Maruko-chan’ หรือชื่อสั้น ๆ ว่า “มารูโกะ” อนิเมะแนวครอบครัวที่บอกเล่าเรื่องราวของคนในช่วงยุค 80’s ถึง 90’s ที่ไม่มีพิษมีภัยเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี แต่ทำไมอนิเมะเรื่องนี้ผู้ใหญ่ในยุคนี้ถึงไม่อยากให้เด็ก ๆ ดู ทั้งที่มันก็ดูเหมาะสมกับครอบครัวมาก ๆ นั่นก็เพราะว่าตัวเนื้อหาในอนิเมะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องราวยุคเก่า ที่เราต้องอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่กับบรรยากาศแบบต่างจังหวัด กับเรื่องราวเนื้อหาที่เด็กยุคนี้มานั่งดูคงไม่อิน แถมหลาย ๆ เรื่องที่อนิเมะเรื่องนี้แสดงออกมา ก็เป็นความคิดแบบโบราณที่คนยุคนี้ไม่ยอมรับ อย่างสิ่งที่คุณแม่ดุลูกเรื่องผู้หญิงต้องเรียบร้อยหาผู้ชายดี ๆ จะได้แต่งงานมาเป็นแม่บ้าน หรือพอพี่น้องที่ทะเลาะกันพี่สาวต้องเป็นคนถูกเสมอเพราะพี่เกิดก่อน และน้องต้องรอใช้ของ ๆ พี่ (ถ้าทั้งคู่เป็นเพศเดียวกัน) หรือเพื่อนที่โรงเรียนที่แบ่งชนชั้นฐานะ ที่ถ้าเด็กยุคนี้มานั่งดูคงจะบ่นแน่ ๆ ว่าแนวคิดหลาย ๆ อย่างในเรื่องนี้มันตกยุคไปแล้วแน่นอน
Chainsaw Man ชีวิตวุ่น ๆ ของวัยรุ่นโดนหั่นร่าง
คราวนี้มาดูอนิเมะยุคใหม่กันบ้าง ที่ต้องบอกก่อนว่าที่ประเทศญี่ปุ่นแม้จะมีการจัดเรตอายุของเด็กที่ดู ที่ถ้าอนิเมะที่มีเนื้อหารุนแรงก็จะถูกฉายดึก ๆ แต่ในโลกอินเทอร์เน็ตที่เปิดกว้างเด็ก ๆ สามารถหาอนิเมะทุกแนวมาดูได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ใหญ่ในญี่ปุ่นจะนับ ‘Chainsaw Man’ มาติดอันดับอนิเมะที่เด็ก ๆ ไม่ควรดู เพราะเนื้อหาในอนิเมะเรื่องนี้เต็มไปด้วยเลือดความรุนแรงและเพศแบบชัดเจน ที่ตั้งแต่ตอนแรกที่เราเปิดมาก็จะได้เจอชีวิตสุดแสนรันทดของพระเอกเรา ที่ต้องทำงานใช้หนี้แทนพ่อที่ฆ่าตัวตายด้วยการปราบปีศาจใช้หนี้พร้อมกับปีศาจหมาเลื่อย จนวันหนึ่งพระเอกเราก็ถูกยากูซ่าที่พ่อไปติดหนี้ที่กลายเป็นปีศาจซอมบี้รุมฉีกร่างจนตายทั้งคู่ ด้วยความผูกพันของปีศาจหมาเลื่อยพี่แกเลยให้ชีวิตใหม่กับพระเอก จนเขากลายร่างเป็นมนุษย์เลื่อยออกปราบปีศาจ ที่ความหวังในชีวิตพระเอกคือการได้นอนกับสาว ๆ ทั้งแนวเรื่องความคิดตัวละครการต่อสู้ฉากเรียกว่า 18+ แบบไม่ต้องคิด พ่อแม่ที่เห็นเด็กเล็กกำลังดูเรื่องนี้ก็อย่าเพิ่งให้เขาดูเชียว รอให้โตอีกนิดค่อยดูจะดีกว่าไม่เชื่อคุณพ่อคุณแม่ลองนั่งดูแค่ตอนแรกตอนเดียวก็รู้แล้วว่ามันเหมาะสำหรับลูก ๆ คุณขนาดไหน
Kimetsu no Yaiba แค่ตอนแรกก็รู้แล้วว่าไม่ควรให้เด็กดู
ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก ๆ เกี่ยวกับอนิเมะเรื่อง ‘Kimetsu no Yaiba’ หรือ “ดาบพิฆาตอสูร” ที่เรียกว่าโด่งดังเป็นพลุระเบิดในงานวันลอยกระทงเสียอีก เพราะถ้าใครยังจำได้ในช่วงที่อนิเมะเรื่องนี้ออกฉายในบ้านเรา ก็มีกระแสเด็ก ๆ ซื้อชุดถือดาบออกไปปราบอสูรกันมากมาย ซึ่งพ่อแม่ส่วนมากที่มีลูกเล็กหลายคนอาจจะไม่เคยดูอนิเมะเรื่องนี้ และพอลูก ๆ บอกว่าอยากได้ดาบชุดตามในอนิเมะพวกท่านเหล่านั้นก็จะซื้อให้ลูกใส่ทันที ซึ่งถ้าคุณมีเวลาครึ่งชั่วโมงไปดูอนิเมะเรื่องนี้เพียงแค่ตอนแรก คุณจะรู้ว่าเรื่องราวในอนิเมะเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กเลย เพราะแค่เปิดเรื่องมาครอบครัวของตัวเอกที่มีแม่และน้อง ๆ อีก 5 ชีวิตถูกฆ่าตายยกครัวอย่างสุดโหด ส่วนน้องสาวก็กลายเป็นอสูรที่เพียงแค่นี้ก็บอกให้เรารู้ว่าเนื้อหาต่อ ๆ ไปจะโหดอีกขนาดไหน แต่พอถ้าคิดในอีกมุมเด็ก ๆ ที่ได้ดูอนิเมะอ่านมังงะเรื่องนี้ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกสะเทือนใจกลัวหรือเก็บฉากโหด ๆ เหล่านั้นมาคิด พวกเขาจะดูแค่ความสนุกของตัวละครการต่อสู้เท่านั้น และเราก็ยังไม่เห็นเด็กคนไหนแต่งชุดตามในเรื่องดาบพิฆาตอสูรใช้มีดอีโต้ในครัวออกไปฟันคนเพราะคิดว่าเป็นอสูร มันจึงเป็นกรณีศึกษาว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่กลัวว่าเด็ก ๆ ที่ดูอนิเมะโหด ๆ จะไปทำตามหรือคิดในแง่ลบเกี่ยวกับชีวิตเมื่อดูอนิเมะเหล่านั้น ซึ่งมันแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย (ผู้ใหญ่คิดไปเอง) จนเราต้องเอามาคิดว่าความจริงแล้วอนิเมะโหด ๆ เหล่านี้มันส่งผลกับเด็ก ๆ จริงหรืออันนี้มากกว่าที่น่าคิด
Doraemon เด็กชายมีปัญหาที่ใช้ของวิเศษในการแกล้งคนอื่น
เรื่องนี้ก็น่าสนใจเพราะมันคืออนิเมะชื่อดังในยุคปลาย 80’s มาจนถึงตอนนี้ กับเจ้าแมวสีฟ้าไร้หู ‘Doraemon’ ที่เมื่อเทียบกับเรื่องดาบพิฆาตอสูรที่ผู้ใหญ่หลายคนในยุคนี้อาจจะไม่เคยดู ผู้ใหญ่หลายคนเลยไม่เห็นภาพในการเปรียบเทียบ ว่าทำไมเด็ก ๆ ยุคนี้ไม่ควรดูอนิเมะเรื่องนั้น แต่ในเรื่องราวของ ‘Doraemon’ ทุกคนน่าจะรู้กันอย่างดีว่ามันมีเนื้อหาอย่างไร ที่คุณ ๆ ที่เป็นพ่อแม่คนตอนนี้ต่างก็โตมากับอนิเมะเรื่องนี้ จนคุณเป็นคนดี ๆ ของสังคมได้อย่างปกติ แต่ทำไมพ่อแม่หลายคนถึงไม่อยากให้ลูก ๆ ตัวเองดูอนิเมะเรื่องนี้ โดยเหตุผลที่คนญี่ปุ่นมองว่าเด็ก ๆ ไม่ควรดูอนิเมะเรื่องนี้ก็เพราะหลาย ๆ ส่วนในอนิเมะเรื่องนี้มันคือแนวคิดยุคเก่า ที่แม้หลาย ๆ ตอนอาจจะเปลี่ยนเนื้อหาให้เข้ากับยุคสมัย แต่แก่นหลักของเรื่องที่ตัวเอกโดนรังแกจนต้องมาขอของวิเศษไปแก้แค้นก็ยังคงมีอยู่ รวมถึงตัวเอกที่โง่ไม่ตั้งใจเรียนขี้เกียจชอบแกล้งคนอื่น แต่กลับมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาเพียงแค่คุณมีเพื่อนที่ดีแม้คุณจะแย่ขนาดไหนชีวิตคุณก็ดีได้ ต่างกับคนยุคก่อนที่มองว่าถ้าเราไม่ขยันโง่แบบนั้นชีวิตเราจะแย่แบบนั้นแน่นอน แค่แนวคิดการมองเรื่องราวก็ต่างกันแล้ว และเด็กยุคนี้คงไม่มีใครอยากได้หุ่นแมวที่มีของวิเศษ (คนยุคเก่าอยากได้) แต่เด็กยุคนี้อยากมีเพื่อนที่คอยช่วยให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้นมากกว่า พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นเลยกลัวว่าลูก ๆ ตัวเองจะเก็บแนวคิดนั้นมาปรับใช้กับตัวเอง (ล้ำลึกเกินไปแล้ว)
SpongeBob SquarePants เนื้อหาแฝงไปด้วยความรุนแรงหยาบคาย
อย่าคิดว่าอนิเมะของฝั่งตะวันตกจะไม่โดน เพราะเรื่องวุ่น ๆ ของวัยรุ่นฟองน้ำทะเลอย่าง ‘SpongeBob SquarePants’ ก็ถูกเอามาจัดอันดับที่เด็ก ๆ ไม่ควรดู ซึ่งสำหรับใครที่ไม่เคยดู เรื่องราวของ ‘‘SpongeBob SquarePants’ ก็จะเป็นเรื่องราวเฮฮากับชีวิตประจำวันของเหล่าสัตว์ทะเลทั้งป่วนและฮาตามแบบการ์ตูนตะวันตก ที่ถ้าคุณดูแบบผ่าน ๆ มันก็เป็นการ์ตูนสำหรับเด็กทั่วไป แต่ถ้าคุณมานั่งดูกับลูกดี ๆ คุณจะเห็นแนวคิดต่าง ๆ แอบใส่อยู่ในเรื่องมากมาย ทั้งค่านิยมในสังคมการแบ่งเชื้อชาติทุนนิยมการแย่งชิงและหลาย ๆ อย่างที่ฉาบหน้าด้วยตัวการ์ตูนสีสันสดใส ที่เอาจริง ๆ เด็ก ๆ ที่ดูเรื่องนี้ก็ไม่ได้สนใจหรือรับรู้เรื่องราวแบบนั้นหรอก ไม่เชื่อลองไปถามลูก ๆ คุณที่นั่งดูพวกเขาจะพูดในมุมของเด็ก ๆ ที่ไม่ซับซ้อนตามที่พวกแกเห็น ซึ่งมันไม่ซับซ้อนแบบที่เราคิด เพราะพวกเขาแค่ดูเพราะชอบในตัวการ์ตูนเท่านั้น และเด็กก็คงจะไม่เก็บเรื่องราวที่แอบแฝงเหล่านั้นลงไปในหัวสมอง แต่เขาจะรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้ตอนที่ตัวเองเติบโตเอง แต่เราก็อดสงสัยไม่ได้ว่าแล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ที่เด็ก ๆ จะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ในการ์ตูน แล้วคนสร้างคนคิดเนื้อเรื่องจะใส่พวกนี้ลงไปทำไม ? เหมือนกับว่าพวกเขาต้องการบอกผู้ใหญ่ที่นั่งดูกับเด็ก ๆ มากกว่า ที่ถ้าเราคิดแบบนั้นอันนี้ก็น่าสนใจกว่าที่เราคิด แต่ทางผู้สร้างก็ไม่ได้ออกมาบอกว่าพวกเขาทำแบบนี้ไปทำไม จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ใหญ่จะกลัวว่าเด็ก ๆ จะซึมซับเนื้อหาพวกนี้มาใช้ ทั้งที่เอาจริง ๆ เด็ก ๆ ก็ไม่สนใจหรอกผู้ใหญ่เราคิดมากไปเองมากกว่า
Attack On Titan แค่ฉากคนโดนยักษ์กินก็เสียวแล้ว
เชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นชื่ออนิเมะ ‘Attack On Titan’ หลายคนคงจะคิดว่าอนิเมะเรื่องนี้เด็ก ๆ ดูรู้เรื่องด้วยหรอ เพราะตัวเนื้อเรื่องถ้าตัดความเป็นแฟนตาซีออกไป เนื้อหาในอนิเมะเรื่องนี้ก็โคตรการเมืองจ๋ามาก ๆ เลยทีเดียว นี่ยังไม่นับการหักหลังต่อสู้แย่งชิงการวางแผนการรบ ความรุนแรงขนาดแขนขาขาดความตายของตัวละครหลัก การแบ่งชนชั้นที่คนจนจะอยู่ริมกำแพงฝั่งนอก คนรวยคนชนชั้นสูงจะอยู่ข้างในกินดีอยู่ดีมีความสุข จนโลกข้างนอกหวาดกลัวคนที่อยู่ที่นี่เลยคิดจะมาทำลาย เรียกว่าเนื้อหาเข้มข้นจริงจังจนแม้แต่ผู้ใหญ่วัยรุ่นปวดหลังยังตามไม่ทันแล้วแบบนี้เด็ก ๆ จะดูหรือ ที่ต้องบอกว่าเด็ก ๆ ดูและดูเยอะด้วย เพราะในช่วงที่มังงะเรื่อง ‘Attack On Titan’ ถูกประกาศสร้างอนิเมะ กระแสในบ้านเราตอนนั้นแรงมาก ๆ จนเด็ก ๆ ยุคนั้นพร้อมใจกันถวายหัวใจซาซาเกโย (ท่าทำความเคารพพร้อมร้องเพลงในอนิเมะ) กันทั่วหน้า แต่มันก็เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจคล้าย ๆ กับดาบพิฆาตอสูร ที่เด็ก ๆ พอดูอนิเมะได้เห็นยักษ์จับคนกินเป็นขนมได้เห็นตัวละครตายรัว ๆ พวกเด็ก ๆ ก็ไม่ได้เศร้าเสียใจหรืออยากไปกระโดดลงมาจากหลังคาพร้อมมีดดาบ จะมีแค่เด็ก ๆ ที่แต่งตัวตามอนิเมะในงานต่าง ๆ ที่ก็เป็นกิจกรรมดี ๆ ที่ผู้ใหญ่ควรสนับสนุน จนเราผู้ใหญ่ต้องเอามาคิดแล้วว่าสรุปแล้วอนิเมะมังงะโหด ๆ มันส่งผลร้ายกับเด็ก ๆ รึเปล่าหรือเราผู้ใหญ่คิดไปเอง
Crayon Shin-chan เด็กชายทะลึ่งตึงตังลามก
ปิดท้ายกับอนิเมะที่มีมติเป็นเอกฉันท์ว่ามันไม่สมควรให้เด็กดู นั่นคือมังงะอนิเมะ ‘Crayon Shin-chan’ หรือชื่อไทยอย่าง “ชิงจังจอมแก่น” ที่สำหรับคนที่ไม่เคยดูมันจะเป็นเรื่องราวของเด็กลามกแก่แดดที่ชอบโชว์ช้างน้อยเปิดก้นส่ายไปมาเป็นมนุษย์ต่างดาวครึ่งก้น กับเรื่องราววุ่น ๆ ป่วน ๆ ที่เด็กชายคนนี้ไปมีส่วนร่วมกับผู้คนตามที่ต่าง ๆ ที่แม้เนื้อหาจะไม่รุนแรงออกแนวตลกครอบครัว แต่สิ่งที่เด็กคนนี้ทำมันช่างไม่เหมาะจริง ๆ ที่ไม่ว่าจะมองจากดาวอังคารหรือจ่อมองหน้าทีวี อนิเมะเรื่องนี้ก็ไม่เหมาะสำหรับเด็กเลย ทั้งที่เราก็รู้ว่าเด็ก ๆ คงไม่ไปเปิดก้นส่ายไปมาตามในอนิเมะหรือโชว์ช้างน้อยให้คนอื่นเห็นตามในการ์ตูน แต่การแสดงแบบอย่างที่ไม่ดีให้เด็ก ๆ ดูผ่านตัวละครมันก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอยู่ดี นี่ยังไม่นับที่เจ้าตัวเอกในเรื่องที่เถียงแม่และเรียกชื่อแม่ห้วน ๆ แทนที่จะเรียกแม่ ซึ่งคนสร้างอนิเมะคนเขียนมังงะก็จัดเรตการ์ตูนตัวเองที่ไม่ให้เด็ก ๆ ดูหรืออ่านอยู่แล้ว (รึเปล่า) ดังนั้นพ่อแม่ที่เห็นเด็ก ๆ นั่งดูอนิเมะเรื่องนี้ก็สอนสั่งบอกเด็ก ๆ ให้รู้ว่าสิ่งที่ตัวละครพูดกระทำกับแม่การโชว์ช้างน้อยเปิดก้นมันไม่ดีมันเป็นแค่การ์ตูน โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเลยดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้
ก็จบกันไปแล้วกับ 8 มังงะอนิเมะชื่อดังที่ชาวญี่ปุ่นคิดว่าไม่เหมาะให้เด็ก ๆ ดูพร้อมกับความเห็นที่เป็นกลาง ที่อยู่ระหว่างเด็กที่นั่งดูอนิเมะอ่านมังงะกับหัวอกคนเป็นพ่อแม่ที่ห่วงลูก และไม่ต้องการให้ลูกหลานซึมซับสิ่งเหล่านี้ผ่านอนิเมะชื่อดังทั้งเก่าใหม่พวกนี้ ที่ถ้าใครอ่านมาจนจบก็จะรู้ได้ว่าบางทีมุมมองของผู้ใหญ่ก็ชอบคิดเองเออเองว่าเด็ก ๆ จะเป็นแบบนั้นแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองก็โตมากับการ์ตูนแบบนั้นแต่ก็เป็นผู้ใหญ่ปกติได้ แต่เราก็อย่าลืมว่าอนิเมะยุคเก่าหลายเรื่องก็ใช้บริบทเนื้อหาในยุคนั้นมาสร้างที่ต่างกับยุคนี้ จึงอาจจะทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กยุคนี้ และเด็ก ๆ ยุคนี้ก็ฉลาดเขารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ดีไม่ควรทำอยู่แล้ว สิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราควรทำคือการสอนสั่งและชี้แนะบอกเขาในสิ่งต่าง ๆ ในอนิเมะเหล่านี้ เพื่อให้พวกเขาเข้าใจบริบทและเรื่องราวที่การ์ตูนสื่อแบบนั้นจะดีกว่าไปห้ามเขาดูการ์ตูน เพราะถึงห้ามไปเด็กก็จะแอบไปดูเองแบบนั้นจะแย่ยิ่งกว่า ขอฝากคุณพ่อคุณแม่ที่อ่านบทความนี้เก็บไปคิดเป็นการบ้านก็แล้วกัน
อ้างอิง https://ranky-ranking.net/I0001804
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส